พระจูฬปัณถก ผู้มีปัญญาเสื่อมลงแล้วกลับเจริญขึ้นโดยพลัน

ตอบเมื่อ: 28 ก.ค.2008, 8:21 am

อ้างอิงจาก:

เขาไม่เคยตามด่าใคร คือ เขาไม่เคยอยู่ดีๆ แล้วมาว่าผมและเพื่อนๆว่า ธรรมะคุณไม่ดี หรือ คุณเป็นคนไม่ดี เขาไม่เคยเริ่มก่อน เว้นแต่ว่า ถ้าเถียงกันอยู่แล้วเขาจะอวตารมาด่าคนอื่น หรือ ออกมาแสดงการโต้แย้ง ข้อนี้หมายความว่า เขาก็เถียงไปตามบุคคลทั่วไป ที่จะเกิดอารมณ์ หรือ เกิดความไม่พอใจ ได้ แต่ไม่ได้หมายถึงว่าเขาเป็นคนที่ ตามด่าคนอื่น

คุณขันธ์ ไม่เคยอ่านพบที่มีการจาบจ้วงพระเถระผู้ใหญ่ เลยหรือ

ตอบเมื่อ: 28 ก.ค.2008, 8:29 am

อ้างอิงจาก:

คนหนึ่งมีเมตตา อยากจะให้ผู้อื่นเห็นจริง แต่สิ่งที่ตนรู้อาจจะไม่ถูกต้องและไม่เคยตามด่าตามว่าใคร ยังคงแสดงธรรมตามที่ตนรู้
กับอีกคนหนึ่ง รู้สิ่งที่ถูกต้อง แล้วตามโกรธ ตามไม่พอใจกับบุคคลคนแรก
แล้วคอยตามด่า ตามว่าเขา โดยไม่ได้พิจารณาในหลักธรรม

คุณขันธ์ กล่าวไม่จริง

หลักฐานมากมายคุณพยายามมองไม่เห็น

ผมไม่ต้องไป copy มาหรอก

คุณจะรักชอบใครเป็นเรื่องของคุณ

คุณจะปกป้องคนบิดเบือนพระธรรมก็เป็นเรื่องของคุณ

แต่ผมจะปกป้องพระศาสนาต่อไป

ตามหน้าที่ของพุทธศาสนิกชนคนหนึ่ง

ศาสนานี้เป็นของสาธารณชน

แม้หากผมล่วงเกิน พุทธศาสนิกท่านอื่นก็ต้องดำเนินการกับผม

ผมมีมาตรฐานของผมในใจ

ถึงแม้จะเป็นคนละมาตรฐานกับคุณขันธ์

ตอบเมื่อ: 28 ก.ค.2008, 9:50 am

เดี๋ยวสิครับ ผมไม่ได้ปกป้องใบไม้ ผมกำลังปกป้องคุณ นั้นแหละ

คุณไปทบทวนดีๆ

ตอบเมื่อ: 28 ก.ค.2008, 12:13 pm

คุณขันธ์ครับ

จิตของคุณmesยังไม่พร้อมที่จะรับฟังธรรมะขั้นโลกุตตรธรรมครับ เขาต้องดูจิตของตนเองอีกนาน
เขายังไม่เห็นจิตของตัวเองว่ากำลังมีอกุศลอยู่ในด้านไหนบ้าง

คุณmes ครับ

ผมไม่เคยอ่านพบที่มีการจาบจ้วงพระเถระผู้ใหญ่ครับ พระธรรมปิฎกท่านไม่ได้เป็นพระ
พระไม่ได้อยู่ที่ผ้าเหลือง พระธรรมปิฎกเป็นปถุชน เป็นนักปราชญ์ ที่บวช พระเถระผู้ใหญ่
คือ พระอริยะสงฆ์

แม้แต่พระอรหันต์ยังถูกมารหลอกได้ในเรื่องทางโลก เนื่องจากท่านยังมีขันธ์ 5 อยู่ การใช้ความคิด

นั่นแหละเป็นเหตุให้เข้าใจผิดได้

แต่ในเรื่องทางธรรม มารหลอกพระอรหันต์ไม่ได้แล้ว เพราะท่านไม่ได้ใช้สมองคิด ใช้การปฏิบัติให้หยุดคิด

ตอบเมื่อ: 28 ก.ค.2008, 1:55 pm

อ้างอิงจาก:

พระอรหันต์ยังถูกมารหลอกได้ในเรื่องทางโลก

จึงหรอครับพี่...เอ้ย...อาจารย์...เป็นพระอรหันต์ผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง
ไฉนเลย....มารยังมาหลอกได้....อาจารย์พูดผิดปะครับ..

สั่งสอนผมด้วยอะครับอาจารย์... ยิ้ม

ตอบเมื่อ: 28 ก.ค.2008, 2:01 pm

อ้างอิงจาก:

ผมไม่เคยอ่านพบที่มีการจาบจ้วงพระเถระผู้ใหญ่ครับ พระธรรมปิฎกท่านไม่ได้เป็นพระ
พระไม่ได้อยู่ที่ผ้าเหลือง พระธรรมปิฎกเป็นปถุชน เป็นนักปราชญ์ ที่บวช พระเถระผู้ใหญ่
คือ พระอริยะสงฆ์

อย่างนี้ท่านผู้อ่านคิดว่าผมมีอคติส่วนตัวหรือเปล่าครับ

ถ้าเรายินยอมให้ใครที่อ้างว่ามีเมตตากระทำเช่นนี้ได้

ต่อไปคงมีเศรษฐีนอกศาสนามาบริจาดเงินเยอะๆแล้วย่ำยี่พระภิกษุสงฆ์ตามใจชอบ

หรือไม่ก็มาบริจาดเงินมากๆแล้วเป็ข้ออ้างว่าเป็นผู้มีเมตตาเพื่อสังคายนาพระไตรปิฎกตามความประสงค์ของตน

สังคมกำลังเป็นอะไรกันไปแล้วครับ

อยู่ๆก็มีคนลุกขึ้นมาชี้หน้าด่าพระว่าไม่ใช่พระ เป็นแค่คนห่มผ้าเหลือง

พระต้องหมายถึงพระอริยสงฆ์เท่านั้น

ผู้ที่อุปสมบทเข้ามาศึกษาพระธรรม อยู่ในศีล227ข้อ ปฏิบัติธรรมไม่ใช่พระ

เอาอย่างนี้หรือครับ

ถ้าเอาอย่างนี้เราคงต้องกราบไหว้แสงเป็นพระพุทธเจ้า

ปรากฎว่าอรหันต์เต็มบ้านเต็มเมืองเพราะผู้บรรลุอรหัต์ต้องได้พบพระพุทธเจ้า

พระเถระผู้ใหญ่เป็นแค่ปุถุชน

ต้องนายแสงธรรมถึงจะเป็นอริยบุคคล

นอกนั้นบารมีไม่ถึง รับฟังโลกุตระธรรมไม่ได้

ผมไม่พาดพิงถึงใครว่าคุณอยากเชื่ออย่างนั้นก็เอา

สำหรับผมขอประนามผู้จาบจ้วงพระเถระผู้ปฏิบัติชอบ

ผมขอแสดงตัวอย่างนี้

ใครจะออกมาด่าผมก็เอา

ตอบเมื่อ: 28 ก.ค.2008, 8:27 pm

พระพุทธเจ้าปฏิบัติ 6 ปี จึงสำเร็จ เพราะเคยไปลบหลู่พระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆไว้ว่าปฏิบัติช้า.....(พระอาจารย์ท่านเล่าให้ฟังมาน่ะครับ)

ตอบเมื่อ: 28 ก.ค.2008, 10:40 pm

คุณmes ครับ

ผมคงไม่เถียงอะไรกับคุณอีกนะครับ เพราะได้ชี้แจงไปแล้ว ส่วนคุณจะคิดว่าผมเลว เลวที่สุด
หรือเลวอย่างไรก็เป็นเรื่องของคุณครับ

ผมรู้ตัวของผมดี แต่คุณยังไม่รู้ตัวของคุณ ความอหังการ ความอยากเอาชนะผม ความอิจฉาริษยา
ความจงเกลียดจงชังผม ฯลฯ มันอยู่กับคุณมา 6 ปีแล้วนะครับ ถอนเถิดครับ ให้กฎแห่งกรรมเล่นงาน
ผมดีกว่า ถ้าผมมันเลวอย่างที่คุณกล่าวหา นรกอเวจีรับผมไว้ไม่ได้หรอกครับ ต้องนรกโลกันต์อย่างเดียว
คุณอย่าทำตัวเป็นพระยามัจจุราช ป้องกันพระศาสนาเลย เอาตัวเองให้รอดจะดีกว่า

สำคัญที่สุด คือ คุณต้องหัดดูจิตตัวเอง ไม่ให้เป็นทาสกิเลสอวิชชา

ตอบเมื่อ: 28 ก.ค.2008, 11:14 pm

มีพุทธวจนะในธรรมบท บทหนึ่งได้กล่าวเป็นเชิงอุปมาไว้อย่างน่าสนใจว่า

"ภมรที่ดูดรสหวานจากดอกไม้ ย่อมไม่ทำลายสีและกลิ่น" ฉันใด

เปรียบเสมือน....

พระมุนีที่ไม่มีวันทำลายศรัทธา (ที่มีต่อแนวทางคำสอนของพระศาสดาซึ่งตนได้รำเรียนศึกษาปฏิบัติมา) ของชาวบ้าน....ฉันนั้น

เว้นไว้เสียจากเขาผู้นั้นจะไม่เพียงแต่มิใช่ "มุนี"

หากแต่เป็น...

"ขุยไผ่ที่ฆ่าต้นไผ่" ...เสียเอง!!!

สาธุ

พระพุทธศาสนากับปรัชญาการศึกษา : มจร. สาธุ

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=16843

ตอบเมื่อ: 28 ก.ค.2008, 11:39 pm

คุณ"กุหลาบสีชา" ครับ

คำสอนของพระศาสดาย่อมเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เทศน์ว่า

" สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงว่า ธรรมของพระตถาคต เมื่อเข้าไปประดิษฐานในสันดานของ
ปถุชนแล้ว ย่อมเป็นของปลอมทั้งสิ้น(สัทธรรมปฏิรูป) แต่ถ้าเข้าไปประดิษฐานในจิตสันดานของ
พระอริยะเจ้าแล้วไซร์ ย่อมเป็นของบริสุทธิ์แท้จริง และเป็นของไม่ลบเลือนด้วย "

ย้ำ! ธรรมของพระตถาคต เมื่อเข้าไปประดิษฐานในสันดานของปถุชนแล้ว ย่อมเป็นของปลอมทั้งสิ้น(สัทธรรมปฏิรูป)

แต่ถ้าเข้าไปประดิษฐานในจิตสันดานของ พระอริยะเจ้าแล้วไซร์ ย่อมเป็นของบริสุทธิ์แท้จริง และเป็นของไม่ลบเลือนด้วย "

ตอบเมื่อ: 28 ก.ค.2008, 11:50 pm

คุณ"กุหลาบสีชา" ครับ

พูดง่ายๆ....คำสอนของพระศาสดา ขั้นอยู่กับใครจะเป็นคนตีความ ผมไม่ยอมรับคำสอนของ
สมมุติสงฆ์หรือปถุชนที่ไม่ได้ปฏิบัติจนเข้าถึงความเป็นอริยะ ผมรับได้แต่คำสอนที่พระอริยะเจ้าเป็นผู้
ตีความเท่านั้น

ผมมาเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้า ที่ตีความโดยพระอริยะเจ้า ผมไม่ได้มาเพื่อ
ปกป้องนักปราชญ์ที่ใช้ผ้าเหลืองห่มตัว แล้วไม่ปฏิบัติให้เห็นจริง ไปตีความด้วยสมองของตนเอง

ศาสนาพุทธต้องปฏิบัติให้ถึงระดับโสดาบันหรือสูงกว่าเท่านั้น จึงจะเข้าใจ นักปราชญ์ที่ใช้ผ้าเหลือง
ห่มตัว แล้วไม่ปฏิบัติให้เห็นจริง อยู่ในนรกเต็มไปหมด