Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ...ข้อคิดพินิจธรรม... อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 26 มิ.ย.2008, 12:29 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

การสัมผัสความรู้สึกตัวอยู่กับกายกับใจของเรา
ก็คล้ายกับว่ามันปลอดภัย มีที่อาศัย ที่พึ่ง
เวลาใด ที่เราจะหลง เราก็ไม่หลง เพราะได้สัมผัสกับสติ สัมผัสกับความรู้สึกตัว จึงรู้ว่าความโกรธเป็นอย่างไร ความหลงเป็นอย่างไร
เปรียบเหมือนคนเราที่เห็นกันนานๆ ที่เป็นเพื่อนเป็นมิตรกัน
ถ้าเราเห็นกันนานๆ คบกันนานๆ แทนที่เราจะเห็นกันเฉยๆ
รู้จักหน้าตากันเฉยๆ มันไม่ใช่แค่นั้น มันเกี่ยวข้องกันมากกว่านั้นอีก
มันจะเข้าไปรับผิดชอบ ไปปกป้อง ไปคุ้มครอง ไปช่วยเหลือ
เช่นสามีภรรยา แต่ก่อนก็เป็นลูกคนอื่น ลูกสาวคนอื่น ลูกชายคนอื่น
พอมาอยู่ด้วยกันนานๆ ก็เหมือนเป็นคนคนเดียวกัน
เราจะปกป้อง คุ้มครอง ป้องกันรักษา ไม่ต้องขอร้อง แต่เป็นหน้าที่
ธรรมก็เหมือนกัน ถ้าเราคบกับธรรมหรือคบกับความรู้สึกตัวนานๆ
มันจะเป็นอย่างนั้น นี่คือหลักของภาวนา


หลวงพ่อคำเขียน สุวณฺโณ
วัดป่าสุคะโต จ.ชัยภูมิ

ความปรารถนานั้น มาพาขาเดินไป ดับความปรารถนาดับความต้องการเสีย
แล้วก็มานั่งเพ่งพินิจพิจารณา
ตั้งแต่เราเดินนั้น เราปรารถนาอะไร
ความปรารถนานั้นเป็นอดีต หรืออนาคต หรือปัจจุบัน ถ้าเป็นอดีตที่ล่วงเลยไปแล้วก็ไม่มีตัวตน ไม่มีหัว ไม่มีขา ไม่มีบ้านช่องห้องพอ
เราจะไป ปรารถนาเอาเรื่องที่เป็นอดีตมาเป็นอารมณ์ แล้วจะเกิดผลประโยชน์อันใด


หลวงปู่คำพอง ติสฺโส
วัดถ้ำกกดู่ จ.อุดรธานี

การบำเพ็ญทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ถ้าไม่มุ่งหวังที่จะทำลายกิเลสตัณหาให้หมดไป ให้สิ้นไปแล้ว ก็ไม่มีทางพ้นไปจากทุกข์ พ้นไปจากโลกนี้ได้
ถ้าเราบำเพ็ญทาน ศีล ภาวนา มุ่งหวังที่จะทำลายกิเลสตัณหาอย่างเดียวให้หมดให้สิ้นไป คือที่ว่าพ้นไปจากโลก เป็นข้อปฏิบัติให้ถึงธรรมอันที่ดับทุกข์โดยแท้
ไม่ต้องมีความสงสัยเลย


พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ
วัดเจติยาคีรีวิหาร (ภูทอก) จ.หนองคาย

การเจริญกรรมฐานต้องการให้เกิดความอบอุ่น
ผู้ใดมีปัญญาในตัว ผู้นั้นอบอุ่น เหมือนมีกระแสไฟในตัว มันจะอบอุ่นอยู่เสมอ มันจะไม่ไร้สาระ อบอุ่นใจ คนที่อบอุ่นใจมีร่มโพธิ์ร่มไทรเป็นที่พึ่ง
คือ สมาธิ มีสติแก้ปัญหาได้ ยากดีมีจนประการใดก็มีสุขตลอดไป


หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม
วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี

(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 91 มิ.ย. 51)

คัดลอกจาก...ผู้จัดการออนไลน์


สาธุ สาธุ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
I am
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 25 ต.ค. 2006
ตอบ: 972

ตอบตอบเมื่อ: 26 มิ.ย.2008, 9:21 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

โมทนาครับ...สาธุ สู้ สู้ สาธุ ยิ้มเห็นฟัน
 

_________________
ทุกข์ใดดับได้ด้วยปัญญา ทุกข์นั้นจะไม่เกิดอีก
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
ชาญวิทย์
บัวเริ่มพ้นน้ำ
บัวเริ่มพ้นน้ำ


เข้าร่วม: 04 พ.ค. 2008
ตอบ: 152

ตอบตอบเมื่อ: 26 มิ.ย.2008, 7:13 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอบคุณธรรมะขอรับกระผม สาธุ สาธุ ยิ้มเห็นฟัน ยิ้มเห็นฟัน สาธุ สาธุ
 

_________________
ธรรมะคือธรรมชาติ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง