ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
เขม
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
04 ธ.ค.2005, 8:42 pm |
  |
(การปฏิบัติสมาธิภาวนาเพียงอย่างเดียว ไม่ได้ทำให้เราบรรลุอรหัตผล แต่การปฏิบัติสมาธิคือ ต้องนำกำลังสมาธิมาล้างสันดานที่ไม่ดีให้ค่อย ๆ หมดสิ้นไปทีละเล็กทีละน้อย ........แล้วใช้จิตที่บริสุทธิ์ไปแผ่เมตตาอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร หรือที่ผมบอกคือนำกุศลไปอุทิศให้กับสรรพจิตสรรพวิญญาณ )
.แล้วใช้จิตที่บริสุทธิ์ไปแผ่เมตตาอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร
นี่แหละคือการหลงผิด (มิจฉาทิฏฐิ) ผิดหลักแห่งการบรรลุพระอรหัตตผล แสดงว่าการบรรลุธรม ขึ้นอยู่กับเจ้ากรรมนายเวร แล้วเจ้ากรรมนายเวรเป็นใครถึงทำให้คนบริสุทธิ์ได้ฯลฯ |
|
|
|
|
 |
tanawat30
บัวบาน

เข้าร่วม: 15 พ.ย. 2005
ตอบ: 256
|
ตอบเมื่อ:
04 ธ.ค.2005, 11:56 pm |
  |
ดูก่อน ความเห็นที่ 40 ผู้เจริญ
เจ้ากรรมนายเวร คือผู้ที่เราไปล่วงมะเมิด หรือเคยไปคิดร้ายกับเขา หรือเป็นตัวกรรม นั่นเอง
พระพุทธองค์ท่านตรัสไว้ชัดเจนว่า กรรม กิเลส และวิบาก เป็นเครื่องกั้นกางการตรัสรู้ กรรมขึ้นอยู่กับปริมาณเจ้ากรรมนายเวรที่ว่า ส่วนกิเลส และวิบาก ขึ้นอยู่กับ อนสัย ฉะนั้น จึงมีคำสอนปรคากฏว่า ถอนเสียสิ้นอนุสัย ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกครับ ไปเปิดดูได้เลยนะครับ
แล้วเจ้ากรรมนายเวรเป็นใครถึงทำให้คนบริสุทธิ์ได้ฯลฯ ---- แสดงว่าคุณอ่านไม่เข้าใจ ผมไม่ว่าล่ะครับ เพราะผมบอกให้ล้างสันดานที่ไม่ดีจน จิตบริสุทธิ์ก่อน ในแต่ละรอบก่อนการแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร
สำหรับคุณการเข้าใจข้อธรรมคงเป็นเรื่องยาก แต่ไม่เป็นไร ผมจะพยายามอธิบายให้คุณเข้าใจเอง |
|
|
|
    |
 |
ปุถุชน
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
06 ธ.ค.2005, 11:08 am |
  |
ความเห็นที่39
ท่านทั้งหลายท่านสำคัญข้อความนี้อย่างไร
"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุพิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาอยู่อย่างไรเล่า ?
ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เสวยสุขเวทนาอยู่ ก็รู้ชัดว่า เราเสวยสุขเวทนา
เสวยทุกข์เวทนา ก็รู้ชัดว่า เราเสวยทุกข์เวทนา ..."
ที่กล่าวว่า "เสวย" นั้นคงไม่ได้หมายถึงการรัปประทานเวทนานั้นๆ แต่อรรถนี้
พยัญชนะนี้ให้ความหมายของเวทนาได้ดียี่งกว่าคำใดๆ
|
|
|
|
|
 |
tanawat30
บัวบาน

เข้าร่วม: 15 พ.ย. 2005
ตอบ: 256
|
ตอบเมื่อ:
06 ธ.ค.2005, 12:03 pm |
  |
ความที่เห็นที่ 42 ผู้เจริญ
คำว่าเวทนาในภาษาไทยเราแปลว่าสงสาร แต่ในภาษาบาลีแปลว่าความรู้สึก ความรู้สึกทั้งทางกาย และความรู้สึกทางใจ ดังนั้น คำว่า เสวยเวทนา แปลว่ารับความรู้สึก ดังนั้น เมื่อแปลเป็นภาษาปัจจุบันที่เข้าใจได้ง่ายอีกที จึงแปลว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุพิจารณา ความรู้ทางกาย ทางใจ ในความรูสึกทางกาย ทางใจได้อย่างไร? ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ รับความรู้สึกำที่เป็นสุข ก็รู้อยู่ว่าเรากำลังรับความรู้สึกที่เป็นสุข รับความรู้สึกที่เป็นทุกข์ก็รู้ว่าเรากำลังรับความรู้สึกที่เป็นทุกข์
เมื่อแปลได้เช่นนั้น ก็สรุปว่า สุขก็คือสุช ทุกข์ก็คือทุกข์ แต่คำถามมีต่อไปว่า เราจะจัดการอย่างไรกับสุขหรือทุกข์นั้น ด้วยสติและปัญญาที่เราพึงมี นี่คือนัยที่พระพุทธองค์ท่านบอกเรา |
|
|
|
    |
 |
เพลิน
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
14 ธ.ค.2005, 12:19 am |
  |
แล้วจะมีศีล 227ข้อไว้ทำไม? ในเมื่อถ้าฆราวาสก็เป็นอรหันได้?
|
|
|
|
|
 |
tanawat30
บัวบาน

เข้าร่วม: 15 พ.ย. 2005
ตอบ: 256
|
ตอบเมื่อ:
14 ธ.ค.2005, 12:23 am |
  |
มดูก่อนความเห็นที่ 44 ผู้เจริญ
ศีลอีก 222 ข้อที่เหลือนั้น มีไว้สำหรับเป็นกรอบในการปฏิบัติ เพื่อดัดตนให้อยู่ในการปฏิบัติให้ง่ายขึ้น ส่วนสมัยนี้ ขึ้นอยู่กับความสามารถในการยอมรับข้อบกพร่องของตนเองว่ามีมากน้อยแค่ไหน |
|
|
|
    |
 |
|