Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 จิตในจิตบอกว่าอยากเป็นพระพุทธเจ้า อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
พระสุพิน อัตตสันโต
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 27 มี.ค.2005, 7:22 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ครั้งนึง ขณะกราบพระพุทธรูปด้วยจิตสงบอยู่นั้นก่อนจะนั่งสมาธิพลันจิตในจิต



ก็บอกว่าอยากเป็น พระพุทธเจ้าเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยคิดมาก่อน



เพราะเป็นสิ่งที่สู่งมาก ถามใครก็ได้รับคำตอบไม่ตรงประเด็น ทำให้เกิด



ความสงสัยจวบทุกวันนี้ ขอถามเพราะเหตุใดจิตในจิตจึงบอกอย่างนั้น



โปรดช่วยแก้ขอสงสัยนี้ด้วย หวังได้รับเมตตาธรรมจากผู้รู้ทั้งหลาย



(อนุโมทนาสาธุล่วงหน้า)
 
เขม
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 27 มี.ค.2005, 7:36 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

มันคิดได้ยิ่งกว่านั้นอีกครับผม

ไปเชื่อถืออะไรกับความคิดซึ่งหลอกลวง

ขณะนั้นมันอยากเป็นพุทธเจ้า

ตามดูสิมันอยากเป็นอะไรอีก

แล้วดูอีกเป็นอยากเป็นอะไรอีก

ดูไปๆๆๆๆๆ

จะเห็นมันอยากเป็นนั่นเป็นนี่ตลอด

 
รักธรรม
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 27 มี.ค.2005, 8:34 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

นมัสการพระคุณเจ้า สิ่งที่ท่านสัมผัสจากจิตในจิตของท่านเป็นดังนั้นอาจสืบเนื่องมาจากสัญญาของจิตท่านจากกาลก่อนก้อเป็นได้ ถือเป็นสิ่งที่ดี มิควรสงสัย แต่ควรมุ่งปฏิบัติต่อไปเพื่อผลนั้น เพราะถ้าท่านปราถนาพุทธภูมิจริงท่านต้องผ่านการบำเพ็ญและปฏิบัติอย่างเต็มที่เต็มกำลังอีกยาวนานหลายอสงขัยกัปล์ เป็นสิ่งที่ดีที่ได้พบเป้าหมายของตัวตน บางคนใช้ชีวิตอยู่ไปเรื่อยโดยไม่มีเป้าหมายใดแน่นอนและก้ออาจเป็นเช่นนั้นไปในทุกๆชาติ แต่บางคนมีเป้าหมายชัดเจนแน่นอน กำลังใจกำลังสมาธิแม่นมั่นข้ามภพข้ามชาติก้อยังจดจำสัญญานั้นๆได้อยู่และมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึงจุดหมาย ขออนุโมทนาบูญในสัญญาจากจิตในจิตของท่านด้วยค่ะ
 
ธัมมิกะ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 27 มี.ค.2005, 8:43 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ดูการเกิดดับของจิตซึ่งเกิดขึ้นในขณะนั้นๆ แล้วจะเข้าถึงพุทธธรรม
 
โอ่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 27 มี.ค.2005, 8:46 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

แล้วทำไมคิดว่าเป็นจิตในจิตละครับ จิตในจิตนั้นจริงๆเป็นยังไงกันแน่ครับ
 
โมฆบุรุษ
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 17 ธ.ค. 2004
ตอบ: 38

ตอบตอบเมื่อ: 27 มี.ค.2005, 8:51 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กราบนมัสการพระคุณเจ้าครับ



บำเพ็ญไปทางสายพุทธภูมิเลยครับ

หากเบื่อเมื่อไหร่ ก็ค่อยลาครับ



ลองเข้าไปอ่านที่นี่ด้วยนะครับ

เป็นแนวทางคร่าวๆครับ
http://Bodhisattva.name/



ขอโมทนาบุญในการที่จะรื้อสัตว์ให้ข้ามไตรภพ

ให้พ้นจากวัฏฏสงสารมากต่อมากนะครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
สุเชาว์
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 27 มี.ค.2005, 9:13 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

จำได้จากมหาสติปัฏฐานสูตร ว่า ภิกษุเห็นจิตในจิต

..เห็นเวทนาในเวทนา

..เห็นกายในกาย

..เห็นธรรมในธรรม
 
สายลม
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245

ตอบตอบเมื่อ: 27 มี.ค.2005, 9:37 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน





สาธุด้วยครับ



 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
สับสน
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 27 มี.ค.2005, 10:25 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อายตนะ + อารมณ์ + วิญญาณ = ผัสสะ ---->เวทนา---->สัญญา---->สังขาร---->ตัณหา----->อุปาทาน------>ภพ----->ชาติ----->ชรา------>มรณะ



มโนสังขาร = มโนสัญเจตนา----->มโนทวาร------>มโนกรรม



เมื่อปรุงแต่ง ก็ย่อมเวียนว่าย



ปรุงแต่งว่า อยากเวียนว่าย ก็ย่อมเวียนว่าย

ปรุงแต่งว่า ไม่อยากเวียนว่าย ก็ยังต้องเวียนว่าย



ขันธ์ 5 ดับ ปรุงแต่งไม่มี ที่อยู่ของตัณหาไม่มี ตัณหาก็ไม่มี



จึงหยุดเวียนว่าย



ผู้อยู่ในภูมิธรรมใด ย่อมเห็นได้ตามภูมิธรรมนั้น

สัตว์โลกย่อมมีกรรมเป็นของตน จึงต้องเวียนว่ายกันต่อไป



ขอให้เจริญในธรรม
 
พระสุพิน อัตตสันโต
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 27 มี.ค.2005, 10:53 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อนุโทนาบุญ



ที่ทุกท่านช่วยแก้ข้อสังสัย แก่อาตมา(ผู้ยังต้องศึกษา) พอที่จะเข้าใจอะไรดีขึ้น



มาบ้าง มีอยู่ครั้งหนึ่งเคยถามพระด้วยกันท่านตอบว่า(อวด) ก็เลยไม่กล้าถามใครอีก



พอได้มาตรงนี้พบผู้มีบุญและผู้รู้จึงได้ถามอีกครั้ง ซึ่งช่วงนั้นรู้สึกเป็นบ่อยมากจนเกิด



ความทุกข์ (ทุกข์เพราะสงสัย) เพราะเข้าใจในระดับจิตตัวเองดีว่าเป็นอย่างไร



แต่ทุกวันนี้ความรู้สึกตรงนั้นเริ่มเข้าปกติ แต่ก็ใช่ว่าจะหายไปเลยก็ยังมีอยู่เป็นอยู่



ในบางครั้ง



อนุโมทนาสาธุขอให้เจริญใธรรมทุกท่าน
 
TU
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 1589

ตอบตอบเมื่อ: 28 มี.ค.2005, 1:16 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ปุถุชนย่อมมีศรัทธาไม่มั่นคง ปุถุชนย่อมมีจิตไม่มั่นคง เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เราจึงไม่ควรยึดมั่นถือมั่นมากจนเกิดเป็นความทุกข์ ดังนั้น การที่จิตในจิตบอกว่าอยากเป็นพระพุทธเจ้า ไม่ว่าจะเพราะเหตุใดก็ตาม ก้อควรวางจิตของเราเป็นอุเบกขาไว้ก่อน



ถ้าเกิดฉันทะ เพื่อการเป็นพระพุทธเจ้า แล้วเกิดกำลังใจเพียรมุ่งมั่นปฏิบัติตน เพียรมุ่งมั่นปฏิบัติธรรมเพื่อการนั้น นับว่าเป็นสิ่งที่ประเสริฐ



ถ้าเราศึกษาขั้นตอนการสร้างบารมีของพระพุทธเจ้าหรือพระอริยมหาสาวก จะพบว่า กว่าท่านจะได้เป็นพระพุทธเจ้าหรือพระอริยมหาสาวก ล้วนต้องตั้ง "จิตปรารถนา" ไว้ในอดีตชาติ เป็นลำดับแรกก่อนค่ะ



 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวYahoo Messenger
สับสน
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 28 มี.ค.2005, 11:23 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ก็ให้ดูความเปลี่ยนแปลงนั้นแหละ จะไปทำอะไรได้อีก



คิดจะทำอะไรอีก ก็ปรุงแต่งอยู่ดี ก็ย่อมเปลี่ยนแปลงอยู่ดี



หลอกกันไปหลอกกันมาอยู่นี่ล่ะ แม้แต่ตัวหลอกด้วยกันเอง



ดู และ สักแต่ว่ารู้ เท่านั้น



แม้แต่ตัวดู ก็หลอกเช่นเดียวกัน แต่เลี้ยงไว้ใช้ดูก่อน



เพราะไม่งั้นก็ไม่มีตัวดู



ก่อนที่ปล่อยให้มันก็ดับเองเป็นตัวสุดท้าย



มันก็จะตัดวงจรได้พอดี



ขอให้เจริญในธรรม
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง