Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
ผู้ปฏิบัติธรรมต้องได้องค์ 3
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
บุญยงค์
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 07 มี.ค.2005, 9:43 am
พระพุทธเจ้าได้ทรงวางหลักในการดำเนินชีวิตไว้ว่า "ผู้ปฏิบัติธรรมต้องให้ได้องค์ 3 " คือ 1.อาตาปิ 2.สติมา 3. สัมปชาโน ช่วยอธิบายความหมายเหล่านี้ด้วยครับ
chaiworn84@hotmail.com
จันทโชต
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 07 มี.ค.2005, 11:20 am
อาตาปี = มีความเพียรขยันบริกรรมภาวนา เพือเผากิเลส (เครื่องเศร้าหมองใจ)
>> เมื่อกิเลส โผล่ออกมา (กิเลสบางตัวมันเหมือนตะกอนนอนก้นตุ่มน้ำ ไม่เขย่าไม่ฟุ้ง)
>>โผล่ขึ้นมา รู้ตัว เป็นสติมา = สติ นึกได้. สัมปชาโน = สัมปชัญญะ รุ้ตัว สติสัมปชัญญะ เกิดด้วยกัน (นึกได้ก็รู้ตัว) บริกรรมภาวนาเผามัน
>> ยกอุทาหรณ์ ให้เห็น
เมือ... บริกรรมภาวนา ตามพุทธวิธี ที่ตนชำนาญ เช่นชำนาญ พูทโธ ก็ พุทโธ ชำนาญ พอง-ยุบ บริกรรม ด้วยพอง-ยุบ
>>ขณะที่กำลังกำหนดนาม-รูปอยู่นั่น ความสงสัยเกิดขึ้น ก็วางอารมณ์หลักเดิมก่อน แล้วมาเอาอารมณ์ คือ ความสงสัยภ าวนาไปตามอาการที่รู้สึกว่ามันสงสัย ว่า สงสัยหนอ ๆ ๆ ๆ จนหายไปหรือจางลง
>> เมื่อองค์ธรรม คือ สัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา มากพอ ก็ตัดได้เร็ว ธรรมะ 5 ตัวนี้มีเกิดทุกขณะที่เราบริกรรม เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย
โอ่
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 08 มี.ค.2005, 6:57 am
ยะทิทัง จัตตาโร สติปัฏฐานา กะตะเม จัตตาโร
อิธะ ภิกขะเว ภิกขุ กาเย กายา นุปัสสี วิหะระติ "อาตาปี สัมปะชาโน สะติมา" วิเนยยะ โลเก อภิชฌา โทมะนัสสัง
ทางนี้คือที่ตั้งแห่งสติปัฆฐาน (ธรรมเป็นที่ตั้งแห่งสติปัฏฐาน) 4 อย่าง สติปัฏฐาน สี่อย่างคืออย่างไร?
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมพิจารณาเห็นกายในกายเนืองๆ (รวมทั้งพิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาเนืองๆ พิจารณาเห็นจิตในจิตเนืองๆ พิจารณาเห็นธรรมในธรรมเนืองๆ ) อยู่มีความเพียรให้กิเลสเร่าร้อนมีสัมปชัญญะมีสติ พึงนำอภิชฌาและโทมนัส (ความยินดีความยินร้าย) ในโลกเสียให้พินาศ
(จาก อุทเทส มหาสติปัฏฐานสี่)
จะเห็นว่าในการปฏิบัติตามหลักสติปัฏฐานสี่ มีความเพียรเผากิเลส(การเจริญสติด้สมาธิได้ฌาน) ต้องมัสัมปชัญญะ คือความรู้ตัวทั่วพร้อมใน กาย เวทนา จิต และธรรม ตามหลักสติปัฏฐานสี่ และมีสติ คือความระลึกได้ในกาย เวทนา จิต และธรรม
ความเพียรเผากิเลส ความมีสัมปชัญญะ ความมีสติ ทั้งสามอย่างนี้จะต้องประกอบกันเสมอในการปฏิบัติตามหลักสติปัฏฐานสี่ ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง การปฏิบัติตามหลักสติปัฏฐานสี่ก็จะผิดวิธี ไม่อยู่ในหลักสัมมาทืฏฐิ แต่เป็นมิจฉาทิฏฐิไป
โอ่
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 08 มี.ค.2005, 6:59 am
เหตุผลที่ว่า"ฌาน" เป็นเครื่องเผากิเลสนั้น เพราะฌานกำจัดนิวรณ์ที่เป็นกิเลสอย่างกลางด้วยการข่ม
จันทโชต
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 11 มี.ค.2005, 1:26 pm
>>มีคนหนึjง รุ้จักโจร... เห็นโจร ขึ้นบ้าน ฯลฯ รู้ว่า เป็นโจรมาปล้น แต่ไม่รุ้วิธีทำยังไร จึงจะจับโจรได้ หรือประหารโจรได้ นั่งดูอยู่งั้น บางทีตัวสั่นงันหงกตกใจกลัว...เพราะมากันมากเหล้อเกิน จนหน้านิ่วคิ้วขหมวด
จันทโชต
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 11 มี.ค.2005, 1:47 pm
>>สติปัฏฐาน 4 นั้นเกิดในขณะทีเจริญภาวนานั้นแหละทุกอย่าง ทุกข้อ ทุกลมหายใจเข้าออก เกิดไม่รู้กี่รอบกี่ตลบ นั่งอยู่ดูการเคลื่อนไหวกาย ดูอาการท้องขึ้น-ยุบลง ก็ดูกาย เป็นกายาปัสสนาสติปัฎฐานแล้ว 1 แล้ว รู้ว่า สุขเวทนาเกิดรู้แล้ว บริกรรมสุขหนอ ๆ ๆ เป็นเวทนานุปัสสนาสติปักฐาน 2 แล้ว นั่งบริกรรมอารมณ์หลักไป ความคิดแว้บออกไปนอกอารมณ์หลัก บริกรรมว่า คิดหนอๆ ๆ เป็นจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน 3 แล้ว นั่งภาวนาอารมณ์หลัก ไปเรื่อย ๆ ง่วงนอนเกิด รู้สึกตัว ภาวนาว่า ง่วงหนอๆ ๆ เป็นธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐานแล้ว ครบ 4 แล้ว
>>ที่สำคัญคือ การภาวนา เป็นหัวใจเลยทีเดียว ไม่ใช่นั่งเฉยๆ นั่งดูเฉยๆ ตามมันไม่ทัน เมื่อตามไม่ทัน องค์ธรรม คือ สัทธพละ วิริยพละ สติพละ สมาธิพละ ปัญญาพละ ซึ่งเป็นพละธรรมไม่เกิด ถึงเกิด เหมือนคนพิการ
ไม่แข็งพอที่จะไปประหารกิเลสได้
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
ไม่สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th