กุหลาบสีชา
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2007
ตอบ: 1466
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
05 มิ.ย.2008, 12:14 am |
  |
[ภาพจิตรกรรมแนวพุทธธรรม “Enlightenment” : สร้างสรรค์โดย
อ.พิชัย นิรันต์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ปี ๒๕๔๖]
การศึกษาที่เป็นสหวิทยาการเปรียบเทียบกับคำสอนทางพระพุทธศาสนา
อาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ
ปุจฉา
ขอฟังคำอธิบาย เรื่องการศึกษาที่เป็น สหวิทยา (Interdiscipline Studies)
เปรียบเทียบกับคำสอนของพระพุทธศาสนา
วิสัชนา
การศึกษาที่เป็น สหวิทยาการ เพิ่งเข้าพจนานุกรม
Oxford Advance Learners ’ Dictionary of Current English
เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๖ (ค.ศ. ๑๙๘๓) นี่เอง
หมายถึงการศึกษามากกว่า ๑ วิชา เพื่อให้มีความรู้กว้างขวางขึ้น
กล่าวคือ ถ้าศึกษาเพียงวิชาเดียวให้แตกฉาน จะเป็นการรู้ลึก
แต่ถ้าศึกษาวิชาอื่นๆ ประกอบอีกหลายวิชา ก็ทำให้รู้กว้าง
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ที่พระราชทานในโอกาสพระราชทานปริญญาบัตรในมหาวิทยาลัยต่างๆ
ทรงแนะนำทั้งให้ศึกษาทั้งรู้ลึก และรู้กว้าง
คือศึกษาในวิชาใดวิชาหนึ่งให้แตกฉาน
และศึกษาวิชาอื่นๆ ให้แตกฉานออกไปด้วย
จะได้อาศัยทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวโยงไปถึงวิทยาการสาขาอื่น
ซึ่งเป็นอุปการะแก่กันและกัน
ความจริงเรื่องสหวิทยาการนี้ เกี่ยวโยงกับเรื่อง บูรณาการ (Integration)
คือการรวมส่วนประกอบหลายๆ อย่าง
ที่จำเป็นเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์
เช่น เครื่องปรุงอาหารหลายๆ อย่างผสมกัน
ทำให้เกิดรสที่ต้องการ
เช่น แกงส้ม แก่งคั่ว แกงเลียง แกงต้มยำ เป็นต้น
วิชาการต่างๆ ก็ฉันนั้น อาศัยหลายๆอย่างประกอบกัน
ก็ทำให้เกิดสิ่งที่ต้องการอย่างสมบูรณ์ได้
ลำพังเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง อาจมีบางข้อบกพร่องบางประการ
ในทางพระพุทธศาสนา
ขอยกตัวอย่าง ญาณหยั่งรู้ หรือพระปัญญาของพระพุทธเจ้า
ที่เรียกว่า “ทสพลญาณ”
หรือ “พระปัญญาที่เป็นพละกำลัง ๑๐ อย่าง” ของพระองค์ คือ
๑. ฐานาฐานญาณ
พระญาณที่ทำให้ทราบฐานะ และอฐานะ
หรือความเป็นไปได้ ความเป็นไปไม่ได้ของสิ่งของต่างๆ
๒. วิปากญาณ
พระญาณที่ทราบผลอันเกิดจากเหตุต่างๆ
๓. สัพพัตถคามินีปฏิปทาญาณ
พระญาณที่ทราบหนทาง หรือข้อปฏิบัติที่นำไปสู่ฐานะทุกอย่าง
๔. นานาธาตุญาณ
พระญาณที่ทราบธาตุ คือ สิ่งที่เป็นพื้นฐานต่างๆ
๕. นานาธิมุตติกญาณ
พระญาณที่ทราบแนวโน้ม หรืออุปนิสัยใจคอต่างๆ
๖. อินทริยปโรปริยัตติญาณ
พระญาณที่ทราบความหย่อนความยิ่งของอินทรีย์
คือคุณสมบัติบางประการของสัตว์ทั้งหลาย
๗. ฌานาทิสังกิเลสาทิญาณ
พระญาณที่ทราบความเศร้าหมอง เป็นต้นแห่งธรรม มีฌาน เป็นต้น
๘. ปุพเพนิวาสานุสติสญาณ
พระญาณที่ทำให้ระลึกได้ถึงพระชาติต่างๆในกาลก่อน
๙. จุตูปปาตญาณ
พระญาณที่เห็นความตาย ความเกิดของสัตว์ทั้งหลาย
๑๐. อาสวักขยญาณ
พระญาณที่ทำให้สิ้นอาสวะ คือ กิเลสที่หมักดอง
หรือที่เหมือนน้ำไหลมาท่วม
ถ้าทรงรู้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง ความรู้นั้นก็จะไม่สมบูรณ์
(ที่มา : คำถาม-คำตอบ ปัญหาทางพระพุทธศาสนา เล่ม ๒ โดย สุชีพ ปุญญานุภาพ,
มหามกุฏราชวิทยาลัย, พิมพ์ครั้งที่ ๒, ๒๕๔๒, หน้า ๗๔-๗๖)
รวมคำสอน “อาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=49286 |
|
|
|