ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
mes
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
14 ส.ค. 2008, 1:03 pm |
  |
ในการถามตอบกระทู้ ขอบเขตของการเสวนาธรรมที่จะไม่ล่วงเข้าสู่วจีกรรม หรือให้เป็นวจีกรรมน้อยที่สุด
ควรอยู่ที่ตรงไหน อย่างไรครับ จึงจะเป็นมงคล
ขอความเห็นครับ |
|
|
|
   |
 |
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
14 ส.ค. 2008, 1:13 pm |
  |
มันก็ยากนะ การวางเฉย
เอาเข้าจริง ก็ยาก
แต่สนุกดี ได้ด่าคนบางคน ด่าๆไปงั้นแหละ
ไม่คิดอะไรมาก ฮาๆ ขำๆ
ถ้าบ้าๆเลย บ้าพูดไม่รู้เรื่อง
ผมจะวางอุเบกขาได้ง่ายมาก
แต่บ้าแล้วแสดงตัวมาสั่งสอนชาวบ้าน แถมจะมาเอาผมเป้นศิษย์อีก
โอย ผมก็รักชีวิตนะ
อุๆๆๆ
ปล. ขออำภัยที่ทำให้เสียบรรยากาศ |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
  |
 |
เมธี
บัวตูม

เข้าร่วม: 02 มี.ค. 2008
ตอบ: 222
|
ตอบเมื่อ:
14 ส.ค. 2008, 1:40 pm |
  |
|
    |
 |
mes
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
14 ส.ค. 2008, 2:27 pm |
  |
อ้างอิงจาก: |
ปล. ขออำภัยที่ทำให้เสียบรรยากาศ |
บรรยากาศอย่างนี้แหละครับ
ตัวจริง เสียงจริง ไม่ปรุ่งแต่ง
ธรรมะไม่ใช่เรื่องสวยๆงามๆ
ไม่ใช่สยามสแคว์(โบราณไปหน่อย)
แต่ธรรมะยังประกอบด้วยศรีธัญญา
ผมทราบและเข้าใจว่ายากที่จะหลีกเลี่ยง
หรืออุเบกขา
ผมเองก็เช่นกันไม่ได้เป็นคนดี บรรลุธรรมอะไร ปุถุชนเนื้อๆ
เอาว่าเป็นเรื่องสนทนากันก็แล้วกันครับ |
|
|
|
   |
 |
ขันธ์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
14 ส.ค. 2008, 2:30 pm |
  |
ความเป็นมงคล คือ พูดสิ่งที่เป็นจริง พูดข้อธรรม แม้วาจาจะหนัก ก็ไม่เป็นไร
เพราะว่า เราต้องเจอทั้งคนพาล คนดี คนพาลเราก็ต้องพูดอย่างหนึ่ง
คนดีเราก็ต้องพูดอย่างหนึ่ง แต่ต้องเป็นข้อธรรมทั้งหมด จึงเรียกว่าเป็นมงคล
ทีนี้ ในบทข้อที่ว่า อเสวนาจ พาลานัง เราก็ต้องไม่ใช้ การเถียงกันไปเถียงกันมา แต่ต้องใช้ข้อธรรม
ก็มีตัวอย่าง นิทานหลวงตา เล่าให้ฟัง
เมียบอกว่า ผัวตัวเองดุ พูดจาไม่เพราะ
ผัวก็เลยบอกว่า เหรอจ๊ะที่รัก ผัวจะพูดเพราะก็ได้ ขอไปมีเมียน้อยสักคนได้ไหมจ๊ะ
แบบนี้เอาไหม คือ พูดไพเราะ แต่ว่ากระทำตัวไม่ดี อวดดีอวดเด่น
อวดรู้ ชอบในโลกธรรม คือ ชอบคำสรรเสริญ คำด่าไม่ชอบ
กับ คนที่ เฉยๆ กับโลกธรรม เลือกที่จะพูดกับคนดีอย่างหนึ่ง คนไม่ดีอย่างหนึ่ง ก็ให้เราพิจารณาดูว่า มงคลนั้น คืออะไร |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
  |
 |
mes
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
14 ส.ค. 2008, 2:44 pm |
  |
ขอถามคุณขันธ์
พูดดี กับ พูดเพราะ เหมือนกัน หรือ ต่างกันอย่างไร |
|
|
|
   |
 |
เมธี
บัวตูม

เข้าร่วม: 02 มี.ค. 2008
ตอบ: 222
|
ตอบเมื่อ:
14 ส.ค. 2008, 2:56 pm |
  |
ในมงคลชีวิต 38 ประการ มีมงคลหนึ่งคือ
สนทนาธรรมตามกาล
ผมเคยอ่านรายละเอียดที่มีผู้อธิบายไว้
ควรที่จะเลือกคนที่มาสนทนาธรรมด้วย มิฉะนั้นสนทนาธรรมก็จะเปล่าประโยชน์ ดีไม่ดีก็ทะเลาะกันได้
สำหรับในเวปนี้เปิดกว้างให้ทุกท่านสนทนาธรรมกันได้ เพราะฉะนั้นการเลือกผู้ที่จะมาสนทนาธรรม(แล้วไม่กระทบกระทั่งกัน) ด้วย จึงเป็นเรื่องที่ลำบาก
อย่างไรเสีย ก็อย่าให้ถึงกับทะเลาะ ขุ่นเคืองกันเลยครับ อะไรๆอภัยได้ก็อภัยให้กัน ยากหน่อยแต่ก็ควรปฏิบัติน่ะครับ
เรื่องขอบเขตในการสนทนาธรรม ท่านใดมีความเห็นโปรดชี้แนะด้วย |
|
|
|
    |
 |
ขันธ์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
14 ส.ค. 2008, 3:16 pm |
  |
คุณ mes ที่คุณถามว่า พูดดีอย่างหนึ่ง กับพูดเพราะต่างกันอย่างไร
ก็ตอบว่า คนพูดดี ก็คือ การใช้วาจาที่ดี
คนพูดเพราะก็ใช้วาจาที่ดี
โดยมากแล้วเขาก็เรียกรวมๆ ด้วยความหมายที่คล้ายคลึงกัน
ผมจะขอถาม พวกท่านอย่างหนึ่งนะครับ กลับไปอ่านอย่างปราศจากอคติ
ว่า การเหน็บแนม โดยไม่มีเหตุผล หรือ การตำหนิโดยทางอ้อม หรือ ทางตรงแต่ไม่มีเหตุผล
กับ การตำหนิอย่างมีเหตุผล และ ใช้คำพูดที่ตรงไปตรงมา อย่างไหนเป็นมงคลกว่ากัน
คุณ mes คุณ กำลังบอกว่า วจีกรรม คุณต้องไปสำรวจดูก่อนเมื่อครั้งที่คุณพูดอย่างไม่มีเหตุผล และ ครั้ง คามิน พูดอย่างไม่มีเหตุผล
คุณควรจะ เอาไปเตือนกัน ไม่ใช่มาเตือนผม หรือ ถามผม แต่ควรถามตนเองและ คามิน ว่า เสวนาธรรมะ หรือ วจีกรรม
เพราะว่า ทุกข้อที่ผมพูดไปนั้นแหละธรรม มันอยู่ที่พวกคุณ กิเลสหนานั้นจะมองเห็นหรือไม่ |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
  |
 |
mes
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
14 ส.ค. 2008, 3:22 pm |
  |
ขันธ์ พิมพ์ว่า: |
ความเป็นมงคล คือ พูดสิ่งที่เป็นจริง พูดข้อธรรม แม้วาจาจะหนัก ก็ไม่เป็นไร
เพราะว่า เราต้องเจอทั้งคนพาล คนดี คนพาลเราก็ต้องพูดอย่างหนึ่ง
คนดีเราก็ต้องพูดอย่างหนึ่ง แต่ต้องเป็นข้อธรรมทั้งหมด จึงเรียกว่าเป็นมงคล |
ผมว่าการสนทนาธรรมไม่มีความจำเป็นต้องขู่กันให้กลัวเหมือนพวกร่างทรงทั้งหลาย ให้ผู้ที่เข้าหากลัว
ข้อสำคัญไม่พาดพิงผู้อื่นโดยไม่จำเป็น ยกเว้นพาดพิงไปในทางที่ดี
คำว่าโง่ เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ไม่ควรใช้
ที่ยกเอาคำนี้ขึ้นมาอาจจะกลายเป็นอีกกระทู้หนึ่งก็ได้คือ
จากการอ่าน เสาะหาความรู้ และหาเพื่อนคุย ตามเวปต่างๆ
ประสบการณ์ประการหนึ่งคือ
มีบุคคลอยู่พวกหนึ่งคิดว่าตนเองบรรลุโสดาบัน บางคนคิดว่าตนคื่ออรหันต์
หนักหนาสาหัสก็เป็นพระศาสดายุคใหม่ หรือพระศรีอริยเมตไตรย์ไปเลย
พอมีความรู้ลึกตัวเช่นนั้นจึงอุปทานว่าตนเป็นอริยบุคคลที่ทุกคนต้องเกรงกลัว ต้องเคารพนับถือ
เวลาแสดงความคิดเห็นจึงใช้แต่วาจาก้าวร้าว แล้วอุปทานว่าจะทำให้คนเกรง
เวลากล่าวกับผู้อื่นมักด่าว่าเขาโง่เพื่อเป็นการตัดไม้ข่มนาม
ที่อาการหนักก็ถึงกับขู่ว่าถ้าใครกล่าวตำหนิว่าเขาจะเกิดเภทภัยขึ้นกับตัวเองเป็นที่น่าขบขัน
คุณขันธ์เคยเจอคนประเภทนี้ไหมครับ
และมีความคิดเห็นเกี่ยวกับคนประเภทนี้อย่างไร
คุณขันธ์มีข้อแนะนำดีๆต่อคนพวกที่กล่าวมานี้ให้เขาได้สำนึกได้อย่างไรบ้างครับ
คนจำพวกนี้สมควรได้รับความเมตตาหรือไม่
ขอให้ใช้หลักมงคล 38 ประการในการตอบด้วย
ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ |
|
|
|
   |
 |
Story Note
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2007
ตอบ: 97
|
ตอบเมื่อ:
14 ส.ค. 2008, 3:29 pm |
  |
** พูดดี ..พูดให้ผู้ฟัง มีความคิดเห็นคล้อยตาม ผู้ฟังพิจารณาแล้วว่า คนนี้พูดดี มีหลักมีการ มีเหตุมีผล เข้าท่ามากกว่า คนที่พูดแล้วฟังไม่รู้เรื่อง หยิบยกอะไรมากล่าวอ้างไม่ค่อยท่า...
** พูดเพราะ ..พูดหวาน ฟังแล้วไพเราะเสนาะหู ไม่หยาบคาย ฟังแล้วน้ำเสียงนุ่มนวลชวนฟัง ฟังแล้วให้เคลิ้มไปในอารมณ์ ดีกว่าคนที่พูดจาหยาบคาย กระโชกโหกฮาก ไม่น่าฟัง
อารมณ์ของคนพูดดี พูดเพราะ.. ย่อมบ่งบอกถึงผู้มีปัญญา ความฉลาดในการเชิงพูด สัมมาวาจา การเจรจาชอบ ไม่ติเตียน ไม่ดูหมิ่น ไม่จ้องจับผิดผู้ใด ย่อมพัฒนาจิตได้ดีกว่า... |
|
|
|
  |
 |
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
14 ส.ค. 2008, 3:34 pm |
  |
(ใช้สิทธิพาดพิง)
ผลของกรรม.. เป้นเครื่องชี้.. กรรม(ที่ทำ)
กรรม..เป็นเครื่องชี้...เจตนา
คุณขันที ..ขันแตก ..พยามขันไม่หยุด ..เพราะอยู่ในวัยไม่ขันแล้ว 555
ลูกเอ๊ยยย....
ผลของกรรม ผลของการกระทำของลูก มีดังนี้
1. คนแถวนี้เขาอยู่กันปรกติสุขมานาน
จนกระทั่งคุณอาสาเข้ามาสั่งสอน
คนแถวนี้เขาทำอาหารแล้วแบกมาแบ่งกันชม แบ่งกันชิม
ใครติใครชม ใครขอบ ใครกินไม่กิน ไม่มีใครถือสา เพราะเขาเข้าใจหน้าที่
แต่คุณเป้นประเภท แบกมาจากบ้านแล้วไล่จับยัดใส่ปากคน!!
คนเขาไม่กิน ไม่ชอบ ไม่อยากยุ่งด้วย คุณก็ไม่ยอม ไปลาก ไปเรียก ไปท้าเขามากินให้ได้
หนักหน่อยก้จับยัดใส่ปากเลย
โอ... มายก๊อดจิ
2. ทำไม .... คนจำนวนมาก ... ทะเลาะอยู่แต่กับคุณคนเดียว
คนทั้งโลกป่วย หรือเราเองที่ป่วย?
3. ทำไม .... พระพุทธเจ้าพูดธรรม แล้วเกิดสันติสุข
แต่คุณพูดธรรมแล้วเกิดแต่ความขัดแย้ง?
4. ทำไม.... คุณไปที่ไหน ... ก็มีแต่ความขัดแย้ง
5. กี่ครั้งแล้ว กี่คนแล้ว ที่แสดงเจตนาไม่วิสาสะกับคุณอีกต่อไป
มีแต่คนคว่ำบาตรกับคุณอยู่ทุกหนทุกแห่ง
ในที่นี้ก็มีผม มีคุณ guest มีคุณสมญา คุณสีบุญมา
พูดให้มันน้อยๆกว่าคิดบ้าง ... ลองถามตัวเองเถิด ... ลองคิดเองเถิด |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
  |
 |
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
14 ส.ค. 2008, 3:52 pm |
  |
วจีสุจริต
เว้นจากการพูดเท็จ
เว้นจากการพูดส่อเสียด
เว้นจากการพูดคำหยาบ
เว้นจากการพูดเพ้อเจ้อเหลวไหล
คือแม้ว่าจะเป็นความจริง
แต่หากว่าเป็นคำส่อเสียดก่อให้เกิดความแตกร้าว
เช่นนำความข้างนี้ไปบอกข้างนั้น
นำความข้างนั้นมาบอกข้างนี้
เพื่อจะยุให้ทั้งสองฝ่ายแตกกัน
แม้จะเป็นความจริงที่ไม่ควรพูด
เพราะทำให้เขาแตกกัน
เข้าในพวกส่อเสียด
หรือแม้ว่าเป็นคำหยาบ
ไม่ได้มุ่งจะหลอกลวงให้เข้าใจผิด
แต่ว่าเป็นคำหยาบคาย
เช่นเป็นคำด่าว่า
เป็นสัตว์ดิรัจฉานอย่างโน้นอย่างนี้ อะไรเป็นต้น
หรือแม้วาจาอย่างอื่นซึ่งเป็นการกล่าว
กดให้เลวลง
ซึ่งทุกคนก็รู้ว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น
และก็ไม่ได้มุ่งที่จะหลอก
แต่ว่ากล่าวด้วยความโกรธ
ด้วยความเหยียดหยาม
ต้องการจะกดเขาให้เลว
ก็ไม่ควรพูด
และแม้ว่าเป็นคำที่เพ้อเจ้อเหลวไหล
ไม่เป็นธรรม ไม่เป็นวินัย
ไม่มีขอบเขตจำกัด หาสาระแก่นสารมิได้
หรือว่ามีสาระแก่นสารน้อยเกินไป
ก็เป็นคำไม่ควรพูด
วจีทุจริต
วาจาเช่นที่กล่าวมานี้ คือ
การพูดเท็จก็ดี
การพูดส่อเสียดก็ดี
การพูดคำหยาบก็ดี
การพูดเพ้อเจ้อเหลวไหลก็ดี
ก็นับว่าเป็น วจีทุจริต คือ
การพูดที่เป็นทุจริตเสมอกัน
เพราะฉะนั้นแม้เป็นความจริง
ก็ไม่ใช่ว่าเป็นข้อที่ควรพูดเสมอไป
ต้องอยู่ในขอบเขตอันสมควร
: ทศบารมีและทศพิศราชธรรม
: สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
====
การให้ธรรมเป็นทาน เป็นทานสูงสุด
ผู้ให้ให้ด้วยความเมตตา หวังบุญกุศลในธรรมทาน
หากให้ด้วยความไม่เมตตา
ท่านไม่เรียกธรรมทาน
//////////////////////////////////
คัดจาก http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?p=71115
โดยคุณ I am |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
  |
 |
mes
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
14 ส.ค. 2008, 3:54 pm |
  |
คุณขันธ์เคยคิดว่าตัวเองเป็นอริยบุคคล
หรือโสดาบันหรือไม่
ที่ถามเพราะมีคนเคยกล่าวถึง
คนที่ตำหนิคุณต้องมีอันเป็นไปจริงหรือ
เป็นธรรมะอะไรครับ |
|
|
|
   |
 |
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
14 ส.ค. 2008, 3:57 pm |
  |
mes พิมพ์ว่า: |
คุณขันธ์เคยคิดว่าตัวเองเป็นอริยบุคคล
หรือโสดาบันหรือไม่
ที่ถามเพราะมีคนเคยกล่าวถึง
คนที่ตำหนิคุณต้องมีอันเป็นไปจริงหรือ
เป็นธรรมะอะไรครับ |
เขาบอกว่าผมจะบ้าแน่ๆ
เพราะไปต่อว่าเขา
อืม |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
  |
 |
ขันธ์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
14 ส.ค. 2008, 4:45 pm |
  |
อ้างอิงจาก: |
คุณขันธ์เคยคิดว่าตัวเองเป็นอริยบุคคล
หรือโสดาบันหรือไม่
ที่ถามเพราะมีคนเคยกล่าวถึง
คนที่ตำหนิคุณต้องมีอันเป็นไปจริงหรือ
เป็นธรรมะอะไรครับ |
ข้อนี้ผมขอไม่ตอบนะครับ เพราะคุณไม่รู้จักคุมประเด็น
และกำลังแตกประเด็นไป
คุณต้องพิจารณาสิ่งที่ผมพูดให้ยุติด้วยปัญญาตัวเองก่อน
ส่วนเรื่องที่ว่า การข่มผู้อื่น การสำคัญตัวว่าเป็นพระอริยะ ข้อนี้คุณคิดไปเองทั้งสิ้น
ทำไมคุณไม่ถามคามินหละ ในเมื่อเขาพูดว่า เขาเป็นพ่อ และผมเป็นลูก
ข้อนี้ไม่ใช่การข่มหรือ
นี้แหละเรียกว่า ข่ม อย่างไม่มีเหตุ ส่วนผมพูดอะไรทั้งหมด เรื่องนั้นเป็นเรื่องจริง
คุณแยกกันไม่เป็นเอง |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
  |
 |
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
14 ส.ค. 2008, 4:55 pm |
  |
ขันธ์ พิมพ์ว่า: |
ข้อนี้ผมขอไม่ตอบนะครับ เพราะคุณไม่รู้จักคุมประเด็น
และกำลังแตกประเด็นไป
คุณต้องพิจารณาสิ่งที่ผมพูดให้ยุติด้วยปัญญาตัวเองก่อน
ส่วนเรื่องที่ว่า การข่มผู้อื่น การสำคัญตัวว่าเป็นพระอริยะ ข้อนี้คุณคิดไปเองทั้งสิ้น
ทำไมคุณไม่ถามคามินหละ ในเมื่อเขาพูดว่า เขาเป็นพ่อ และผมเป็นลูก
ข้อนี้ไม่ใช่การข่มหรือ
นี้แหละเรียกว่า ข่ม อย่างไม่มีเหตุ ส่วนผมพูดอะไรทั้งหมด เรื่องนั้นเป็นเรื่องจริง
คุณแยกกันไม่เป็นเอง |
คุณขันธ์เอ๊ย
ผมพูดธรรมครับคุณขันแตก ที่ผมพูดนี่ ธรรมล้วนๆเลย
คุณแยกแยะไม่เป็นเอง
ความเป็นมงคล คือ พูดสิ่งที่เป็นจริง พูดข้อธรรม
แม้วาจาจะหนัก ก็ไม่เป็นไร
เพราะว่า เราต้องเจอทั้งคนพาล คนดี คนพาลเราก็ต้องพูดอย่างหนึ่ง
คนดีเราก็ต้องพูดอย่างหนึ่ง แต่ต้องเป็นข้อธรรมทั้งหมด จึงเรียกว่าเป็นมงคล |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
  |
 |
ขันธ์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
14 ส.ค. 2008, 5:01 pm |
  |
ปัญญาปิดหมดแล้วหรือ คามิน ถึงได้คิดอะไรเพียงเท่านั้น
พูดเป็นอยู่สองสามคำ เป็นเด็กเพิ่งหัดพูด เช่น ขันแตกเอ้ย พ่อ ลูก
ขันคนชั่ว
นี่ตัวเองไม่มองว่า ตัวเองพูดจาเป็นอยู่สองสามคำ ริอาจจะมาสอนธรรมคนอื่น
ริอาจจะมาด่าคนอื่น
นี่ที่เขาว่า กิเลสเวลามันปิดมันก็มืด อีกหน่อยก็จะปิดมากกว่านี้ เหลือแค่ โฮ่ง โฮ่ง นั้น เอาไหมแบบนั้น ไอ้ตัวที่โฮ่งๆ ที่เห็นมันทั่วไปนี่แต่ก่อนมันก็เป็นแบบ คามินนี่แหละ คือ ประมาท ไม่ยอมเปิดหูเปิดตา แล้วกิเลสมันค่อยๆ ปิดมาเรื่อยๆ ก็เลยกลายไปเป็น โฮ่งๆ เอ๋งๆ |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
  |
 |
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
14 ส.ค. 2008, 5:10 pm |
  |
ขันธ์ พิมพ์ว่า: |
ปัญญาปิดหมดแล้วหรือ คามิน ถึงได้คิดอะไรเพียงเท่านั้น
พูดเป็นอยู่สองสามคำ เป็นเด็กเพิ่งหัดพูด เช่น ขันแตกเอ้ย พ่อ ลูก
ขันคนชั่ว
นี่ตัวเองไม่มองว่า ตัวเองพูดจาเป็นอยู่สองสามคำ ริอาจจะมาสอนธรรมคนอื่น
ริอาจจะมาด่าคนอื่น
นี่ที่เขาว่า กิเลสเวลามันปิดมันก็มืด อีกหน่อยก็จะปิดมากกว่านี้ เหลือแค่ โฮ่ง โฮ่ง นั้น เอาไหมแบบนั้น ไอ้ตัวที่โฮ่งๆ ที่เห็นมันทั่วไปนี่แต่ก่อนมันก็เป็นแบบ คามินนี่แหละ คือ ประมาท ไม่ยอมเปิดหูเปิดตา แล้วกิเลสมันค่อยๆ ปิดมาเรื่อยๆ ก็เลยกลายไปเป็น โฮ่งๆ เอ๋งๆ |
ชอบคับ ภาคภูมิใจที่ยกย่องให้เป็นหมา
เพราะหมามันไม่เห่าซี้ซั้ว มันเห่าเพราะมีเหตุ
และหมานี่ ขึ้นชื่อมากๆ 2 อย่าง
คือ กตัญญู และ ซื้อสัตว์
หมายังไม่มีวาจาทุจริตอีกด้วย
ทำให้คนรักมันมาก ขนาดนับเป็นลูกด้วย
สำหรับผม มันเป็นสัตว์มงคลครับ
ซึ่งมีแต่คุณขันที ที่มองไม่เห็นมงคลอย่างนี้
เพราะถนัดแต่ในการหมกมุ่นมองหาความอัปมงคลทั้งหลาย เที่ยวเพ่งโทษคนอื่นเป็นนิจ
ไม่เว้นแม้แต่การล่วงเกินพระพุทธเจ้าด้วยการเอาพุทธวจนะมาด่าคนอื่นเป็นโสเภนี
เลยทำให้มันมีอะไร หนาๆ มาปิดตา ปิดหู ปิดใจ |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
  |
 |
โปเต้
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 10 พ.ค. 2008
ตอบ: 76
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ
|
ตอบเมื่อ:
14 ส.ค. 2008, 6:21 pm |
  |
นับถือ คุณคามินธรรม ไม่ร้อนบ้าง หรืออย่างไร
ยังอุตส่าห์เขียนฮาๆ ขำๆ ได้ เป็นเด็กป่วนกวนเมืองไปซะแระ
(ไม่ร่วมรบนะคะ มาแซวเด็กเล่นแค่เนี้ยแหละ.. ) |
|
_________________ สิ่งใดมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
สิ่งนั้นย่อมมีความดับไปเป็นธรรมดา |
|
  |
 |
กุหลาบสีชา
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2007
ตอบ: 1466
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
14 ส.ค. 2008, 7:35 pm |
  |
ธรรมสวัสดีค่ะคุณ mes และทุกท่าน
เข้ามาทักทายยามค่ำค่ะ
และอยากจะบอกว่า
ขออนุโมทนากับทุกท่าน...ที่มีกุศลเจตนา
ในการแลกเปลี่ยน และเกื้อกูล "ความรู้ในธรรม" ระหว่างกัน
เพื่อนำไปสู่การเกิด "ปัญญาในธรรม" ต่อไป...นะคะ
นักสนทนาธรรมที่ดี...ต้องมีคุณสมบัติอย่างไรกัน ?
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=13037
ป.ล ฝากไว้เพราะไม่ปรารถนาให้เกิด "สงคราม" ที่นี่อีกครั้งน่ะค่ะ  |
|
|
|
    |
 |
|