โครงการบรรพชาสามเณร 84,000 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล

ตอบเมื่อ: 24 ต.ค.2007, 12:56 pm

คณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กำหนดจัด โครงการบรรพชาสามเณร 84,000 รูป เพื่อถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550

วัตถุประสงค์
1) เพื่อถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550
2) เพื่อให้ประชาชนทุกหมู่เหล่า ได้แสดงออกซึ่งความจงรักภักดีด้วยการเข้าร่วมกิจกรรมกุศลในครั้งนี้
3) เพื่อให้เยาวชนได้มีโอกาสศึกษาและปฏิบัติตามหลักธรรมของศาสนาเพื่อเป็นแนวปฏิบัติในชีวิตต่อไป

ผู้เข้าร่วมบรรพชา
เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-2 ประกอบด้วย
- ส่วนกลาง (กรุงเทพฯ) รวมจำนวน 981 คน
- ส่วนภูมิภาค รวมจำนวน 82,800 คน
- 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมจำนวน 219 คน

ระยะเวลาบรรพชา
วันที่ 14-28 ตุลาคม 2550 โดยจะทำการศึกษาเล่าเรียนปริยัติธรรม ฝึกปฏิบัติธรรม อบรมเสขิยวัตรกับพระอาจารย์ ตลอดระยะเวลา 15 วันของการบรรพชา

กำหนดการจัดงาน
จัดพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 14 ตุลาคม 2550 ส่วนกลางจัดที่หอประชุมพุทธมณฑล ส่วนภูมิภาคจัดที่วัดซึ่งเจ้าคณะจังหวัดเห็นชอบ จังหวัดละประมาณ 10 วัด

ในวันที่ 23 ตุลาคม 2550 เวลา 17.09 นาฬิกา รวมพลัง สวดมนต์ปฏิบัติสมาธิรวมพลังถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยพร้อมเพรียงกัน

การร่วมบริจาค
ผู้มีจิตศรัทธาร่วมเป็นเจ้าภาพบรรพชาสามเณร สามารถบริจาคได้รูปละ 3,500 บาท หรือตามกำลังศรัทธาได้ที่ ส่วนกลาง (กรุงเทพและปริมณฑล) บริจาคได้ที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือบริจาคผ่านบัญชี

ธนาคารกรุงเทพ สาขาสำนักงาน ก.พ. 201-0-54929-9
ธนาคารทหารไทย สาขาสำนักงานใหญ่ 001-7-92555-3
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเทเวศร์ 120-2-63278-4
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาพระรามที่ 3 777-1-44520-9
ธนาคารกสิกรไทย สาขานางเลิ้ง 062-2-39155-4
ธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยรัฐสภา 089-0-03577-6

สอบถามรายละเอียดได้ที่
ศูนย์บริการ Call Center วุฒิสภา
โทร. 02-244 1777-8 โทรสาร. 02-244 177

กลุ่มงานงบประมาณ โทร. 02-831- 9249-50 โทรสาร. 02-831 8250, 02-831 9245

หรือกลุ่มงานการเงิน สำนักการคลังและงบประมาณ โทร. 02-244 1578 โทรสาร. 02-244 1597, 02-244 1523

ส่วนภูมิภาค : สอบถามรายละเอียดและบริจาคโดยตรงได้ที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ http://www.onab.go.th/
โดย : คณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ

....................
บวชสามเณร 84,000 รูป ถวายเป็นพระราชกุศล

โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก

ผมมีข่าวที่น่าปลื้มปีติเป็นอย่างยิ่งคือ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ รัฐบาล และมหาเถรสมาคม ได้จัดโครงการ 3 โครงการ คือโครงการไถ่ชีวิตโคกระบือ โครงการปลูกป่าชายเลน และโครงการบวชสามเณร 84,000 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในปี 2550 นี้

สองโครงการแรกได้ดำเนินมาระยะหนึ่งแล้ว ปรากฏว่ามีผู้มีจิตศรัทธาและจงรักภักดีในพระเจ้าอยู่หัว บริจาคเงินสมทบทุนเป็นจำนวนมาก เกินเป้าที่คิดกันไว้แต่แรก

เหลือแต่โครงการสุดท้ายคือบวชสามเณร ยังไม่ได้เริ่ม ท่านประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ประกาศแต่งตั้ง พลเอกหม่อมราชวงศ์ กำลูนเทพ เทวกุล เป็นประธานกรรมการ และท่านวิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการเรื่องการบวชสามเณร

คณะกรรมการอำนวยการของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นแกนกลางประสานงาน ร่วมกับมหาเถรสมาคม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงพัฒนาการสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงกลาโหม และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

ในส่วนภูมิภาคมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานฝ่ายฆราวาส เจ้าคณะจังหวัดเป็นประธานดำเนินงานฝ่ายบรรพชิต ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรมจังหวัด ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประธานหอการค้าจังหวัด ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัด ประธานธนาคารจังหวัด โดยมีผู้อำนวยการสำนักพุทธศาสนาจังหวัดเป็นเลขานุการ

กระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานหลักสรรหานักเรียนระดับมัธยมศึกษาทั่วประเทศ กำหนดเอานักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-2 ตามจำนวนที่คณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐานในเขตพื้นที่การศึกษากำหนด จำนวนดังกล่าว ทั่วราชอาณาจักร

สถานที่บวชและอบรม ทางคณะสงฆ์โดยมหาเถรสมาคมเป็นผู้กำหนด โดยใช้หลักสูตรที่ร่างขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ สามเณรจะบวชตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม ถึง 28 ตุลาคม 2550 ระยะเวลาสั้นๆ แต่ก็หวังว่าจะได้บุญทั้งพ่อแม่ของสามเณร ตลอดถึงญาติมิตร และประชาชนผู้มีจิตศรัทธาร่วมผู้เป็นเจ้าภาพ รวมถึงชาวพุทธทั่วไปผู้ร่วมอนุโมทนา

ถ้าใช้ภาษาชาวพุทธก็ว่า “พ่อแม่ได้เกาะชายจีวรลูกชายขึ้นสวรรค์” ในความหมายหลวมๆ คือได้บุญจากการบวชเณรลูกชาย ตายไปมีสุคติเป็นที่ไปในเบื้องหน้า

ในความหมายที่แท้ในแง่ธรรมะก็คือ เมื่อลูกชายบวช พ่อแม่ไม่เคยไปวัด หรือไปเป็นครั้งคราว ก็มีโอกาสเข้าวัดฟังธรรมบ่อยขึ้น ทำบุญบ่อยขึ้น ได้เรียนรู้คำสอนมากขึ้น

นับว่าได้บุญ (คือความดีงาม) อย่างที่ไม่เคยได้มาก่อน แสดงว่าชีวิตนี้ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะได้อาศัยการบวชของลูกชายแท้ๆ

อย่างนี้จะไม่เรียกว่า “เกาะ” ชายจีวรลูกได้อย่างไร

ตัวสามเณรเองได้รับการฝึกฝนอบรม ได้เรียนรู้พระพุทธศาสนา มีความรู้ความประพฤติดีขึ้น ก็เรียกว่าตัวเองได้ขึ้น “สวรรค์” แล้ว ยิ่งกว่านั้น การบวชในโอกาสนี้ เป็นการอุทิศพระราชกุศลที่พึงมีทั้งหมด ถวายพระเจ้าอยู่หัวพระผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ของเราด้วย

สามเณรรุ่นนี้เป็นสามเณรที่มีบุญเป็นพิเศษ ใครได้มีลูกมาบวชในโอกาสมหามงคลนี้ จะจารึกเป็นอนุสรณ์ของตนเองและวงศ์ตระกูลสืบไปชั่วกาลนาน เพราะจีวรที่ครองก็เป็นจีวรพระราชทานด้วย พูดมาตั้งนาน ลืมบอกว่า พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย อยากจะทำบุญบวชสามเณร 84,000 รูป ครั้งนี้จะบริจาคเงินร่วมได้ที่ไหน มีบัญชีตามธนาคารต่างๆ ดังนี้ครับ

ธนาคารกรุงเทพ สาขาสำนักงาน ก.พ. เลขที่บัญชี 201-0-54929-9

ธนาคารทหารไทย สาขาสำนักงานใหญ่ เลขที่บัญชี 001-7-92555-3

ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเทเวศร์ เลขบัญชี 020-2-63278-4

ธนาคารกสิกรไทย สาขานางเลิ้ง เลขที่บัญชี 062-2-39155-4

ธนาคารศรีอยุธยา สาขาสำนักพระรามที่ 3 เลขที่บัญชี 777-1-44520-9

ธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยรัฐสภา เลขที่บัญชี 089-0-03577-6

หรือติดต่อ Call Center รัฐสภา 0-2244-1777-8 โทรสาร 0-2244-1779, กลุ่มงานการเงิน รัฐสภา 0-2244-1578, โทรสาร 0-2244-1579

คณะกรรมการฝ่ายกิจกรรมได้คิดกันว่า ควรมีการถ่ายทอดโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจทั่วประเทศ 3 วาระ (ถ้าเป็นไปได้) คือในวันบรรพชา มีพิธีขอขมาบุพการี พิธีสดุดีมหาราชาต่อพระบรมฉายาลักษณ์พระเจ้าอยู่หัว และวันรวมพลังปฏิบัติบูชา ถวายพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และวันลาสิกขา มีพิธีมอบวุฒิบัตร (หรืออะไรประมาณนั้น) เพื่อความภาคภูมิใจของสามเณรผู้บวช

ผศ.นภาจรี นำเบญจพล (หลานกวี จำรัส สายโสภณ ผู้แต่งสงครามยอนเทวาอันลือชื่อ) ได้แต่งบทกวีขอขมาบุพการีและบทกวีสดุดีในหลวงของเรา เสนอเพื่อพิจารณาใส่ไว้ในกิจกรรม ไพเราะมาก อ่านแล้วยังอยากบวชด้วยจัง (ยังไม่ยุติว่าจะใช้หรือไม่ ถ้าใช้จะสอดแทรกเข้าในจังหวะใด) นำมาให้ดูตัวอย่างเฉพาะคำขอขมา คำขอขมาบุพการีของผู้บวชดังนี้

กราบเท้าบูชาคุณ ผู้การุณย์แต่เยาว์วัย
ให้ชีวิตจิตใจ ให้เลือดเนื้อเอื้ออาทร
กราบเท้าขอขมา ต่อบิดาและมารดร
กายกรรมเก่าก่อน พลาดพลั้งก็ขออภัย

วจีกรรมทั้งสี่ แม้ลูกนี้ประมาทไป
มโนกรรม...ใดใด พลาดผิดไปขอขมา
กรรมที่ไม่ตั้งใจ หรือกรรมใดที่เจตนา
ขอบิดร-มารดา อโหสิกรรม นำทางบุญ

เพื่อเพศพรหมจรรย์ พิสุทธิ์สรรอันเกื้อหนุน
ประพฤติตอบแทนคุณ บรรพชา...มหากุศล
หอมเอยหอมความดี กลางใจที่..บันดาลดล
งามเอยศีลครองตน เรืองรัตน์หล้าแห่งธานี

สะอาด สว่างฟ้า เทพเทวาสดุดี
สงบ...พบชีวี ตามรอยบาทพระศาสดา
ธูปเทียนพานทองนี้ พุทธ์พิธีขอขมา
มะลิร้อย มาลา กราบบิดา-มารดรเอย

จึงขอบอกบุญมายังพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ช่วยกันอุปถัมภ์จตุปัจจัยในการบวชสามเณร 84,000 รูปและถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พระประมุขของเราชาวไทยทั้งมวล ณ โอกาสนี้

ขออนุโมทนาบุญทุกท่านครับ

หนังสือพิมพ์มติชน รายวัน หน้า 6
คอลัมน์ รื่นร่มรมเยศ โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก
วันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10760

http://www.matichon.co.th/matichon/m...sectionid=0121

ตอบเมื่อ: 24 ต.ค.2007, 1:08 pm

บวชสามเณร 84,000 รูป ถวายเป็นพระราชกุศล (อีกกระทู้)
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=13591

ตอบเมื่อ: 25 ต.ค.2007, 9:09 am

โมทนาสาธุครับ

ตอบเมื่อ: 30 ต.ค.2007, 8:39 pm

ขออนุโมทนาสาธุค่ะ