Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
สมเด็จเกี่ยวและหลวงตาบัวเป็นพระอรหันต์ทั้งคู่มีหลักฐานดังต่อ
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่หน้า
ก่อนหน้า
1
,
2
,
3
ผู้ตั้ง
ข้อความ
เขม
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 04 ธ.ค.2005, 8:42 pm
(การปฏิบัติสมาธิภาวนาเพียงอย่างเดียว ไม่ได้ทำให้เราบรรลุอรหัตผล แต่การปฏิบัติสมาธิคือ ต้องนำกำลังสมาธิมาล้างสันดานที่ไม่ดีให้ค่อย ๆ หมดสิ้นไปทีละเล็กทีละน้อย ........แล้วใช้จิตที่บริสุทธิ์ไปแผ่เมตตาอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร หรือที่ผมบอกคือนำกุศลไปอุทิศให้กับสรรพจิตสรรพวิญญาณ )
.แล้วใช้จิตที่บริสุทธิ์ไปแผ่เมตตาอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร
นี่แหละคือการหลงผิด (มิจฉาทิฏฐิ) ผิดหลักแห่งการบรรลุพระอรหัตตผล แสดงว่าการบรรลุธรม ขึ้นอยู่กับเจ้ากรรมนายเวร แล้วเจ้ากรรมนายเวรเป็นใครถึงทำให้คนบริสุทธิ์ได้ฯลฯ
tanawat30
บัวบาน
เข้าร่วม: 15 พ.ย. 2005
ตอบ: 256
ตอบเมื่อ: 04 ธ.ค.2005, 11:56 pm
ดูก่อน ความเห็นที่ 40 ผู้เจริญ
เจ้ากรรมนายเวร คือผู้ที่เราไปล่วงมะเมิด หรือเคยไปคิดร้ายกับเขา หรือเป็นตัวกรรม นั่นเอง
พระพุทธองค์ท่านตรัสไว้ชัดเจนว่า กรรม กิเลส และวิบาก เป็นเครื่องกั้นกางการตรัสรู้ กรรมขึ้นอยู่กับปริมาณเจ้ากรรมนายเวรที่ว่า ส่วนกิเลส และวิบาก ขึ้นอยู่กับ อนสัย ฉะนั้น จึงมีคำสอนปรคากฏว่า ถอนเสียสิ้นอนุสัย ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกครับ ไปเปิดดูได้เลยนะครับ
แล้วเจ้ากรรมนายเวรเป็นใครถึงทำให้คนบริสุทธิ์ได้ฯลฯ ---- แสดงว่าคุณอ่านไม่เข้าใจ ผมไม่ว่าล่ะครับ เพราะผมบอกให้ล้างสันดานที่ไม่ดีจน
จิตบริสุทธิ์ก่อน
ในแต่ละรอบก่อนการแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร
สำหรับคุณการเข้าใจข้อธรรมคงเป็นเรื่องยาก แต่ไม่เป็นไร ผมจะพยายามอธิบายให้คุณเข้าใจเอง
ปุถุชน
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 06 ธ.ค.2005, 11:08 am
ความเห็นที่39
ท่านทั้งหลายท่านสำคัญข้อความนี้อย่างไร
"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุพิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาอยู่อย่างไรเล่า ?
ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เสวยสุขเวทนาอยู่ ก็รู้ชัดว่า เราเสวยสุขเวทนา
เสวยทุกข์เวทนา ก็รู้ชัดว่า เราเสวยทุกข์เวทนา ..."
ที่กล่าวว่า "เสวย" นั้นคงไม่ได้หมายถึงการรัปประทานเวทนานั้นๆ แต่อรรถนี้
พยัญชนะนี้ให้ความหมายของเวทนาได้ดียี่งกว่าคำใดๆ
tanawat30
บัวบาน
เข้าร่วม: 15 พ.ย. 2005
ตอบ: 256
ตอบเมื่อ: 06 ธ.ค.2005, 12:03 pm
ความที่เห็นที่ 42 ผู้เจริญ
คำว่าเวทนาในภาษาไทยเราแปลว่าสงสาร แต่ในภาษาบาลีแปลว่าความรู้สึก ความรู้สึกทั้งทางกาย และความรู้สึกทางใจ ดังนั้น คำว่า เสวยเวทนา แปลว่ารับความรู้สึก ดังนั้น เมื่อแปลเป็นภาษาปัจจุบันที่เข้าใจได้ง่ายอีกที จึงแปลว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุพิจารณา ความรู้ทางกาย ทางใจ ในความรูสึกทางกาย ทางใจได้อย่างไร? ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ รับความรู้สึกำที่เป็นสุข ก็รู้อยู่ว่าเรากำลังรับความรู้สึกที่เป็นสุข รับความรู้สึกที่เป็นทุกข์ก็รู้ว่าเรากำลังรับความรู้สึกที่เป็นทุกข์
เมื่อแปลได้เช่นนั้น ก็สรุปว่า สุขก็คือสุช ทุกข์ก็คือทุกข์ แต่คำถามมีต่อไปว่า เราจะจัดการอย่างไรกับสุขหรือทุกข์นั้น ด้วยสติและปัญญาที่เราพึงมี นี่คือนัยที่พระพุทธองค์ท่านบอกเรา
เพลิน
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 14 ธ.ค.2005, 12:19 am
แล้วจะมีศีล 227ข้อไว้ทำไม? ในเมื่อถ้าฆราวาสก็เป็นอรหันได้?
tanawat30
บัวบาน
เข้าร่วม: 15 พ.ย. 2005
ตอบ: 256
ตอบเมื่อ: 14 ธ.ค.2005, 12:23 am
มดูก่อนความเห็นที่ 44 ผู้เจริญ
ศีลอีก 222 ข้อที่เหลือนั้น มีไว้สำหรับเป็นกรอบในการปฏิบัติ เพื่อดัดตนให้อยู่ในการปฏิบัติให้ง่ายขึ้น ส่วนสมัยนี้ ขึ้นอยู่กับความสามารถในการยอมรับข้อบกพร่องของตนเองว่ามีมากน้อยแค่ไหน
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่หน้า
ก่อนหน้า
1
,
2
,
3
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
ไม่สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th