ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
Ae
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 26 เม.ย. 2005
ตอบ: 38
|
ตอบเมื่อ:
05 พ.ค.2005, 1:32 pm |
  |
เมื่ออ่านพุทธประวัติก็จะมี ภิกษุ ภิกษุณี แต่ที่ประเทศไทยทำไมไม่เห็นมีภิกษุณีครับ หรือว่าสตรีเพศไม่นิยมบวช ที่เห็นก็มีแต่บวชชี หรือว่าในประเทศไทยไม่มีการยอมรับ ใคร่รู้มาก แตเคยเห็นที่ ไต้หวันหรือเปล่าไม่รู้ที่บวชภิกษุณีได้ และเคยได้ยินข่าวมานานแล้วว่ามีคนไทยที่ไปบวชภิกษุณีที่ไต้หวัน เพราะที่ประเทศไทยบวชไม่ได้ เพราะอะไรครับ  |
|
|
|
    |
 |
TU
บัวทอง


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 1589
|
ตอบเมื่อ:
05 พ.ค.2005, 2:40 pm |
  |
|
    |
 |
TU
บัวทอง


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 1589
|
ตอบเมื่อ:
05 พ.ค.2005, 2:44 pm |
  |
การสืบสายภิกษุณี
-- ภิกษุณีรูปแรกในพระพุทธศาสนา
-- การสืบสายภิกษุณีจากอินเดียมาศรีลังกา
-- การสืบสายภิกษุณีจากศรีลังกาไปจีนและไต้หวัน
-- การสืบสายภิกษุณีในประเทศไทย
คลื่นลูกที่ 1 นรินทร์ กลึง
คลื่นลูกที่ 2 ภิกษุณีวรมัย กบิลสิงห์
คลื่นลูกที่ 3 ภิกขุนีธัมมนันทา (ดร.ฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์)
-- การบวชภิกษุณีในต่างประเทศ
การบวชภิกษุณีที่วัดซีไหล ลอสแองเจิลลิส สหรัฐอเมริกา
การบวชภิกษุณีที่วัดโฝกวางชาน ในประเทศไต้หวัน
การบวชภิกษุณีที่ศรีลังกา
-- ปัจจุบันยังมีภิกษุณีในประเทศอื่นอีกหรือไม่
-- ภิกษุณีมีไม่ได้ : วาทะกรรมที่ต้องตรวจสอบ
-- ประมวลภาพการบวชภิกษุณี
การบวชภิกษุณีของธัมมนันทา
การบวชสามเณรีของวัตรทรงธรรมกัลยาณี
คณะภิกษุณีสงฆ์ที่มาเยี่ยมเยียน ณ วัตรทรงธรรมกัลยาณี
................คลิ๊ก................ http://www.thaibhikkhunis.org/thai/thaiindex.html
|
|
|
|
    |
 |
TU
บัวทอง


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 1589
|
ตอบเมื่อ:
05 พ.ค.2005, 2:45 pm |
  |
|
    |
 |
นิโลบล
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
06 พ.ค.2005, 2:44 pm |
  |
ประเทศไทยถือว่าพระภิกษุณีหมดไปนานแล้ว
และการบวชเป็นภิกษุณี ต้องมีอุปัชฌาย์ทั้งสองฝ่าย
คือต้องมีทั้งพระภิกษุ และภิกษุณีด้วย
เมือภิกษุณี ไม่มีเลยบวชไม่ได้
แต่ประเทศศรีลังกา หรือ ไต้หวัน เขาบอกว่ายังมีภิกษุณีอยู่
เขาจึงบวชให้ ถ้าเราต้องการเป็นภิกษุณี
ต้องไปบวชที่ต่างประเทศ แล้วมาอยู่ในไทย
หาบ้านอยู่เอง อยู่ในวัดไม่ได้ เพราะไทยถือว่าภิกษุณีหมดไปนานแล้ว |
|
|
|
|
 |
โอ่
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
06 พ.ค.2005, 11:08 pm |
  |
นิกายเถรวาทเป็นนิกายดั้งเดิม เมื่อไม่มีอุปัชฌาย์ทั้งสองฝ่าย ได้ถือกันว่าภิกษุณีขาดไปแล้ว
เรื่องนี้น่าคิดมาก ให้เอาเรื่องของภิกษุมาเทียบเคียง คือถ้ายังมีภิกษุอยู่ ภิกษุต้องบวชโดยอุปัชฌาย์ แต่เมื่อไม่มีภิกษุอยู่ คือภิกษุขาดไปแล้ว ผู้ประสงค์จะเป็นภิกษุสามารถบวชด้วยตนเองได้
เมื่อภิกษุณีขาดไปแล้ว ความประสงค์จะบวชยังมีอยู่ แม้อุปัฌาย์เป็นไปไม่ครบทั้งสองฝ่ายสามารถจะบวชได้หรือไม่
และถ้าไม่มีพระสงฆ์แล้ว พระธรรมยังอยู่ ผู้หญิงจะบวชภิกษุณีโดยตนเองได้หรือไม่? |
|
|
|
|
 |
อาทิตย์
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
08 พ.ค.2005, 3:48 am |
  |
เรื่องนี้มีหลักฐานที่ชัดเจนในพระไตรปิฎก และอรรถกถา ว่าพระพุทธองค์มีพุทธประสงค์จะให้ภิกษุณีหมดไปโดยเร็ว
ในสมัยพุทธกาล พระนางปชาบดีโคตมี ได้ทูลขออุปสมบทเป็นภิกษุณีรูปแรก แต่พระพุทธองค์ได้ทรงห้ามเสียหลายครั้ง จนในที่สุดพระอานนท์ได้ทูลถามว่าสตรีอุปสมบทแล้วบรรลุธรรมได้หรือไม่ และทูลให้ทรงระลึกถึงคุณของพระนางปชาบดีโคตมี
พระพุทธองค์จึงได้ทรงตรัสว่า
ถ้าหากมีสตรีเข้ามาบวชแล้ว พระศาสนาจะดำรงอยู่ไม่นาน อายุของพระศาสนาจะลดลงกึ่งหนึ่ง แต่ก็ได้ทรงมีพระบรมพุทธานุญาตให้พระนางปชาบดีโคตมีอุปสมบทได้ โดยจะต้องรับครุธรรม ๘ ประการ
ทรงตรัสว่า ครุธรรม ๘ ประการ เปรียบเสมือนทำนบกั้นน้ำ ซึ่งการนี้จะทำให้พระศาสนาดำรงอยู่นาน
ตามหลักฐานดังกล่าวมานี้เป็นต้น พระพุทธองค์ทรงมีพุทธประสงค์จะให้ภิกษุณีหมดไปโดยเร็ว เรื่องนี้เห็นชัดอยู่แล้ว
พระพุทธศาสนาคือ พระไตรปิฎก อรรถกถา ฎีกา
ถ้าถือตามที่ได้ทรงแสดงไว้ ก็จะต้องยอมรับว่า ในปัจจุบันนี้เป็นไปไม่ได้ที่สตรีคนใดจะอุปสมบทเป็นภิกษุณี
ส่วนฝ่ายที่ไม่ได้ยึดถือเถรวาท คือพระไตรปิฏก อรรถกถา ฎีกา ก็มีอยู่ ถ้าสตรีใดไม่ยอมรับเถรวาท จะไปบวชในนิกายมหายานอย่างไรก็เป็นสิทธิที่ทำได้ โดยไม่ควรบิดเบือนหลักฐานของฝ่ายเถรวาท
อนึ่ง การอุปสมบททั้งของภิกษุและภิกษุณี ถ้าหากกรรมเสีย คืออุปสมบทไม่ถูกต้องตามพระบรมพุทธานุญาตแล้ว ก็ไม่สำเร็จเป็นภิกษุและภิกษุณี
คือไม่ใช่ว่า นุ่งห่มผ้ากาสายะแล้วจะกลายเป็นภิกษุ ภิกษุณีไปได้
ตามเถรวาท ถือว่า นักบวชชายหญิงของทางมหายาน ไม่ใช่ภิกษุและภิกษณีแท้ เพราะอุปสมบทไม่ถูกต้องตามพุทธบัญญัติ |
|
|
|
|
 |
เสียเปรียบ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
08 พ.ค.2005, 1:22 pm |
  |
หญิง ชาย มีกิเลสเท่ากัน มีสิทธิ์ หลุดพ้นได้เท่ากัน พระพุทธเจ้าบวชภิกษุณี อรหันต์หลายองค์ ในสมัยพุทธกาล การบวชพระเป็นเพียงรูปแบบสมมติ ยังไม่เป็นพระแท้ พระแท้อยู่เหนือรูปแบบและพิธีกรรม ผู้หญิง ผู้ชาย และสมณะ ขอได้โปรดส่งเสริมให้ความสะดวก ให้ปัจจัยสี่ แก่หญิงที่ปฏิบัติธรรมด้วย ช่วยกันระดมความคิดว่า จะให้แต่งตัวอย่างไร สมมติเรียกนักบวชหญิง ที่ปฏิบัติธรรม และถือพรหมจรรย์ว่าอย่างไร พุทธวิธี อริยรรค เป็นของกลาง พระพุทธเจ้า วางไว้ให้ทุกคน ไม่จำกัด เพศ วัย เชื้อชาติ อย่ายอมเสียเปรียบ อย่ายอมแพ้ต่ออุปสรรค เพราะอุปสรรคบ่อมี บารมีบ่เกิด โมทนา สาธุ |
|
|
|
|
 |
นิโลบล
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
08 พ.ค.2005, 4:37 pm |
  |
ถูกต้องครับ คุณความเห็นที่ 7
คนไม่บวชก็บรรลุอรหันต์ได้
ไม่เกี่ยวกับใส่สบงห่มจีวรหรอกขอรับ
ฆราวาสในพระพุทธศาสนาบรรลุอรหันต์ ตั้งหลายคน เช่นยสกุลบุตร
|
|
|
|
|
 |
เกียรติ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
08 พ.ค.2005, 5:16 pm |
  |
อีกประการหนึ่งนะครับ หญิงเป็นชาย ชายเป็นหญิงก็เป็นกันมานับไม่ถ้วนแล้ว ดังนั้น เราท่านที่เป็นผู้ชายอย่านึกว่าเราไม่เคยเป็นผู้หญิงนะครับ เช่นเดียวกัน เพื่อนๆ ผู้หญิงทั้งหลายก็เคยเป็นผู้ชายกันมาแล้วทั้งนั้น วัฏสังสารนี้ยาวนาน พระพุทธเจ้ามาตรัสรู้นับพระองค์ไม่ถ้วนแล้ว แต่เรายังอยู่ ยังไม่ได้ตามพระองค์ไป จึงเป็นเครื่องยืนยันว่า ชัวิตเราต้องขึ้นและลง และเป็นมาทุกๆอย่างแล้วทั้งสิ้น ดังนั้น จึงไม่ควรไปกังวลว่า กฏเกณฑ์บังคับชายหญิงจะต้องเหมือนกันทุกประการ แต่ปรับที่ใจเราจะดีกว่า ที่จะคิดดี พูดดี ทำดี เพื่อให้เรามีชีวิตที่ดียิ่งๆ ขึ้นไป จนกระทั่งหลุดพ้นตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเข้าพระนิพพานไปน่ะครับ |
|
|
|
|
 |
ปุ๋ย
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
08 พ.ค.2005, 8:38 pm |
  |
จะมีหรือไม่มีก็ไม่ใช่ปัญหา จะหญิงหรือชายก็ไม่ใช่ปัญหา ผ้าพันกายจะเป็นสีใดก็ไม่ใช่ปัญหา เพียงกฏเกณฑ์ของสังคม แต่บุคคลที่เข้าไปอยู่ในกฏของสังคมนั้นๆ ปฏิบัติได้ตามกฏที่วางไว้หรือไม่
หรือถือไว้เป็นเพียงกฏ แต่จิตใจก็ยังหนาด้วยกิเลสอย่างเดิม แบ่งแยกอย่างเดิม ไม่เหมือนกู ไม่เหมือนxxx อย่างเดิม บวชแล้วกิเลสหนากว่าเดิม หรือเบาบางลง จริงหรือไม่ ท่านผู้ปฏิบัติ ไม่มายึดถือว่าจริงไม่จริง
ธรรมะสวัสดี
มณี ปัทมะ ตารา  |
|
|
|
   |
 |
lek
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
20 พ.ค.2005, 11:55 pm |
  |
ปฎิบัติที่จิตค้นที่จิตทุกคนนะครับ จิตในจิต
ขอให้ถึงซึ่งที่ทุกคนปราถนา นะครับ |
|
|
|
|
 |
|