ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
RARM
บัวบาน

เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2007
ตอบ: 417
|
ตอบเมื่อ:
22 ม.ค. 2008, 5:26 pm |
  |
การเดินจงกรมให้อะไรเราบ้าง
ขอให้แสดงความคิดเห็นกันหน่อยนะครับ |
|
|
|
  |
 |
ดุสิตธานี
บัวบาน


เข้าร่วม: 21 ก.ย. 2007
ตอบ: 352
ที่อยู่ (จังหวัด): สุโขทัยธานี
|
ตอบเมื่อ:
23 ม.ค. 2008, 7:31 am |
  |
ก็อปมาให้อ่านจะได้เห็นข้อความแท้ๆ ของธรรมะ
233 ประโยชน์ของการเดินจงกรม
ปัญหา วิธีการบำเพ็ญสมถกรรมฐาน เพื่อทำจิตให้สงบระงับนั้น มีอยู่หลายวิธี การเดินจงกรมก็เป็นวิธีหนึ่ง อยากทราบว่าพระพุทธองค์ทรงเห็นประโยชน์อย่างไร จึงทรงแนะนำให้ภิกษุเดินจงกรม ?
พุทธดำรัสตอบ ......ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ในการเดินจงกรมมี ๕ ประการ ๕ ประการเป็นไฉน คือภิกษุผู้เดินจงกรมย่อมเป็นผู้อดทนต่อการเดินทางไกล ๑ ย่อมเป็นผู้อดทนต่อการบำเพ็ญเพียร ๑ ย่อมเป็นผู้มีอาพาธน้อย ๑ อาหารที่กิน ดื่ม เคี้ยว ลิ้มแล้วย่อมย่อยไปโดยดี ๑ สมาธิที่ได้เพราะการเดินจงกรมย่อมตั้งอยู่ได้นาน ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ในการเดินจงกรมมี ๕ ประการฉะนี้แลฯ
จังกมสูตร ป. อํ. (๒๙)
ตบ. ๒๒ : ๓๑ ตท. ๒๒ : ๒๘
ตอ. G.S. III : ๒๑
:: อธิบายอักษรย่อแหล่งอ้างอิง ::
:: ค้นหาความหมายของศัพท์ จากพจนานุกรมพุทธศาสตร์ ::
...............................................................
หากว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัวที่ได้เข้าใจมาตามแบบฉบับของตัวเราเอง
การเดินจงกรม จะทำให้เรามีสติ..ไปตามการเคลื่อนไหวของร่างกาย
ช่วยผ่อนคลายจากอาการง่วงนอนได้
และเป็นการรักษาโรคภัยใข้เจ็บได้อีกด้วย
การเดินจงกรมสำหรับเราไม่ถือว่าจะต้องเดินแบบช้าๆ ย่างซ้าย-ขวา
ต้องมีคำบริกรรมกำหนดเท่านั้น หากว่าสำหรับเรายังหมายถึง
การเดินไปยังที่ทำงาน การเดินในห้างสรรพสินค้าได้อีกด้วย
คนเราหากรู้เดิน รู้ยืน รู้นั่ง รู้ทำอะไรไปตามอาการและการเคลื่อนไหว
ของร่างกายได้ ก็ถือว่า มีสติในการระลึกรู้ได้สม่ำเสมอตรงนี้จะมีผลดี
ได้ดีกว่า รอเวลาให้มีสติรู้อาการ การเคลื่อนไหวเฉพาะตอนเดินจงกรม
ในรูปแบบเท่านั้น
ผิดถูกประการใดเป็นการเข้าใจส่วนตัวไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องที่สุด |
|
_________________ จงทำจิตให้บริสุทธิ์ ด้วยความดี ไม่เบียดเบียนผู้อื่น หรือแม้กระทั่ง ตัวของเราเอง |
|
  |
 |
สี บุญมา
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 02 ม.ค. 2008
ตอบ: 83
|
ตอบเมื่อ:
23 ม.ค. 2008, 9:01 am |
  |
พระอาจารย์หลายท่านก็บอกว่าควรจะเดินจงกรมนะก่อนนั่งสมาธิ
เดินนานเท่าไหร่ก็นั่งนานเท่านั้น เห็นว่ามันทำให้จิตสงบดี เพราะกิเลสมันเหนื่อย(เราเหนื่อย)
กิเลสเหนื่อยมันก็อ่อนแรง ทำให้จิตเราต้านมันง่าย (พระท่านว่านะ เพราะข้าพเจ้าไม่ได้เดินจงกรมเลย พื้นที่น้อย)
สาธุ |
|
|
|
  |
 |
ใบโพธิ์
บัวบาน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2007
ตอบ: 307
|
ตอบเมื่อ:
23 ม.ค. 2008, 9:59 am |
  |
การทำสมาธิเบื้องต้น ต้องชำระศีลให้บริสุทธิ์ ทำวัตรสวดมนต์บูชาพระ เจริญพรหมวิหาร 4 และสมาทานกรรมฐาน เดินสมาธิหรือเดินจงกรม การเดินสมาธิหรือเดินจงกรมเหมาะสำหรับคนที่มักมีความคิดฟุ้งมาก พระพุทธองค์กล่าวว่า ประโยชน์ของการเดินจงกรม มีดังนี้คือ
-- ทำให้ร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บป่วยง่าย
-- ทำให้ขาแข็งแรงเดินได้ทนและไกล
-- เมื่อทำหลังอาหารทำให้อาหารย่อยง่าย
-- สมาธิที่ได้จากการเดินจงกรมจะอยู่ได้นาน
๏ วิธีการเดินสมาธิหรือเดินจงกรม
เลือกสถานที่ยาวประมาณ 5 เมตร ถึง 10 เมตร แล้วแต่ความกว้างของสถานที่ และความรู้สึกพอดี บางทียาวนักก็ไม่ดี เหนื่อย บางครั้งสั้นไปก็ทำให้เวียนหัว หันหน้าไปทางเดินจงกรม แต่อย่ามองไกลเกินไป มองทอดสายตาดู ไปข้างหน้าประมาณ 4 ก้าวเพื่อไม่ให้จิตใจวอกแวก แต่ไม่ใกล้เกินไป จนรู้สึกปวดต้นคอ มือซ้ายมาวางที่หน้าท้องและมือขวามาวางทับ เพื่อป้องกันแขนแกว่งขณะเดิน และดูสวยงาม
เมื่อได้ท่าที่พอดีแล้วก็เดินก้าวขาขวาไป ก็นึกคำว่า พุท และเมื่อก้าวขาซ้ายไป ก็นึกคำว่า โธ เวลาเดินไม่หลับตาแต่ให้ลืมตา และกำหนดสัมผัสของเท้าที่ก้าวเหยียบลงพื้น เดินว่าพุทโธไปเรื่อย พอถึงปลายทาง เดินก็หยุดนิดหนึ่ง แล้วก็หันกลับด้านขวามือ มาทางเดิม และเดินว่าพุทโธต่อไป อย่าเร็วเกินไป หรือช้าเกินไป กำหนดจิตของเราอยู่ที่ก้าวเดินและคำภาวนา ไม่ให้จิตวอกแวก
สิ่งสำคัญคือ การกำหนดจิตให้ทันการเคลื่อนไหว ส่วนการเดินเป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้น เราควรทำอย่างน้อย 30 นาที และจะดีมากขึ้นถ้าตามด้วยการนั่งสมาธิ เพราะการเดินจงกรม เป็นการเปลี่ยนอิริยาบท ปล่อยอารมณ์ และเตรียมร่างกายให้พร้อมสู่การนั่งสมาธิ
คัดลอกบางตอนมาจาก
การฝึกสมาธิ โดย หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=1885 |
|
_________________ ทำความดีทุกๆ วัน |
|
  |
 |
RARM
บัวบาน

เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2007
ตอบ: 417
|
ตอบเมื่อ:
23 ม.ค. 2008, 12:12 pm |
  |
|
  |
 |
สี บุญมา
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 02 ม.ค. 2008
ตอบ: 83
|
ตอบเมื่อ:
23 ม.ค. 2008, 5:33 pm |
  |
ท่าน รารม เริ่มทดสอบภูมิธรรมแล้ว ละซิ
ท่านก็เล่าประสบการณ์ท่านให้ท่านอื่นรับฟังบ้าง จะเป็นการดีนะท่าน
เพราะการปฏิบัติมันยาก ท่านย่อมรู้ดี น่าจะเล่าเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับท่านอื่นๆบ้าง จะเป็นการสร้างกุศล เพิ่มบุญนะท่าน
สาธุ |
|
|
|
  |
 |
Buddha
บัวบาน

เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2007
ตอบ: 415
|
ตอบเมื่อ:
23 ม.ค. 2008, 7:18 pm |
  |
RARM พิมพ์ว่า: |
การเดินจงกรมให้อะไรเราบ้าง
ขอให้แสดงความคิดเห็นกันหน่อยนะครับ |
ตอบ...
ความคิดเห็นของข้าพเจ้ามักถูกมองว่าไปคัดค้านสิ่งที่มีอยู่เดิม โดยพวกที่รู้เท่าไม่ถึงกาล นี้ไม่ได้ต่อว่าใครนะ เพราะเมื่อหลายปีก่อน เข้าเวบฯ ไหนก็ไม่ได้ เพราะบางคนคิดว่าข้าพเจ้าบ้าหรือเป็นโรคจิตประสาท โดยไม่คิดว่า สมัยนี้มันยุคโลกาภิวัฒน์ ยุคทันสมัย ไม่ใช่ยุคที่มองไปทางไหนมีแต่ต้นไม้ จะไปไหนต้องเดินๆ เวลาจะกินอาหาร ต้องขุดรากไม้ หาผลไม้ในป่ากิน ไม่เหมือนสมัยนี้ ยุคสมัยเปลี่ยนไป แต่ดันคิดว่า ศาสนาจะไม่เปลี่ยนแปลง ไม่อย่างนั้นคงไม่มีเขียนไว้ว่า พระพุทธเจ้ามีหลายพระองค์ดอกนะคุณ
อ้าว..... ว่าจะตอบเรื่องการเดินจงกรม ดันระบายความในใจออกมาซะได้ เอ้าตอบขอรับว่า
การเดินจงกรม มีจุดประสงค์เพื่อการผ่อนคลายกล้ามเนื้อยืดเส้นยืดสาย เพื่อไม่ให้เกิดการเบื่อหน่าย เพราะถ้าหากนั่งอย่างเดียว แทนที่จะได้สมาธิ กลับจะได้ความทุกขเวทนาทางสรีระร่างกายซะมากกว่า
อนึ่ง การเดินจงกรมนั้น ในสมัยพุทธกาลนั้น เขามีไว้สำหรับพระสงฆ์หรือนักบวชทางพุทธศาสนาเท่านั้น
ต่อมายุคสมัยมันเปลี่ยนไป ใครๆ ก็นำมาใช้ได้เพราะเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่งเหมือนกัน และไม่ใช่เดินอย่างเดียวขอรับ วิ่งจงกรมก็ยังได้ขอรับ นี้เรื่องจริงนะ ข้าพเจ้านี้แหละ วิ่งออกกำลังกายด้วย ทบทวนวิชชา ไปด้วย
คำตอบของข้าพเจ้าดูคล้ายจะเป็นการตอบไม่ถูกต้องตามคำถาม แต่ความจริงแล้ว คำตอบอยู่ในตัวของมันเองอยู่แล้วว่า เดินจงกรมแล้วได้อะไร หรือ เดินจงกรมให้อะไรกับผู้ปฏิบัติ |
|
|
|
  |
 |
RARM
บัวบาน

เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2007
ตอบ: 417
|
ตอบเมื่อ:
24 ม.ค. 2008, 8:42 am |
  |
กระผมเองได้รับการฝึกฝนมา ด้านนี้โดยเฉพาะ นะ ก็เลย อยากรู้ว่าเพื่อนสหธรรมิก ทั้งหลายท่านมีความคิดเห็น หรือได้ประสบการณ์เกี่ยวกับการเดินนั้นอย่างไรบ้าง ต้องขอบคุณทุกท่านที่ร่วมกันตอบและแสดงความคิดเห็น
และได้ หาธรรม คือพระสูตรที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสไว้ดีแล้ว นำมาลงเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติ และเสริมสร้างปฏิปทา ให้กับทุกๆ ท่าน รวมถึงตัว กระผมเองด้วยครับ
ผมเคยฝึกเดิน มาเริ่มแรกก็ วันละ 1 ช.ม. 1 เดือนแรก ไม่ต้องกำหนดอะไร เดินอย่างเดียว หรือ เรียกว่า ขั้น ให้คิดให้มากที่สุด หรือระบายความคิด หรือสัญญา ต่าง ๆ ที่เราเก็บไว้ (ไม่ใช่เฉพาะชาตินี้เท่านั้น)ออกมาให้มาก ๆ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า วิราคะ ( สามารถวิราคะ ได้ หลายทาง เช่น การพูด ระบายความในใจ ก็เรียกวิราคะได้ เพราะพูดแล้วเกิดความสบายอกสบายใจ) แต่ถ้าเป็นการเดินจงกรมนั้น วิราคะ กิเลส โดยตรงเลย เช่น ความเมื่อย ความเหนื่อย ความขี้เกียจ ความท้อแท้ ต้องอาศัยความอดทนเป็นอย่างยิ่ง อันนี้แหละที่ การเดินจงกรมเป็นตัวชี้ถึงผล โดยตรง ในการปฏิบัติ ที่ผ่านมาก็ล้มลุกคลุกคลานอยู่ 8 ปี กว่า จะเดินด้วย จับลม ด้วยให้สมดุลกัน ให้พร้อมเพรียงกัน ให้เข้า แทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน ระหว่างการเดินกับลม ต้องทำทุกวันถึงจะได้ผลดีที่สุด ตอนหลังนี้งานเยอะเลยห่างไป ตอนนี้ ก็กลับมาเดินตามปกติแล้ว
คงไม่ว่ากันนะครับที่เล่าเรื่องให้ฟังซะเยอะเลย ความจริงรายละเอียดที่ทำมีมากกว่านี้เยอะมาก เพราะได้เจอกับ กิเลสบ้าง อุปกิเลสบ้าง(อันนี้ตัวดีเลย) ต้องอดทนถึงจะผ่านไปได้
ขออนุโมนากับทุกท่าน ที่ได้แสดงธรรมให้ท่านอื่นได้รู้ เพื่อเป็นแนวทาง และเพื่อย้ำปฏิปทาให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นไปด้วย ครับ
สาธุ |
|
|
|
  |
 |
|