ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
เศษพุทธทาส
บัวใต้น้ำ

เข้าร่วม: 08 เม.ย. 2007
ตอบ: 121
|
ตอบเมื่อ:
26 เม.ย.2007, 9:07 am |
  |
1. เป็นการยืนยันทางประวัติศาสตร์อันยาวนานของไทยว่า พระพทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ ดังคำ "จารึกพระเจ้าตากสินมหาราชที่วัดอรุณราชวราราม"
อันตัวพ่อชื่อว่าพระยาตาก
ทนทุกข์ยากกู้ชาติพระศาสนา
ความยแผ่นดินให้เป็นพุทธบูชา
แก่พระศาสดาสมณะพระพุทธโคตม
คิดถึงพ่อพ่อยู่คู่กับเจ้า
ชาติของเราคงอยู่คุ่พระศาสนา
พุทธศาสนาคงอยู่คู่องค์กษัตรา
พระศาสดาฝากไว้ให้คู่กัน
2. การเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรในรัฐธรรมนูญ จัดเป็นบุรพกิจเบื้องต้น จากนั้นจะนำพระพุทธศาสนา ไปเป็นหลักการศึกษา การเมือง การปกครอง และกการเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง เรียกว่า นำพระพุทธศาสนาไปเป็นนโยบายของรัฐบาลในการปกครองบ้านเมือง ถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว พวกเราก็จะแก้ปัญหาบ้านเมืองกันด้วยวิธีทางกฏหมาย โดยละเลยพระพุทธศาสนาและศีลธรรมตลอดมา
3. การมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ กับการเป็นรัฐศาสนา ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว ศาสนาประจำชาติ มิได้มีอะไรรุนแรง กีดกัน กำจัดศาสนาอื่นหรือความเชื่องถืออื่นและคงไม่ถึงขนาดต้องเอาบทบัญญัติของศาสนาไปเป็นกฏหมายปกครองบ้านเมืองแทนรัฐธรรมนุญ กฏหมายอาญา และกฏหมายเพ่งพาณิชย์
4. การมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ มิใช่เป็นการเบียดบังหรือแบ่งแยกศาสนาอื่นๆ เพราะตลอดประวัติศาสตร์กว่า 2500 ปี ไม่เคยทำร้ายเบียดเบียน หรือทำใครให้เลือดตกยางออกในนามของ พระพุทธเจ้าหรือพระศาสนาเลย กลับจะเป็นการรักษาสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ปัจจุบันประเทศที่ระบุศาสนาประจำชาติไว้ในรัฐธรรมนูญมีอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ศษสนาคริสต์มีอยู่ 11 ประเทศ ศาสนาอิสลามมีอยู่ 40 กว่าประเทศ ศาสนาฮินดู คือ ประเทศเนปาล ศษสนายิว คือ ประเทศอิสราเอล ศาสนาพุทธ คือ ประเทศภูฏาน พม่า ศรีลังกา กัมพูชา เป็นต้น เข้าก็อยู่กันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่เกิดความแตกแยกแต่อย่างใด ยิ่งพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งคสวามเมตตา สงบร่มเย็น ดูจากประวัติศาสนา พระพุทธศาสนาได้เคยไปเบียดเบียนศาสนาอื่นเลยมีแต่ถูกศาสนาอื่นเบียดเบียน
5. การมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไว้ในรัฐธรรมนูญ แล้วนำพระพุทธรรมไปเป็นส่วนสำคัญของการปกครองบ้านเมือง จะช่วยสนับสนุน นโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมาและรัฐบาลของ พล. อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ เกี่ยวกับ
"เรื่องประเทศไทยเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาแห่งโลก" โดยตรง ด้วยเหตุผลดังกล่าวแล้ว จึงสมควรบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ว่า "พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ" เพราะคนไทยส่วนใหญ่ ร้อยละ 95 นับถือพระพุทธศาสนาตังแต่อดีตมาถึงปัจจุบัน
หากจะเปรียบไปแล้วก็เหมือนในครอบครัวหนึ่ง ซึ่งอยู่กินกันโดยพฤตินัย ภรรยาหลวงเป็นคนมีเมตตาสงบเสงี่ยมเรียบร้อย ต่อมาสามีมีภรรยาน้อยซึ่งเป็นคนก้าวร้าว อาละวาดทุบตีภรรยาหลวง ภรรยาหลวงจึงขอให้สามีจดทะเบียนสมรสใหถูกต้องเพื่อปกป้องสิทธิ์ของตน ซึ่การจดทะเบียนให้ถูกต้องตามนิตินัยกลับจะทำให้ทุกฝ่ายรู้สถานภาพบทบาทตัวเองชัดเจนยิ่งขึ้น
ประโยชน์ประเทศไทยได้รับจากพระพุทธศาสนา
1. สร้างเอกลักษณ์ความเป็นไทย
2. ส่งเสริมการท่องเที่ยว ชมวัฒนธรรมงานศิลปไทยที่เกิดขึ้นตามวัดต่างๆ
3. ศีลธรรมกลับมา ประเทศไทยเจริญ
4. ช่วยลดการคอรัปชั่นได้ทุกรูปแบบ
5. สร้างความเป็นไทยหนึ่งเดียว
6. ส่งเสริมครอบครัวแบบไทย
7. เศรษฐกิจพอเพียง ตามรอยวัฒนธรรม
8. ไทยสุขภาพจิตดีถ้วนหน้า ฯลฯ
การระบุในรัฐธรรมนูญว่า "ประเทศไทยมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ" จะทำให้สังคมไทยลดความขัดแย้ง เกิดความสงบร่มเย็น สามัคคีโดยภาพรวม จึงขอวิงวอนให้สมาชิกสภาร่าวรัฐธรรมนูญทุกท่านโปรดฟังเสียงของพระสงฆ์และชาวพุทธทั่วประเทศบ้างเถิ ล
และขอให้เราชาวพุทธจงช่วยสนับสนุน ให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ อย่างเต็มกำลัง แม้ไม่ได้มาด้วยกาย ก็ขอให้ส่งกำลังใจ กำลังจิต มาเพื่อให้พระพุทธศาสนาเป้นศาสนาประจำชาติด้วยเถิด |
|
_________________ ทำวันนี้ให้ดีและต้องรู้ไว้ว่า ทำดีเพื่อดี ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ อุปสรรคไม่มี บารมีไม่เกิด |
|
  |
 |
เศษพุทธทาส
บัวใต้น้ำ

เข้าร่วม: 08 เม.ย. 2007
ตอบ: 121
|
ตอบเมื่อ:
27 เม.ย.2007, 9:50 am |
  |
ผมได้มาจากท่าน พระราชปัญญาเมธี รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ฯ |
|
_________________ ทำวันนี้ให้ดีและต้องรู้ไว้ว่า ทำดีเพื่อดี ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ อุปสรรคไม่มี บารมีไม่เกิด |
|
  |
 |
samnan
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 25 เม.ย. 2007
ตอบ: 4
ที่อยู่ (จังหวัด): แพร่
|
ตอบเมื่อ:
27 เม.ย.2007, 4:38 pm |
  |
ข้อดีของการบัญญัติพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ
๑. ได้ยืนยันความจริงทางประวัติศาสตร์ชาติไทยที่มีมายาวนาน
๒. ได้รักษาสถาบันทั้งสามอย่างเท่าเทียมกันโดยกฎหมายรัฐธรรมนูญ
๓. ได้ให้ความสำคัญกับศรัทธาของประชาชนคนในชาติที่มั่นคงอยู่ในหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
๔. ได้แสดงออกซึ่งการยอมรับความจริงแบบประชาธิปไตยว่าเสียงของคนส่วนมากยอมรับ สถาบันชาติ พระพุทธศาสนา พระมหากษัตริย์ เท่าเทียมกัน
๕. ได้ยืนยันความเป็นคนไทยที่นิยมอิสระ เสรีภาพ โดยมีหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเป็นแกนกลางสร้างความสามัคคี
๖. ได้สร้างและยอมรับความสอดคล้องกับมติของประชาคมโลกที่ให้ความสำคัญกับพระพุทธศาสนาและประเทศไทย
๗. ได้ส่งเสริมความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นระหว่างประชาชนคนในชาติ
๘. ได้ยืนยันภาพลักษณ์ของประเทศไทยที่เป็นดินแดนพระพุทธศาสนา ที่คนทุกคนในประเทศนี้มีเสรีภาพในการนับถือศาสนาที่ตนศรัทธาได้โดยไม่ขัดแย้งกัน
๙. ได้แสดงออกซึ่งความที่พระพุทธศาสนาเป็นนวัตกรรมทางความคิดของพระสัมมา สัมพุทธเจ้าที่อยู่คู่กับคนไทย ชาติไทย พระมหากษัตริย์ไทย ในสุวรรณภูมินี้มานานมากกว่าสองพันปี
๑๐. ได้ยกย่องพระพุทธศาสนาอันเป็นศาสนาที่พระมหากษัตริย์ไทยทุกราชวงศ์ตั้งแต่ เริ่มต้นเผ่าไทยมาถึงปัจจุบัน และประชาชนคนไทยปัจจุบันเกินกว่า ๙๔ % ยอมรับนับถือ เพราะมั่นใจว่าพระพุทธศาสนามีคุณูปการต่อชนชาติไทย
๑๑. ได้ส่งเสริมสนับสนุนมติชาวโลกที่ยกย่องให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางแห่งพระพุทธศาสนาของโลก
๑๒. ได้หลักประกันทางกฎหมายว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไทยโดยถูกต้องชอบ ธรรมและชอบด้วยกฎหมายบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ อันเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ
๑๓. ได้เครื่องมือปลูกจิตสำนึกร่วมกันของคนในชาติที่จะร่วมใจกันยกย่องสถาบันสูงสุดเป็นเอกลักษณ์ของชาติ
๑๔. ได้เครื่องมือส่งเสริมการประพฤติปฏิบัติธรรมนำสู่หลักแห่งประชาธิปไตยที่ ยึดความถูกต้อง ชอบธรรม มีภราดรภาพ มิตรภาพตามหลักธรรมคำสั่งสอนที่มีมาในพระพุทธศาสนา
๑๕. ได้หลักในการอบรมสั่งสอนลูกหลานไทยได้เกิดความภาคภูมิใจว่าตนมีศาสนาประจำ ชาติ ที่จะต้องตระหนักในการนำศาสนาสู่การปฏิบัติมากยิ่งขึ้น
๑๖. ได้หลักการกลางในการสร้างความสามัคคีระหว่างคนในชาติ เพราะเมื่อพระพุทธศาสนาแข็งแกร่ง คนในชาติซึ่งนับถือศาสนาต่างกันก็จะอยู่อย่างสงบสุขทั่วถึงกัน เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่พุทธศาสนิกชนจะไปรังแกคนที่นับถือศาสนาอื่นจากที่ตนนับถือ ไม่เคยมีมาในอดีต ยังไม่มีในปัจจุบัน และจักไม่มีในอนาคต ที่พุทธศาสนิกชนจะไปรังแก รบราฆ่าฟัน ขับไล่ไสส่งศาสนิกอื่น มีแต่ชาวพุทธเท่านั้นที่ถูกรังแกถูกทำลายมาตลอดทุกยุคที่ผ่านมา
๑๗. การบัญญัติข้อความข้างต้นนั้นไว้ในรัฐธรรมนูญ จะเป็นกุญแจสำคัญให้พระพุทธศาสนายิ่งมั่นคงขึ้น คือเป็นประเด็นให้ได้ออกกฎหมายคุ้มครอง ส่งเสริมให้เหมาะสมได้ในโอกาสต่อไป
๑๘. ประชาชนคนไทยในยุคต่อไปจะได้ตระหนักยิ่งขึ้นว่า ชาติ พระพุทธศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นสถาบันสำคัญของชนชาติไทยที่จะต้องเทิดทูนไว้เหนือความขัดแย้งใดๆ และเหนือชีวิต
๑๙. การมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไว้ในรัฐธรรมนูญ มิได้หมายความว่า คนไทยที่นับถือศาสนาอื่นจะอยู่ในประเทศไทยไม่ได้ เช่นเดียวกับการบัญญัติว่าที่นี่ประเทศไทย แต่คนจากประเทศไหนๆ ก็สามารถมาอยู่ในประเทศไทยได้อย่างปกติสุข ภายใต้กฎหมายไทยที่ให้เสรีภาพในการนับถือศาสนาอยู่แล้ว
๒๐. การบัญญัติข้อความข้างต้นนั้นไว้ในรัฐธรรมนูญ จะได้รัฐธรรมนูญที่ถูกต้องที่สุดในบริบทสังคมไทย จะไม่เป็นรัฐธรรมนูญที่เกิดจากความชอบ ความชัง ความหลง ความกลัว คือจะเป็นรัฐธรรมนูญที่ปราศจากอคติหรือความลำเอียงทั้งสี่ประการ เป็นบทบัญญัติรัฐธรรมนูญที่คนไทยเกินกว่า ๙๐ % ยอมรับแน่นอน |
|
|
|
   |
 |
namya
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
28 เม.ย.2007, 10:27 am |
  |
ผมเสนอให้เราตั้งเป็น ทบวงหรือกระทรวงพุทธศาสนาจะเป็นไปได้ไหมครับ ผมคิดว่าน่าจะชัดเจนกว่าทั้งการบริหารและการกำหนดนโยบายนะครับ |
|
|
|
|
 |
นายห้ามล้อ ABS
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
29 เม.ย.2007, 10:53 am |
  |
ผมเองนั้นโดยส่วนตัวก็ได้ติดตามการร่างรัฐธรรมนูญ และตัดสินใจแล้วว่าจะไม่สนับสนุนร่างนี้ ทั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการจะมีหรือไม่มีพุทธศาสนาในรัฐธรรมนูญแต่อย่างใดเลย
ในส่วนของความเห็นเกี่ยวกับการจะมีหรือไม่มีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติในรัฐธรรมนูญนั้น ตัวผมเองก็ได้แสดงความเห็นโดยคัดค้านมาตลอด และยืนยันความเห็นเดิม
แต่ถึงอย่างไรก็ตามไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร ถ้าเป็นการปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยตามปรกติ แล้วผมยินดีและยอมรับในผลนั้น เพราะถือว่าสังคมต้องมีกติกา เมื่อคนส่วนใหญ่เห็นอย่างไรก็ต้องเคารพ
เสียดายแต่เพียงว่าในยุคเผด็จการทหาร สิ่งที่จะออกมาโดยรัฐธรรมนูญไม่ว่ามันจะเป็นผลทางด้านใด ผมเองก็ไม่อาจเชื่อได้ว่ามันคือความต้องการจากคนส่วนใหญ่ของประเทศ
ความเห็นนี้ ผมกำลังมองว่าเสียดายที่การเรียกร้องนี้ไม่ได้เกิดในยุคที่ประชาธิปไตยเต็มใบหรือชอบธรรมมากกว่านี้
สิ่งที่ท่านเรียกร้อง ผมก็ได้แสดงความเห็นที่อยู่อีกด้านหนึ่ง เพียงต้องการให้เห็นว่าเราคือคนไทยที่นับถือพุทธศาสนาเช่นเดียวกัน แต่เรายังเห็นแตกต่างกัน ไม่ได้ต้องการให้เกิดความแตกแยกหรือทะเลาะกัน หวังเพียงว่าหากเราอยู่ในยุคที่การปกครองเป็นประชาธิปไตยเต็มใบเมื่อใดแล้ว และท่านจะเสนอให้พุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติอีกครั้ง ผมก็ไม่ได้ขัดข้อง หวังแต่เพียงว่าเมื่อเวลานั้นมาถึง เสียงส่วนใหญ่ของประเทศว่าอย่างไร เราต้องเคารพ..  |
|
|
|
|
 |
ผ่านมา
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
29 เม.ย.2007, 1:36 pm |
  |
คนศาสนาอื่นนะถ้าออกมาคัดค้านการบัญญัติให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติก็คือศาสนิกชนชั้นเลวของศาสนานั้นๆ แหละครับแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้ที่มีจิตใจคับแคบมีจิตอิจฉาริษยา ถ้าหากเราจะมัวเกรงใจกับคนเลวๆ ประเภทนี้อยู่ประเทศชาติไม่มีวันเจริญหรอกครับ ที่ถูกต้องก็ควรที่จะร่วมอนุโมทนายินดีกับเราชาวพุทธที่ถึงจะถูกและจะเป็นเรื่องที่สวยงามอันแสดงถึงเป็นผู้ที่มีธรรมในใจของท่าน..
ลองอ่านพระราชนิพนธ์ของ ร.4 ดูครับ
คัดจากพระราชนิพนธ์ใน ร. ๔ ....
ประกาศพระราชทานส่วนกุศลทรงบริจาคเพชรใหญ่ประดับอุณาโลมพระแก้วมรกต
ประชุมประกาศรัชกาลที่ ๔ เล่ม ๑ องค์การค้าของคุรุสภา, ๒๕๒๘, หน้า ๘๒
ความว่า
".........การพระราชบริจาคอันนี้ทรงพระราชดำริเห็นว่า
ไม่ขัดขวางเป็นเหตุให้ท่านผู้ใดขุ่นเคืองขัดใจเลย
พระนครนี้เป็นถิ่นของคนนับถือพระพุทธศาสนามาแต่เดิม
ไม่ใช่แผ่นดินของศาสนาอื่น คนที่ถือศาสนาอื่นมาแต่อื่นก็ดี
อยู่ในเมืองนี้ก็ดี จะโทมนัสน้อยใจด้วยริษยาแก่พระพุทธศาสนาเพราะบูชาอันนี้ไม่ได้
ด้วยไม่ใช่เมืองแห่งศาสนาตัวเลย ถ้าโทมนัสก็ชื่อว่าโลภล่วงเกินไป........" |
|
|
|
|
 |
เพื่อนผ่านมา
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
29 เม.ย.2007, 10:05 pm |
  |
|
|
 |
คนมสธ.
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
11 พ.ค.2007, 6:36 pm |
  |
หนุนพุทธเป็นศาสนาประจำชาติเพราะ
1. ราชาไทยทรงอุปถัมถ์พุทธศาสนามากกว่าศาสนาอื่นเเสมอตั้งแต่อดีตมา เป็นประจำใจ
2. ดินแดนไทยต้องมีทั้งศาสนาประจำชาติและศาสนาอื่นในชาติอยู่แล้ว ดังนั้นการอ้างศาสนาแบ่งดินแดนไทย ฟังไม่ขึ้นเลยเพราะทุกศาสนาก็พอใจในดินแดนไทยแบบนี้มาแต่โบราณแล้วและเป็นคติว่าห้ามอ้างศาสนามาแบ่งดินแดนไทยเพราะมีโทษร้ายแรงตลอดมา และปัญหาการแบ่งแยกดินแดนส่วนไหญ่มาจากการถูกอบรมผิดผิดให้ลุ่มหลงในความยิ่งไหญ่ของเชื้อชาติมากกว่า อันนี้คนไทยทุกเชือ้ชาติไม่นิยมเลยมีแต่ภาภาคคไต้ที่อ้างผิดผิดแบบนี้มานาน
3. ประเทศไทยมีพุทธเป็นศาสนาประจำชาติคนละเรื่องกับศพุทธเป็นศาสนาประจำโลก ไม่ต้องเอามาปนกันเพราะพุทธเป้นศาสนาประจำโลกอันดับ 4 อยู่แล้วเราพอใจ แต่พุทธเป็นศาสนาประจำชาติมีน้อยเกินไปไม่ถึง 5 ถึง10 ประเทศและไม่ไหญ่เท่าดินแดนอินเดียด้วย หมายถึงพุทธเป็นศาสนาประจำชาติมีอยุ่ในโลกน้อยเกินไปมาก ทั้งทั้งที่โลกต้องการให้มีประเทศมีสาสนาประจำชาติมากกว่านี้เพื่อสีสันศาสนาประจำชาติแต่ละประเทศต่างกันให้โลกสวยงามมากขึ้น
4. การมีพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ ตามจริง ไม่เกี่ยวกับใจแคบแต่เป็นใจพอดีเหมาะสมตามจริง ไม่กว้ากว้างจนหาหลักการไม่ได้ ไม่กว้างเกินจนปล่อยทำลายตัวเองง่ายด้วย
 |
|
|
|
|
 |
เว็บมาสเตอร์
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 มี.ค. 2005
ตอบ: 993
|
ตอบเมื่อ:
16 พ.ค.2007, 8:59 am |
  |
ชาติ...ที่มีศาสนาประจำชาติ
ชาวพุทธออกมาเรียกร้องให้บัญญัติพระพุทธศาสนา เป็นศาสนาประจำชาติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับล่าสุด มีหลายคนตั้งข้อสงสัยว่า "อะไรคือความแตกต่างระหว่างคำว่า ศาสนาแห่งชาติ (National Religion) กับคำว่า ศาสนาประจำชาติ (State Religion)"
คำว่า ศาสนาแห่งชาติ หมายถึง ศาสนาที่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศนั้นๆ นับถือ ซึ่งรวมทั้งประมุข หรือพระประมุขของประเทศนั้นก็นับถือด้วย
ส่วนคำว่า ศาสนาประจำชาติ หมายถึง ศาสนาที่ทางราชการในประเทศนั้นๆ รับรองให้ความสำคัญสูงสุด ด้วยการบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
อย่างไรก็ตาม การบัญญัติให้ศาสนาใดศาสนาหนึ่งเป็นศาสนาประจำชาตินั้น พระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) บอกว่า ในโลกปัจจุบัน มีประเทศที่ประกาศอย่างเป็นทางการไว้ในรัฐธรรมนูญว่า มีศาสนาประจำชาติถึง ๔๙ ประเทศ กล่าวคือ ประเทศที่ประกาศว่า มีศาสนาคริสต์เป็นศาสนาประจำชาติ มีประมาณกว่า ๑๕ ประเทศ ตัวอย่างเช่น สวีเดน ฟินแลนด์ เดนมาร์ก กรีนแลนด์ กรีซ เป็นต้น
ทั้งนี้ในรัฐธรรมนูญของประเทศเดนมาร์ก บัญญัติว่า "ศาสนาคริสต์ลูเธอแรนเป็นศาสนาประจำชาติเดนมาร์กที่จะต้องได้รับการอุปถัมภ์จากรัฐ"
ขณะที่รัฐธรรมนูญของประเทศกรีซ บัญญัติว่า "ศาสนาสำคัญในประเทศกรีซ คือ ศาสนาคริสต์ออร์ธอดอกซ์ตะวันออก...พระคัมภีร์ไบเบิลอันศักดิ์สิทธิ์ต้องได้รับการอนุรักษ์ไว้โดยไม่มีการดัดแปลง"
ประเทศที่ประกาศอย่างเป็นทางการไว้ในรัฐธรรมนูญว่า มีศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำชาติ มีจำนวน ๓๐ ประเทศ เช่น รัฐอิสลามอัฟกานิสถาน สาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน สาธารณรัฐอิสลามมอริเตเนีย สหพันธ์สาธารณรัฐอิสลามคอโมโรส ซาอุดีอาระเบีย โซมาเลีย ตูนิเซีย โมร็อกโก แอลจีเรีย ลิเบีย อียิปต์ จอร์แดน คูเวต บาห์เรน
มัลดีฟส์ บังกลาเทศ บรูไน มาเลเซีย อิรัก โอมาน กาตาร์ อิสราเอล สาธารณรัฐประชาธิปไตยชาห์ราวีอาหรับ สาธารณรัฐโซมาลีแลนด์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักรเยเมน โมนาโก แอนดอร์รา นอร์เวย์ มอลตา เอธิโอเปีย ยูเครน ฮังการี
โดยในรัฐธรรมนูญของประเทศมาเลเซีย บัญญัติว่า "อิสลามเป็นศาสนาแห่งสหพันธรัฐมาเลเซีย แต่ก็อาจปฏิบัติศาสนาอื่นได้ด้วยสันติและสามัคคีในทุกส่วนของสหพันธรัฐ"
รัฐธรรมนูญของประเทศอัฟกานิสถาน บัญญัติว่า "ศาสนาอิสลามที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นศาสนาแห่งอัฟกานิสถาน ในสาธารณรัฐอัฟกานิสถานจะไม่มีกฎหมายใดขัดแย้งกับหลักการของศาสนาอิสลามที่ศักดิ์สิทธิ์"
ส่วนประเทศที่ประกาศอย่างเป็นทางการไว้ในรัฐธรรมนูญว่า มีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ มีเพียง ๔ ประเทศเท่านั้น คือ ศรีลังกา พม่า กัมพูชา และภูฏาน
รัฐธรรมนูญของประเทศศรีลังกา บัญญัติว่า "สาธารณรัฐศรีลังกายกพระพุทธศาสนาไว้ในสถานะสำคัญสูงสุด และถือเป็นหน้าที่ของรัฐที่จะต้องอุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสนา และในขณะเดียวกันก็ประกันสิทธิของทุกศาสนาตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๐ และ ๑๔"
รัฐธรรมนูญของประเทศภูฏาน บัญญัติว่า "พระพุทธศาสนาเป็นมรดกทางจิตใจของภูฏาน ซึ่งส่งเสริมหลักการและค่านิยมแห่งสันติ อหิงสา กรุณาและขันติ"
พระธรรมโกศาจารย์ ยังบอกด้วยว่า ชาวพุทธเรียกร้องให้เพิ่มอีก ๑ มาตรา ที่บัญญัติเกี่ยวกับสถาบันพระพุทธศาสนาไว้ในร่างรัฐธรรมนูญว่า "ประเทศไทยมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ"
หรือจะเพิ่มข้อความเข้าในมาตรา ๒ ว่า "ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมี พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ" ดังนี้ก็ได้
ถ้ามีการบัญญัติเพิ่มเติมในรัฐธรรมนูญเช่นว่านี้ พระพุทธศาสนาซึ่งเคยเป็นศาสนาประจำชาติไทยในสมัยสมบูรณาสิทธิราชย์ ก็เชื่อว่า ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการให้เป็นศาสนาประจำชาติไทยต่อไป และจะได้ไม่ต้องมีใครมาโต้แย้งว่า พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติหรือไม่
เมื่อมีการปรับปรุงหลักสูตรพระพุทธศาสนาในโรงเรียนแล้ว นักวิชาการชาวพุทธเขียนลงในหนังสือแบบเรียนว่า พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ นักวิชาการต่างศาสนาได้ส่งหนังสือทักท้วงไปที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้ถอดข้อความที่ว่านั้นออกจากแบบเรียน เขาให้เหตุผลว่า เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้บัญญัติว่า พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ
เรื่องได้ยุติลงในที่สุด เมื่อนักวิชาการชาวพุทธท่านนั้นอ้างพระราชนิพนธ์ หรือพระราชดำรัสของพระมหากษัตริย์ไทย ที่ทรงประกาศไว้ว่า
"ข้าพเจ้าย่อมรู้สึกว่า เป็นหน้าที่ของข้าพเจ้าที่จะต้องทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นสิ่งคู่กับพระราชอาณาจักร ให้ดำเนินไปในทางวัฒนาถาวรพร้อมกันทั้งสองฝ่าย" (พระบาทสมเด็จพระปิยมหาราช รัชกาลที่ ๕)
"การที่ชาวพุทธเรียกร้องให้มีการบัญญัติว่า พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไว้ในรัฐธรรมนูญ ก็เพื่อให้มีการรับรองสถานะของพระพุทธศาสนาให้เป็นศาสนาประจำชาติ โดยนิตินัยอย่างชนิดที่ไม่อาจมีใครโต้แย้งได้ ที่สำคัญคือประเทศไทยที่มีพระพุทธศาสนาเป็นรากฐานของวัฒนธรรมไทย มีสำนักงานใหญ่ขององค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลกตั้งอยู่เป็นการถาวร มาตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๑๒ และมีพุทธมณฑลที่ชาวพุทธทั่วโลกยอมรับว่าเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลก ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๔๘ ยังไม่มีการบัญญัติในรัฐธรรมนูญให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ" พระธรรมโกศาจารย์ กล่าว
หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก เรื่องโดย ไตรเทพ สุทธิคุณ
ฉบับวันที่ 16 พฤษภาคม 2550 04:08 น. |
|
_________________ -- การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง -- |
|
   |
 |
ยูนิโตพุทธาเลียโน่เด็กมสธ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
22 พ.ค.2007, 4:17 pm |
  |
มันไม่สำคัญอะไรเลย เหตุเพราะกลัวว่า ศาสนาพุทธ จะล่มสลาย หรือไร ศาสนาจะอยู่หรือไปอยู่ที่ การปฏิบัติตัวปฏิบัติตน ของพระภิสุ สมเณร ต่างหาก ประเทศไทยกับศาสนาพุทธเป็นสิ่งคู้กันอยู่แล้ว ดูจากธงไตรรงค์ธงประชาติ ก็จะรู้อยู่แล้ว ถ้ายังไม่เข้าใจ สีของธงชาติ สีแดงคือ ชาติ สีขาวคือ ศาสนาพุทธ สีน้ำเงินคือ พระมหากษัตริย์
ยกตัวอย่าง คนจะแต่งงานกันได้จะต้องเป็นผู้หญิงกับผู้ชายเท่านั้น อยากถามว่ากฏหมายกำหนดหรือไม่ คำตอบคือ ไม่มีครับ แต่เป็นที่รู้ๆ กัน....../////
ต้องบัญญัติพุทธเป็นสาสนาประจำชาติไทยในรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นที่รู้ๆกันมาแต่โบราณว่า ประเทสไทยต้องมีศาสนาประจำชาติคือพุทธรวมอยุ่ในกฏหมายสูงสุดเสมอมายาวนานที่สุด และการแต่งงานไม่เอามาอยุ่ในรัฐธรรมนูญกฏหมายสุงสุดเพราะการแต่งงานจะใช้กฏหมายต่ำกว่ารัฐธรรมนูญมาบอกบัญญัติก็ย่อมทำได้ตามแต่คนต้องการ แต่คนไม่นิยมเขียนการแต่งงานเป็นกฏหมายที่ต่ำกว่ารัฐธรรมนูญเท่านั้นเอง มาแต่โบราณ และคนโบราณจะยึดถือมากว่าศาสนาประจำชาติต้องอยุ่สุงกว่าการแต่งงานเสมอ เอามาเทียบกันไม่ได้ ดังนั้น เป็นที่รุ้กันแต่โบราณว่า ศาสนาประจำชาติไม่มีทางที่จะเขียนในกฏหมายต่ำกว่ารัฐธรรมนูญได้ ศาสนาประจำชาติจึงต้องอยุ่ในกฏหมายสุงสุดของชาติเท่านั้นจะต่ำกว่ากฏหมายสุงสุดไม่ได้ การแต่งงานอ้างไม่ขึ้น เพราะ การแต่งงานจะเขียนได้แต่ในกฏหมายต่ำกว่ารัฐธรรมนูญเท่านั้นหรือไม่เขียนในกฏหมายเลยก็ได้ แล้วแต่คนจะเคร่งหรือไม่ แต่ศาสนาประจำชาติไทยคือพุทธต้องเคร่งครัดเสมอมาที่ให้อยุ่ในกฏหมายสุงสุดของไทย ดังนั้นอย่า เอาเรื่องรุ้รุ้กันคนละแบบคนละระดับ มาปนมั่วกัน แบบง่ายง่าย ชาติไทยมีประวัติชัดเจนมายาวนานไม่มั่วปนกัน จาก...ยูนิโตพุทธาเลียโน่เด็กสุโขทัยธรรมาธิราช /////// |
|
|
|
|
 |
Atagovito
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
04 มิ.ย.2007, 7:30 pm |
  |
พระพุทธเจ้าเป็นศาสดาเอกของโลก
พระพุทธศาสนากำหนดแนวทางการพัฒนาของมนุษยชาติ เหนือกว่าที่จะเป็นเพียง
แค่ศาสนาประจำชาติไทยอยู่แล้ว
หากได้ศึกษาเรื่องจิตให้เข้าใจแล้ว จะเข้าใจแนวทางการพัฒนาของมนุษย์ชาติอย่างแท้จริง |
|
|
|
|
 |
ไทยเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
04 มิ.ย.2007, 11:36 pm |
  |
การพัฒนามนุษย์ชาติ ต้องผ่านการเกิดตายหลายภพหลายชาติเกิดจริงเท่านั้นตามกฎแห่งกรรม ถ้าคิดว่าการพัฒนามนุษย์ชาติมีหลักนอกจากนี้ ง่ายกว่านี้ คงเป็นการคิดเรื่องจิตที่ผิดทางจากพระพุทธเจ้ามากอยู่ ไม่ครบถ้วนเพียงพอ ///
เช่นกัน ศาสนาประจำชาติไทยคือพุทธก็กำหนดแนวทางพัฒนาของคนและจิตคนตามกฏแห่งกรรม ตามพระพุทธเจ้าย่อมที่จะเป็นศาสนาประจำชาติไทยเข้มแข็งยิ่งขึ้นต่อไป.....ดีเสียอีกที่ศาสนาประจำชาติไทยมีบทบาทช่วยมนุษย์ชาติโลกได้จริง เป็นความดีงามของชาติไทยเพื่อประเทสไทยด้วยโดยแท้ ต้องรักษาเป็นประเพณีประจำชาติไทยต่อไป จะเห็นว่า พุทธศาสนาประจำชาติไทยมีคุณต่อชาวโลกและชาวไทย พอพอกัน ไม่จำกัดมานาน จึงไม่มีอะไรที่จะมาทำให้ศาสนาประจำชาติไทยที่มีในรัฐธรรมนูญแต่โบราณหายไปได้ นอกจากพวกไม่เข้าใจศาสนาประจำชาติไทยทุกด้านและคิดสั้นคิดร้ายต่อสาสนาประจำชาติไทยโบราณเท่านั้น //////// |
|
|
|
|
 |
the offices of citiworld
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
09 มิ.ย.2007, 10:47 pm |
  |
ขอยืนยันว่าหลักของรัฐธรรมนูญทั่วโลกไม่ได้มีข้อห้ามให้มีศาสนาประจำชาติในรัฐธรรมนูญ คำนิยามที่ยกมาก็มาจากแบบประเทศที่ไม่ประกาศสาสนาประจำชาติ.แท้จริงในรัฐธรรมนูญจะมีสาสนาประจำชาติหรือไม่ ก็ได้ ขึ้นอยุ่กับว่าประชาชนต้องการอย่างไรให้รัฐธรรมนูญมีข้อเฉพาะแสดงถึงประจำชาติหรือไม่
ขอยืนยันว่า ราชจารีตประเพณีไทยและจารีตประเพณีของประชาชนไทย ต่างยืนยันว่า ไทยมีพุทธเป็นศาสนาประจำชาติและจารีตประเพณีไทยไม่ได้ห้ามให้บรรจุพุทธเป็นศาสนาประจำไทยในกฏหมายสุงสุดของไทยด้วยตลอดมายังเปิดทางให้ตลอดมา แสดงว่าตามหลักกฏหมายของไทยแต่โบราณไม่ได้มีข้อบัญญัติห้ามบรรจุพุทธเป็นสาสนาประจำชาติไว้ในกฏหมายสุงสุดเลยตลอดมายังเปิดทางให้ตลอดมา ดังนั้นเราบอกได้ว่า การบรรจุพุทธเป้นศาสนาประจำชาติไทยในกฎหมายสุงสุดของ ไทยไม่ผิดตามจารีตของไทยและไม่ผิดหลักการของทั่วโลกที่ไม่ผิดเพราะศาสนาประจำชาติไทยได้รับการคุ้มครองจากพระราชาที่อยู่เหนือกฏหมายสูงสุดของไทยแทน ในระบบราชาธิปไตย แต่ในระบบประชาธิปไตยปัจจุบัน รัฐธรรมนูญอยุ่เหนือราชา รัฐธรรมนูญกฏหมายสูงสุดจึงต้องรักษาพุทธเป้นสาสนาประจำชาติไทยแทนพระราชาต่อไป *****ผมขอสรุปให้ชัดเจนว่า ในสมัยราชาธิปไตย ศาสนาประจำชาติไทยถูกรักษาคุ้มครองทั้งจากพระราชาผุ้อยุ่เหนือกฎหมายสุงสุดและจากประชาชน นี่2ด้านเลยแม้ไม่ได้บัญญัติข้อความชัดเจนในกฎหมายสุงสุดก็ตาม แต่ยังเปิดทางที่3ด้วยคือไม่มีข้อบัญญัติชัดเจนห้ามให้บรรจุพุทธประจำชาติในกฎหมายสูงสุด นี่เป็นแบบจำลองการคุ้มครองพุทธประจำชาติในสมัยโบราณตลอดมา/ในสมัยประชาธิปไตยยุคปัจจุบัน ชาวไทย ควรทำตามแบบโบราณคือ พุทธเป็นศาสนาประจำชาติไทยต้องได้รับการคุ้มครองรักษาจากทั้ง2ด้านเช่นกันไม่น้อยกว่านี้คือ พระราชายุคนี้และรัฐบาลยุคนี้ต่างอยู่ใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศแทนพระราชา เราจึงต้องถึงเวลาให้กฎหมายรัฐธรรมนูญกฎหมายสุงสุดของไทยมีการบัญญัติพุทธเป็นสาสนาประจำชาติ เพื่อทำหน้าที่รักษาคุ้มครองพุทธศาสนา คุ่กับประชาชนรักษาคุ้มครองพุทธสาสนาด้วยนี่เป็น2ด้านหลักไหม่เพื่อรักษาพุทธศาสนาประจำไทยในสมัยระบบประชาธิปไตยต่อไปไม่ผิดตามจารีตไทยโบราณที่เปิดทางให้ตลอดมาและไม่ผิดหลักการของรัฐธรรมนูญทั่วโลกด้วยครับ........ผมpeach-yanun ขอออกความเห็นเท่านี้ครับ |
|
|
|
|
 |
Leo
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
15 มิ.ย.2007, 1:58 pm |
  |
ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ต้องอยู่คู่กันครับ
ทันทีที่ประกาศ สามจังหวัดก็ประกาศมั่ง คงได้แยกประเทศกันแน่ๆ ฉลาดไหมล๊ะแบบนี้
ถ้าเรารักษาศาสนาแต่ ทำให้ชาติมีปัญหาก็เป็นการมองไม่ครบจริงไหม?
นับถือแบบมีปัญญาต้องใช้ศาสนาเพื่อความสงบสุขจริงไหม?
ไม่ใช่ก่อให้เกิดความวุ่นวาย!!!  |
|
|
|
|
 |
ชัยพร พอกพูล
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2006
ตอบ: 73
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ
|
ตอบเมื่อ:
17 มิ.ย.2007, 1:54 pm |
  |
จะประกาศหรือไม่เขาก็อยากจะไปอยู่แล้วล่ะครับ ถ้าเขาอ้างการกำหนดพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติเป็นสาเหตุการแยกดินแดนก็แสดงว่าเขามีจิตใจคับแคบ และเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น
เรารู้ว่ามีมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ เพราะว่ามีข้าวของเครื่องใช้ ภาพเขียนสีหลงเหลืออยู่ให้เห็น ผมแค่อยากเห็นพุทธศาสนาอยู่ถึง 5,000 ปีเท่านั้นเอง แล้วจากนั้นจะไร้ตัวตนไปตามหลักก็แล้วแต่บุญกรรมเถอะครับ |
|
_________________ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม |
|
   |
 |
nonsoul
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 20 ส.ค. 2005
ตอบ: 9
|
ตอบเมื่อ:
03 ก.ค.2007, 7:28 am |
  |
พุทธทำนายบอกว่าพุทธศาสนาจะอยู่ได้ 5000 ปี ตอนนี้ 2550 ปี ใครที่ทำย่ำยีต่อพุทธศาสนาในเวลานี้หรือเวลาใดก็ตาม ปล่อยเขาไปเถอะครับ...รอดูผลกรรม จะทำยังไงเรา (พุทธศาสนา) ก็ยังอยู่ไปได้อีก 2500 กว่าปี......ตถาตา |
|
_________________ ใช้ชีวิตอยู่ รู้เห็นตามเป็นจริง |
|
    |
 |
|