ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
poivang
บัวตูม

เข้าร่วม: 18 มิ.ย. 2005
ตอบ: 224
|
ตอบเมื่อ:
09 พ.ค.2008, 4:03 pm |
  |
ในสังคมไทยพุทธศาสนิกชนนิยมทำบุญสุนทานกัน ตามวัดที่มีงานบุญต่างๆ จะมีผู้คนไปทำบุญสุนทานกันมากมาย แต่ขณะเดียวกันผู้ที่ไปทำบุญนั้นก็มีจิตในการไปร่วมงานบุญต่างกันไป ตามความคิดตามเจตนาตามความรู้หรือทำตามๆ กันไปก็ตาม เป็นไปด้วยความเข้าใจในการทำบุญให้ทานบ้างไม่เข้าใจในเรื่องการทำบุญให้ทานบ้าง ว่าทางพระพุทธศาสนาสอนเรื่องการทำบุญให้ทานนั้นเพื่ออะไร มีจุดประสงค์อย่างไรในการที่ให้ทำทาน
หลายคนไม่เข้าใจในวัตถุประสงค์ของการให้วัตถุทาน บางคนเอากิเลสตนไปรวมปะปนกับการให้ทาน ไม่เข้าใจว่าพระพุทธศาสนามีวัตถุประสงค์ให้ทานไปเพื่ออะไร ดังนั้น ท่านพุทธทาสภิกขุท่านได้แจงอธิบายให้เข้าใจเรื่องการทำทาน การให้วัตถุทานนี้เป็นไปเพื่ออาสวะก็มี ,ไม่เป็นไปเพื่ออาสวะก็มี
การให้อามิสทานหรือวัตถุทานมีสองลักษณะ
โดย พระธรรมโกศาจารย์ (ท่านพุทธทาสภิกขุ)
การให้ทานนั้นประกอบด้วยความพอใจยินดีในการให้ ทั้งสามเวลาคือก่อนให้ กำลังให้ และเมื่อให้แล้ว คือเมื่อคิดว่าจะให้ทานก็ต้องอิ่มอกอิ่มใจที่จะให้ เมื่อกำลังให้อยู่ก็มีความอิ่มอกอิ่มใจ และเมื่อให้ไปแล้วก็ยังอิ่มใจอยู่ นี่เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าให้ทานดีแล้วเหมาะแล้ว
การให้ทานที่ดีต้องมีการเลือกเฟ้น ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของรวมทั้งเรื่องของกาลเวลาที่เหมาะสม ถ้าเราไม่เลือกเรื่องเวลาแล้วมันจะประดังกันเข้ามา คนรับจะเอาไปเททิ้งได้เมื่อของนั้นล้นเหลือเกินและเสียแล้วไม่เป็นประโยชน์ อย่างการทำบุญทำทานของเราบางโอกาสเหลือมากจนไม่รู้จะเอาไปไหน อย่างนี้มันผิดเวลา ควรทำให้ถูกเวลา
มีคนเล่าให้ฟังว่าที่ไปฮัจยีกันที่เมืองเมกกะนั้น เขามีระเบียบธรรมเนียมให้ทานเหมือนกัน คือแต่ละคนที่ไปที่นั่นจะต้องบริจาคเงินค่าแพะหนึ่งตัวบ้างสองตัวบ้าง แล้วฆ่าแพะนั้นไว้เป็นทานเพื่อว่าคนไม่มีเงินได้อาศัยเป็นอาหาร แต่ก็มีคนบริจาคมากเกินควรแพะที่ถูกฆ่านี้กองเป็นภูเขาแล้วไม่มีใครกินหวาดไหว แพะเลยเน่าเหม็นคุ้งไปหมด
นี่เป็นการให้ทานผิดเวลาผิดสถานที่มักจะมีด้วยกันทุกศาสนา เพราะว่าศรัทธามากเกินไป ฉะนั้นจึงต้องเลือกสิ่งของเลือกเวลา เลือกสถานการณ์ให้ดี เลือกอะไร เลือกให้ดี ไม่งั้นจะเป็นเหมือนตักน้ำใส่ตุ่มเมื่อน้ำเต็มตุ่มแล้วก็ยังพากันตักน้ำใส่ตุ่มนั้นอีก จนน้ำล้นแล้วล้นอีกไม่เป็นประโยชน์ สูญเสียน้ำไปโดยไม่มีประโยชน์ใดๆ ทั้งที่ตุ่มอื่นๆ ก็ยังว่างสามารถใส่น้ำได้ก็ไม่ตักใส่ตุ่มที่ว่างนั้น เพราะชอบตุ่มไหนก็ตักใส่อยู่ตุ่มเดียวจนน้ำล้นแล้วล้นอีก
ทีนี้เราต้องเลือกให้เป็น เลือกให้ที่ที่มีประโยชน์กว้างขวาง ดังนั้นมันจึงเกิดมีการให้ที่เป็นสังฆทาน (คือการให้ส่วนรวม แก่คณะสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข เป็นต้น) และ ปุคคลิกทาน (คือการให้แก่คนที่เรารัก เราชอบเป็นคนๆ ไป เป็นต้น) ส่วนการให้สังฆทานนั้นมีอานิสงส์มากกว่าปุคคลิกทาน
ทีนี้ขอเตือนว่าให้ระวังให้ดีอีกอย่างหนึ่งคือการให้อามิสทานหรือวัตถุทานอย่างนี้มันเป็นไปเพื่ออาสวะก็มี ไม่เป็นไปเพื่ออาสาวะก็มี
การให้อามิสทานหรือวัตถุทานมีสองลักษณะดังนี้
๑. คือการให้ทานที่เป็นไปเพื่ออาสวะ นั้นมันเพิ่มกิเลสเป็นเจตนาค้ากำไรเกินควร การทำบุญให้ทานแล้วจบแล้วจบเล่า ขอผลเป็นร้อยเป็นพันเท่าคล้ายกับว่าทำบุญหนึ่งบาทให้ได้วิมานหนึ่งหลัง นี่เป็นทานที่เป็นไปเพื่ออาสวะ คือเพิ่มความเห็นแก่ตัวให้มีมากขึ้น
เขาไม่ได้ตำหนิว่าผิดอะไรนัก แต่ระบุให้เห็นว่านี้เป็นอาสวัฏฐานียะ คือเป็นที่ตั้งแห่งกิเลสแห่งอาสวะที่มากออกไป ทานชนิดนี้เขาเรียกว่าเป็นไปเพื่ออาสวะ
๒. ทานที่ไม่เป็นไปเพื่ออาสวะ คือให้มันหมดไปทำลายความยึดมั่นถือมั่น ทำลายความเห็นแก่ตัว ไม่บริจาคหรือทำบุญด้วยการหวังผลตอบแทนในทางที่เป็นไปซึ่งกิเลส แต่บริจาคหรือทำบุญไปโดยคิดว่าให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น โดยเราไม่ต้องการอะไรตอบแทน ให้ทานไปเพื่อทำลายความเห็นแก่ตัวของเรา ไม่ต้องการผลตอบแทนร้อยเท่าพันเท่า
การทำบุญค้ากำไรเกินควรนั่นแหละคือการเวียนว่ายตายเกิดไปในวัฏสงสารอีก แล้วก็เป็นอุปธิคือของหนักจะต้องแบกเอาไป รวยกว่าเก่าต้องแบกเอาไปมากกว่าเก่า รวยมากกิเลสก็มากหวงห่วงทรัพย์มากแบกภาระมาก มันจึงเป็นของหนัก
แต่ถ้าให้ทานโดยไม่เอาอะไรตอบแทนทำนองนี้มันเป็นของเบา เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นทานที่เป็นไปเพื่อพระนิพพาน การให้ทานที่เป็นไปเพื่อละกิเลส เป็นไปเพื่อพระนิพพาน ต้องเบา อยากให้ทานชนิดไหนก็เลือกเอาเองแล้วกัน |
|
แก้ไขล่าสุดโดย poivang เมื่อ 16 พ.ค.2008, 3:22 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง |
|
   |
 |
กุหลาบสีชา
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2007
ตอบ: 1466
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
10 พ.ค.2008, 3:23 pm |
  |
จิตที่คิด "สละออก" ....ไม่ยึดตึดคาดหวังกับสิ่งตอบแทนใดใด
เป็นการฝึกหัดคลายความยึดมั่นถือมั่นในตัวตน
ย่อมได้รับการยกระดับและชำระให้บริสุทธิ์ขึ้นโดยลำดับ
อนุโมทนาสาธุด้วยนะคะคุณ poivang
สบายดีรึเปล่าคะ....  |
|
|
|
    |
 |
ลูกโป่ง
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
12 พ.ค.2008, 2:27 pm |
  |
สาธุค่ะ...คุณpoivang
ธรรมะสวัสดีค่ะ
 |
|
|
|
   |
 |
poivang
บัวตูม

เข้าร่วม: 18 มิ.ย. 2005
ตอบ: 224
|
ตอบเมื่อ:
16 พ.ค.2008, 2:30 pm |
  |
เจริญในสุขเจริญในธรรมค่ะคุณกุหลาบสีชา คุณลูกโป่ง |
|
|
|
   |
 |
บัวหิมะ
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273
|
ตอบเมื่อ:
21 ส.ค. 2008, 8:08 pm |
  |
ทานที่เป็นของเบา ต้องดีแน่ ใช่ไหมท่าน poivang
เจริญในธรรมค่ะ |
|
_________________ ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ |
|
  |
 |
ชาญวิทย์
บัวเริ่มพ้นน้ำ


เข้าร่วม: 04 พ.ค. 2008
ตอบ: 152
|
ตอบเมื่อ:
24 ส.ค. 2008, 8:11 pm |
  |
สาธุจ้า
 |
|
_________________ ธรรมะคือธรรมชาติ |
|
   |
 |
|