ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
amai
บัวบาน
เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435
|
ตอบเมื่อ:
17 ธ.ค.2004, 10:10 pm |
|
เนินอาถรรพ์
เขียนจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นโดย พ. พันธวัฒน์
ใครๆ ก็รู้ดีว่าพงษ์พันธุ์รักใคร่อยู่กับนาเรศ ความรักย่อมเหนือกว่าอะไรทั้งหมด พลังแห่งความรักอาจจะบันดาลอะไรก็ได้
วัยรุ่นสมัยนี้ชอบที่จะประพฤติปฏิบัติอะไรแผลงๆ เสมอ ไม่ว่าการแต่งเนื้อแต่งตัว การเที่ยวเตร่ ดื่มกินหรือว่ามีพฤติกรรมอะไรที่เหนือที่จะคาดคิดกัน
มันเป็นยุคโลกาภิวัตน์ที่ทุกคนชื่นชอบกระนั้นหรือ ความก้าวหน้า พัฒนาหรืออะไรกันแน่ ?
มันเป็นยุคแห่งความใหม่ไปทุกสิ่งทุกอย่าง ด้วยเทคโนโลยีสูงส่งหรือ ?
ยุคแห่งดาวเทียม คอมพิวเตอร์ และความละโมบ ตัณหา ราคะ ?
หลายคนพูดกันว่า ลูกหลานสมัยนี้พ่อแม่จะต้องเอาอกเอาใจ เอาใจใส่กตัญญูต่อลูกให้จงหนัก มิฉะนั้นจะผิดขนบธรรมเนียมในยุคโลกภิวัตน์ ! อาจจะเกิดเหตุร้ายแรง แปลกประหลาด และสับสนยิ่งขึ้น อย่างน้อยก็อาจจะต้องเกิดความหนักอกหนักใจ หนักไปหมดทั้งความคิดความอ่าน เพื่อแผ้วถางไปสู่ความเป็นปึกแผ่นก้าวหน้าของเขาในอนาคต
เกรงกลัวว่าจะเป็นคนไม่ดี เสียผู้เสียคน เรื่องรักก็เป็นสิ่งสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง ปัญหาเกิดขึ้นอยู่เสมอ วัยรัก วัยรุ่น วัยศึกษาเล่าเรียน ใจเร็วด่วนได้ ไร้สติยับยั้งชั่งใจ เกิดขึ้นได้เสมอมิได้ขาด วัยรุ่นยุคนี้ชอบทำอะไรแผลงๆ เกินขอบเขต เย้ยสรวงสวรรค์ ก็อย่างที่ว่ามานี่แหละ
เขาละ พงษ์พันธุ์ กับ นาเรศ สองวัยรุ่นคู่นี้
(มีต่อ 1) |
|
|
|
|
|
amai
บัวบาน
เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435
|
ตอบเมื่อ:
17 ธ.ค.2004, 10:19 pm |
|
จะไปไหนอีกละลูก ? คุณแม่ของเด็กสาวเอ่ยถามด้วยความเอ็นดูนาเรศ คุณพ่อก็ไม่อยู่ ไปกินเลี้ยงข้างนอกด้วย
นาเรศชะงัก แต่ก็เข้ามาประจบ เด็กสาวกอดมารดาเอาไว้ ซบหน้าลงที่ตักในเวลาต่อมา
ติ๋มมีนัดค่ะ กับเพื่อน
ใครที่ไหนกัน ?
ไอ้แป้น ปดผู้บังเกิดความเกล้าอย่างขอไปที
ลูกสาวคุณหญิงเปรื่องหรือลูก ?
ค่ะ แป้นมันขอร้องให้ติ๋มไปให้ได้ บอกว่ามีปาร์ตี้นิดหน่อย แล้วก็จะอวดรถเก๋งคันใหม่ที่เพิ่งซื้อมาด้วย
คุณแม่ของเด็กสาวทำปากเบ้ตำหนิ วัยรุ่นสมัยนี้ช่างกระไร ชอบอวดโอ้โชว์ไอ้โน่นไอ้นี่ ได้รถคันใหม่มาก็อวดกัน แล้วก็ชอบทำอะไรให้มันสิ้นเปลืองเงินทองพ่อแม่ จัดงานอะไรกันก็ไม่รู้ เสียเงินเปล่าๆ
โธ่ คุณแม่ขา เด็กสาวประจบต่อ กอดบั้นเอวมารดาเอาไว้เหมือนเดิม ไอ้แป้นมันรวยออกจะตาย คุณพ่อมันก็เป็นถึงรัฐมนตรีว่าการนะคะคุณแม่ เงินเล็กน้อยเท่านี้
จ้ะ เงินเล็กน้อยเท่านี้ ดูถูกเงินกันซะจริง แล้วจะไปยังไงล่ะลูก ?
แท็กซี่ซีคะ
ให้เจ้าผ่องมันขับรถไปส่งแล้วรอรับกลับไม่ดีกว่ารึ ลูก ?
ไม่เอาค่ะ คุณแม่ เสียเวลา เกรงใจน้าผ่องด้วย ติ๋มมาเอง อ้อ...ให้ไอ้แป้นมาส่งก็ได้นี่คะ
พอดีที่ท่านรัฐมนตรีว่าการนั่งรถยนต์ประจำตำแหน่งเข้ามาภายในบริเวณบ้านพัก
คุณพ่อมาแล้ว เอ๊ะ ทำไมมาเร็วนัก
คุณหญิงผู้เป็นมารดาของนาเรศอุทานออกมาเบาๆ ด้วยความสงสัย
พ่อรีบกลับมาก่อน ต้องขอตัวทางโน้นเขาเพราะงานมันยุ่ง ต้องรีบเซ็นหนังสือสำคัญอีกหลายฉบับ หลายเรื่องด้วยกัน ท่านรัฐมนตรีคนดังว่า และยิ้มออกมาด้วยความสดชื่นที่บุญวาสนาส่งผลให้เด่นขึ้นมาถึงขนาดนี้
ไม่น่าเกลียดหรือคะ คุณ ?
ไม่หรอก มันจำเป็นเราก็ว่าไปตามจริง ท่านรัฐมนตรีว่าการพูดต่อ หันมาทางนาเรศลูกสาวคนเดียวของท่านก็ขมวดคิ้ว
จะไปไหนลูก ?
(มีต่อ 2) |
|
|
|
|
|
amai
บัวบาน
เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435
|
ตอบเมื่อ:
17 ธ.ค.2004, 10:30 pm |
|
เด็กสาวเล่าความเป็นไปให้คุณพ่อของตนเองฟัง พอทราบเรื่องตลอดท่านก็ไม่พอใจทันที
ไม่ค่อยจะเหมาะนัก ลูกควรพักผ่อนบ้าง หมู่นี้ทำไมออกนอกบ้านบ่อยครั้งมากไปแล้ว พ่อจำได้เมื่อวานลูกก็ไปข้างนอก กลับค่ำมืดด้วย
โธ่ คุณพ่อขา งานเพื่อนสนิทกันแท้ๆ
แต่มันมืดค่ำ ลูกควรจะรู้ เราเป็นผู้หญิงด้วย
ค่อยๆ พูดกันก็ได้คุณ อย่าไปดุลูกนักเลย คุณหญิงเข้าข้างลูกสาว
ก็เพราะเหตุนี้ เด็กมันถึงเอาแต่ใจตัวเอง ทำอะไรตามใจชอบ เมื่อวานก็ครั้งหนึ่งแล้ว กลับมาตั้งเกือบเที่ยงคืน
ที่นั่นมันมีอะไรดีนัก ? ท่านทำตาเขียว ท่าทางไม่พอใจ
คิดดูซี่ ทำไมเขาไม่มาหาเราบ้าง มีแต่ฝ่ายเราไปหาเขาทุกที
นาเรศนิ่งเงียบ ในใจนึกไม่ชอบบิดาของตัวเอง
พ่อดุอยู่เรื่อย จะไปไหนบ้างก็ว่า ว่า หนูจะเชยอย่างพ่อได้หรอกคะ เอาแต่งาน...งาน
เราจะต้องเข้าใจบ้าง นาเรศ พ่อไม่เคยประสงค์ร้ายกับหนู ไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่หวังดีกับลูกของตัวเอง ที่เตือนก็ต้องการให้ลูกได้ดีเท่านั้น
ใช่ เข้าใจคุณพ่อบ้างนะลูก พ่อเป็นห่วงหนูจริงๆ คุณแม่ของเด็กสาวเอ่ยออกมาบ้าง แต่ก็เกรงใจลูกสาวอยู่
นาเรศเบื่อที่จะรับฟังอะไรอีก เด็กสาวผลุดลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องทันที
เห็นรึยัง เห็นไหมคุณหญิง นาเรศเป็นเด็กยังไงลูกของคุณ ? ท่านรัฐมนตรีว่าการผู้กว้างขวางหันมามองภรรยาของตัวเองทันที ไปแล้ว เห็นไหม ?
ติ๋มคงจะโกรธ
บ้าสิ้นดี เพราะเธอคนเดียวให้ท้ายลูกของเรามากเกินไป นาเรศถึงได้เป็นแบบนี้
เอ๊ะ คุณ ? คุณหญิงชักฉุนขึ้นมาแล้ว
ท่านรัฐมนตรีว่าการเดินงุ่นง่านไปมา แล้วออกไปจากห้องก่อนที่จะเกิดโต้เถียงอะไรกันขึ้น เพราะท่านมีความคิดว่านิ่งเสียดีกว่า มิฉะนั้นเรื่องราวอาจจะไปกันใหญ่เพราะการพูดจากันมากประโยคเกินไปก็ได้
(มีต่อ 3) |
|
|
|
|
|
amai
บัวบาน
เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435
|
ตอบเมื่อ:
17 ธ.ค.2004, 10:40 pm |
|
นาเรศนั่งแท็กซี่มายังที่นัดหมายแห่งหนึ่ง แทนที่จะไปบ้านไอ้แป้นหรือลูกสาวรัฐมนตรี ผู้เป็นเพื่อนสนิทกันกับบิดาของตน
การนัดแนะกันระหว่างนาเรศและเด็กหนุ่มที่ชื่อพงษ์พันธุ์ นับว่าเป็นเรื่องที่ไม่เล็ก เพราะทั้งคู่รักใคร่กันมาก รักจนกระทั่งเกินเลย รู้เห็นอะไรต่อมิอะไรกันมามากแล้วด้วย
การเป็นวัยรุ่นของเด็กทั้งสองคนก้าวหน้าเป็นผู้ใหญ่ไปนานแล้วทั้งๆ ที่ยังไม่สมควรด้วยประการทั้งปวง
ธรรมชาติสอนให้รู้จักความรัก ความใคร่ ราคะ...และ...ตัณหา !
พงษ์พันธุ์พาเด็กสาวมาที่ค็อฟฟี่ช้อพแห่งหนึ่งแถวสีลม หลบความชุลมุนวุ่นวายของผู้คน อีกทั้งแกรงจะมีผู้ที่มักคุ้นมาเจอะเจอเป็นที่ครหาเปล่าๆ
พี่คิดถึงติ๋ม เกือบจะไปหาที่บ้านแล้วรู้ไหม คิดว่าเบี้ยวแล้ว
นี่อย่าไปที่บ้านเชียวนะ เดี๋ยวเกิดเรื่องใหญ่
ทำไมเล่า ? นาเรศทำตาเขียว
คุณพ่อดุ ต้องบอกว่าจะไปหาไอ้แป้น ถ้าท่านทราบว่ามาหาพงษ์พันธุ์โดนดีแน่ๆ
เด็กหนุ่มถอนหายใจเฮือก ส่ายหน้า
พวกผู้ใหญ่นี่ ช่างไม่เห็นใจเด็กอย่างพวกเราเลยเชยก็เชย คิดอะไรก็ไม่รู้ ไม่เห็นได้ความ
เอ๊ะ ทำไมมาว่าคุณพ่อติ๋ม ? พงษ์พันธุ์รีบจับมือนาเรศเอาไว้
ขอโทษ ไม่จงใจจะว่าหรอก แต่ว่าท่านไม่เห็นใจเราจริงๆ
จากตรงนี้ เราจะไปไหนกัน ? เด็กสาวเปลี่ยนเรื่องสนทนา
เด็กหนุ่มนิ่งคิดนิดหนึ่งแล้วว่า
ขับรถไปเรื่อยๆ กินลม มีติ๋มแนบข้างไปไหนก็ไม่น่าคิดมาก บางทีก็อาจจะ...เอ้อ...หาที่เงียบๆ คุยกันดีไหม ?
หยิกหลังมือของเขาดังหนับจนพงษ์พันธุ์ร้องครางออกมา
ทะลึ่งเกินไปแล้วพงษ์
อูย อู๊ยย...ติ๋มน่าจะรู้นี่นา เราเคยมีอะไรต่อกันมาตั้งเยอะแยะ ทะลึ่งที่ไหนเล่า ?
นี่หยุดนะ เรื่องบ้าๆ
บ้า อะไร ความรัก รักกันบ้ารึ มันคือความสุขใจ ความสดชื่น เรื่องของมนุษย์ตามธรรมดา ธรรมชาติ ผู้ใหญ่เขายังรักกันเลย แล้วเราล่ะ เด็กหนุ่ม เด็กสาว จะรักกันบ้างไม่ได้รึยังไง ก็ไม่เห็นจะแปลก ไม่แปลก เอาละไปเถอะ
(มีต่อ 4) |
|
|
|
|
|
amai
บัวบาน
เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435
|
ตอบเมื่อ:
17 ธ.ค.2004, 10:46 pm |
|
นาเรศนั่งเคียงข้างพงษ์พันธุ์บนรถสปอร์ตสีตะกั่วตัด พงษ์พันธุ์นับว่าเป็นลูกชายมหาเศรษฐีคนหนึ่งในวงการ แม้ว่าคุณพ่อของเขาจะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีใหญ่ก็ตาม แต่เบื้องหลังนั้นมีกิจการใหญ่โตอีกหลายแห่งด้วยกัน ความมั่งคั่งจึงไม่ต้องพูดถึง
เลี้ยวรถเข้าไปที่บางนาในซอยแห่งหนึ่ง ตรงนั้นเป็นที่โล่งแจ้ง อากาศสดชื่น เย็นสบายดี บรรยากาศร่มรื่นมาก
จามจุรีต้นมหึมาผิดสังเกต มีอยู่ 3 ต้นเรียงราย ไม่เคยเห็นว่าต้นไม้ชนิดนี้จะใหญ่โตมากขนาดนี้มาก่อน ทำให้พงษ์พันธุ์กับนาเรศเกิดความฉงนฉงายอยู่ในใจ
นอกนั้นเป็นละเมาะไม้ประปรายพองาม พื้นดินก็เต็มไปด้วยหญ้าเขียวขจีราวกับมีใครมาตกแต่งเอาไว้ น่านั่งมองดูความสวยงามของธรรมชาติตรงนี้
และ...โน่น เนินดินที่โคนต้นจามจุรีก็น่าดูมาก แปลกตาทีเดียว
พามาที่นี่ทำไม ? เด็กสาวเอ่ยถามเขาขณะที่ลงมายืนมาเดินอยู่ในสถานที่แปลกตาแห่งนี้
พงษ์พันธุ์โอบไหล่เด็กสาวเอาไว้ พาเดินมาอีกด้านหนึ่ง หอมแก้มนาเรศฟอดหนึ่งด้วย
บรรยากาศที่นี่ ผมว่าโรแมนติคเป็นบ้า ขับรถผ่านมาครั้งแรกชอบใจจริงๆ ที่นี่ผมว่ามันดีกว่าโรงแรมม่านรูดเป็นไหนๆ
บ้าอีกแล้ว ปากคอ คุณพูดอะไรอย่างนั้น ?
โรงแรมม่านรูดเราเคยใช้มันมาหลายครั้งหลายหน เบื่อๆ ชอบกล อยากใช้บรรยากาศของท้องทุ่งใต้ร่มไม้แบบนี้บ้าง มืดๆ ขนาดนี้ด้วยใครก็ไม่สังเกต ลมพัดเย็นสบาย สดชื่นยิ่งกว่าแอร์คอนดิชั่น
พงษ์ นี่คุณ ? เด็กสาวตกใจอุทานออกมาแผ่วเบา ประหยัดเสียง
ก็นี่ละ รู้รึเปล่า ติ๋ม แจ๋วที่สุดในโลก เราไปนั่งคุยกันตรงนั้นดีไหมนะ ?
ตรงไหนเล่า ?
ที่เนินดินโน่น เห็นรึเปล่า นั่นไง โธ่ นอนเล่นก็ดี เอนหลังพาดพื้นหญ้าเขียวสดชื่น นุ่มเหมือนฟูกนิ่ม และอาจจะได้อารมณ์สุนทรีย์ยิ่งกว่าอีกด้วย ?
เป็นการพูดจากันระหว่างบุคคลสองคนที่สนิทกันมากที่สุดแล้ว จะพูดอย่างไรก็พูดกันได้เสมอ
นาเรศเองก็เกิดอารมณ์ประหลาดจนได้
พงษ์พันธุ์โอบกอดนาเรศเอาไว้ในอ้อมแขนของเขาด้วยความคะนองย่ามใจ กล้าหาญนักในเรื่องเช่นนี้ เด็กหนุ่มผู้กระหายหิวในรสชาติของความรัก และความต้องการ ทำเหมือนไม่เคยเจอะเจออาหารเอมโอชเช่นนี้มาก่อน ความใหม่ความสดของชีวิตทำให้เขาตระกรามจนเกินเหตุ
นาเรศอ่อนระทวยในอ้อมแขนของเขา หลับตาพริ้ม มีความสุขยิ่งนักเด็กสาวเอนร่างลงบนเนินดินที่มีพื้นหญ้าราบเรียบรองรับราวกับพรมสีเขียวเข้ม
พงษ์พันธุ์เริ่มจุมพิตที่ริมฝีปากเด็กสาว ซอนไซ้ด้วยชิวหาทุกซอกมุมระริก นาเรศถึงกับสะท้านไปทั้งอารมณ์ เรือนร่าง โอบกอดตอบเขา
สายลมพัดมาแผ่วหวิวพอเย็นสบาย แต่หยาดหยดของเหงื่อไคลผุดขึ้นมาที่ใบหน้าเด็กหนุ่มผู้โลดเถลิงโจนทะยานเหาะเหิน ลมพัดแรงจัดยิ่งขึ้นอีก
ความมืดสลัวของบรรยากาศปรากฏโดยรอบแสงดาวระยับท่ามกลางคืนเดือนมืด และ...โน่น...ดาวตกมัดเสียดแทงกับบรรยากาศจนเกิดประกายไฟแดงวาบเหมือนนิมิตหมายอะไรสักอย่าง จะดีหรือร้ายหนอ ?
พงษ์พันธุ์เองก็มองเห็นถนัดเพราะเขาเงยหน้าขึ้นมาพอดีในวินาทีนั้นแต่นาเรศหลับตาพริ้ม ภวังค์หลุดลอยไปไหนต่อไหนแล้ว หล่อนกำลังลืมตัวไปแล้วหรือนี่ อะไรทำให้เป็นไปได้ ถ้าไม่ใช่กิเลสตัณหา ? ความหลงระเริง
ลมพัดจัดยิ่งขึ้น กิ่งก้านจามจุรีไหวโยนตัว ฝักของมันที่มีอยู่สุกงอมแล้วร่วงหล่นลงมาสองสามฝัก
(มีต่อ 5) |
|
|
|
|
|
amai
บัวบาน
เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435
|
ตอบเมื่อ:
17 ธ.ค.2004, 10:52 pm |
|
เส้นผมของพงษ์พันธุ์และนาเรศปลิวไม่เป็นระเบียบ
ตายจริง รีบกลับกันดีกว่าค่ะ พงษ์ ลุกขึ้นซี่ ช้าอยู่ทำไม ?
เดี๋ยวน่า ยัง เอ้อ... เขาตะกุกตะกัก
พอเถอะค่ะ ลุกขึ้นเร็วเข้า ฝนตกลงมาจะยุ่ง รีบกลับขึ้นรถดีกว่า ลมยิ่งพัดแรงขึ้นอีก เหมือนแผ่นดินสะเทือนเขย่าไปมา โสตประสาทของพงษ์พันธุ์และนาเรศแว่วๆ คล้ายกับมีใครไม่รู้ส่งเสียงคล้ายเสียงหัวเราะชอบอกชอบใจ
เสียงนั้นดูจะห่างสุดขอบโลกทีเดียว มันไกลมากจริงๆ
กลับกันเถอะ ถ้าจะไม่เหมาะแล้ว
เด็กสาวสีหน้าวิตกและอึดอัด
ก็ดีเหมือนกัน แต่ว่า เอ๊ะ...
เสียงของเขาชะงักลงเพียงเท่านั้น
ให้จ้าวหักคอ พ่อแม่ช่วยลูกด้วย
อะไรกันนี่ ผีสางนางไม้ที่ไหนเป็นพยานด้วยเถิด
อนิจจา...พงษ์พันธุ์ลุกออกมาจากนาเรศมิได้เสียแล้ว มันเหมือนมีอะไรมาตรึงแน่นสนิทอยู่กับที่ ไม่มีทางเลย
ติ๋ม ? เด็กหนุ่มเหงื่อแตกซิก รู้สึกผิดปกติอะไรไหม บอกซิ ?
เด็กสาวหน้าเสียเช่นเดียวกัน ใจเต้นแรง หวาดวิตกเป็นทุกข์
ค่ะ ไม่เคยยังงี้มาก่อน อะไรกันนี่ ?
แล้วทำไม ?
เหงื่อกาฬทั้งคู่แตกซิกๆ จริงๆ ทำหน้าคล้ายจะร้องไห้ออกมา ความสุข ความลืมตัวและความคึกคะนองเหือดหายไปหมดสิ้นแล้ว เหลือก็แต่ความทุกขเวทนาเท่านั้น
จะอยู่แบบนี้ได้ยังไงคะ พงษ์ โธ่ เราคงทำความชั่ว ความไม่ดีเอาไว้มาก เลยเป็นแบบนี้ อะไรอาจจะลงโทษเราก็ได้นะ พงษ์ ไม่เลือกสถานที่ ติ๋มอยากตาย
เดี๋ยวนะ เฉยๆ ก่อน จะลองพยายามดู โอ๊ย...
เด็กหนุ่มซี๊ดปากด้วยความเจ็บปวดที่สุด
ติ๋มเกือบจะขาดใจ ทรมานเหลือเกิน
เด็กหนุ่มนิ่งเฉยไปแล้ว ไม่อาจจะขยับเขยื้อนร่างกายตัวเองอีกได้ลมพัดอ่อนแรงลง แต่ประเดี๋ยวเดียวมันก็หมุนติ้วๆ มาอีกครั้ง บุคคลทั้งคู่อ่อนระโหย เหน็ดเหนื่อยและเมื่อยล้า
ก่อนที่สติสัมปชัญญะจะสงบหลุดลอยไปนั้น ทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงใครคนหนึ่งแว่วมา
...เอ็งจงฟังข้า...ไอ้...หน็อย สิ้นคิดเหลือเกิน..ลามกอนาจารจนกระทั่งเห็นที่นี่เป็นที่รองรับตัณหาราคะของพวกเอ็ง รู้เอาไว้ด้วย...ข้าจะบันดาลให้เอ็งอยู่กันอย่างนี้เหมือนสัตว์สี่เท้าข้างถนน เดรัจฉานโลกนั่นแหละ เอ็งจะไม่มีวันออกจากกันได้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า...
ท่านรัฐมนตรีกับคุณหญิงเร่งรุดมาที่โรงพยาบาล ทันทีเมื่อทราบข่าวร้าย ข่าวลูกสาวคนสวยคนเดียวของท่านมีอันเป็นไปแล้ว
นายแพทย์ประจำโรงพยาบาลโทรศัพท์ติดต่อไปว่านาเรศป่วยมาก ป่วยอย่างกะทันหันด้วย อาจจะต้องรีบทำการผ่าตัดโดยด่วนที่สุด ลูกสาวของดิฉันเป็นอะไรไปคะ หมอ ?
คุณหญิงถามนายแพทย์ผู้อำนวยการด้วยความร้อนรน ท่านรัฐมนตรีว่าการก็หน้าเสีย พูดอะไรยังไม่ออก
นายแพทย์ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนักใจ
โรคประหลาดมากครับท่าน ไม่เคยปรากฏมาก่อนในโลก
อะไรกันคะ คุณหมอ ?
ลูกหมากโต เบ่งบานออกมาผิดปกติ จนกระทั่งคับบวมเป่งตรึงอยู่ภายในเอาออกมาไม่ได้
...?... คุณหญิงตะโกนออกมาก้องโรงพยาบาลด้วยความลืมตัว
หมายความว่าอะไรกันนะ คุณหมอ ?ท่านรัฐมนตรีว่าการหลุดปากออกมาด้วยเสียงอันดังเช่นเดียวกัน
ครับผม มีพลเมืองดีพบคุณนาเรศบุตรสาวของใต้เท้าที่ซอย 65 สุขุมวิทสุดซอย บนเนินดินที่มีต้นไม้ใหญ่ๆ ขึ้นอยู่ ผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกับคุณนาเรศก็อยู่ด้วยกัน ทั้งคู่อยู่ในลักษณะ เอ้อ...มีเพศสัมพันธ์ต่อกันแต่ประทานโทษเถอะครับ ฝ่ายชายไม่อาจจะออกมาได้จากตรงนั้น ประหลาดแท้ๆ ยังไม่เคยมีในคนเลย นอกจากสัตว์บางประเภทเท่านั้น ผมเองก็ไม่เข้าใจว่า ทำไม ?
โธ่ นาเรศ...
คุณหญิงลมใส่ตรงนี้เอง ร่างอ้วนๆ ทรุดลงกับพื้น ดีแต่ท่านรัฐมนตรีกับนายแพทย์ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรีบประคองเอาไว้ได้จวนเจียนจะหลุดมือ รีบจัดการปฐมพยาบาลทันที
อนิจจา...นาเรศ...!!!
>>>>> จบ >>>>> |
|
|
|
|
|
admin
บัวทอง
เข้าร่วม: 15 ธ.ค. 2004
ตอบ: 1886
|
ตอบเมื่อ:
17 ธ.ค.2004, 11:22 pm |
|
ขอขอบพระคุณ... คุณสมเกียรติ สกุลมนูชัย
creative_station@yahoo.com
สมาชิกลำดับที่ : 90 เป็นพิเศษ
สำหรับการเป็นผู้พิมพ์เนื้อหาทั้งหมดของเรื่อง "เนินอาถรรพ์"
โดย พ. พันธวัฒน์.....ลงในเว็บธรรมจักร นะค่ะ
ขอให้การเสียสละตนเองเพื่อส่วนรวมและพระพุทธศาสนา นำมาซึ่งความ
เจริญรุ่งเรืองร่มเย็นในพระธรรมของพระพุทธองค์นะค่ะ คุณสมเกียรติ |
|
|
|
|
|
1
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
29 ธ.ค.2004, 11:29 pm |
|
|
|
|
นิรทุกข์
บัวพ้นดิน
เข้าร่วม: 30 พ.ย. 2004
ตอบ: 54
|
ตอบเมื่อ:
03 ก.พ.2005, 10:13 am |
|
ตัณหาราคะ นับวันยิ่งมีอำนาจรุนแรงยิ่งขึ้นเพราะมนุษย์ขาด สติสัมปะชัญญะไร้คุณธรรม พื้นฐานในความเป็นมนุษย์น้อยลงไปทุกวันเพราะส่วนมากมนุษย์ซึ่งกำเนิดหลังกึ่งพุทธกาล มักจะมาจากอเวจีมากกว่าจากสวรรค์ |
|
|
|
|
|
Angelina
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
07 ก.พ.2005, 2:03 am |
|
ขอบคุณค่ะ ที่นำเรื่องดีๆ มาลง ติดตามเสมอค่ะ วัยรุ่นสมัยใหม่นี่ น่าจะมาอ่านนะค๊ะ เผื่อได้ข้อคิดบ้าง
ช่วงสุดท้ายที่เจอสองวัยรุ่นนี้ น่ากลัวจังเลยค่ะ อึ๊ยยยยย |
|
|
|
|
|
แมวขาวมณี
บัวบาน
เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2006
ตอบ: 307
|
ตอบเมื่อ:
19 ส.ค. 2006, 9:19 pm |
|
โอ๊ย.... น่ากลัวจังค่ะ เหมือนเรื่องที่วัดแถวๆ ปากท่อเลย แต่ไม่ทราบรายละเอียดประมาณว่า ทางวัดกำลังก่อสร้างพระอุโบสถขึ้นพื้น ฝา แล้วก็หลังคาแล้วเป็นปูนยังไม่ได้ฉาบ (จากที่ขับรถผ่านเมื่อเร็วๆ นี้) มีคืนหนึ่ง สองหนุ่มสาวจากไหนไม่ทราบมาทำบัดสีกันในนี้ แล้วเกิดติดกันแยกไม่ออก ไม่เสียชีวิตที่โรงพยาบาล จริงเท็จอย่างไร ไม่ทราบได้ แต่งานสร้างอุโบสถก็หยุดอยู่แค่นั้นจนบัดนี้
อนิจจา
|
|
|
|
|
|
ไลลารินทร์
บัวพ้นดิน
เข้าร่วม: 14 ก.ค. 2006
ตอบ: 64
|
ตอบเมื่อ:
16 มี.ค.2007, 4:09 pm |
|
|
|
_________________ เชื่อ ศรัทธา และเคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ด้วยหัวใจอย่างไม่มีข้อกังขาใดๆ |
|
|
|
ไม้อ่อน
บัวพ้นดิน
เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2007
ตอบ: 62
|
ตอบเมื่อ:
04 พ.ค.2007, 12:22 pm |
|
ทำชั่วได้ชั่วจริงๆ เลยหนอ อนุโมทนาแก่ผู้เผยแพร่ |
|
_________________
|
|
|
|
|