ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
ไก่งวง
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 18 พ.ค. 2007
ตอบ: 2
|
ตอบเมื่อ:
18 พ.ค.2007, 12:27 am |
  |
ผมเพิ่งจะเริ่มสวดมนต์ทุกคืนเป็นเวลาไม่นานครับ ปกติทุกคืนก่อนนอน ผมจะสวดมนต์เป็นเวลาประมาณ 40 นาที และจุดธูปเทียนทุกครั้ง แต่มีความรู้สึกว่าห้องพระจะมีขนาดเล็กเกินไป ทำให้มีควันหนาพอสมควร อยากทราบว่าจำเป็นไหมครับที่เราต้องจุดธูปเทียน และอยากทราบว่าความหมายที่เราถึงต้องจุดธูปเทียนเวลาไหว้พระและสวดมนต์ครับ |
|
|
|
  |
 |
happiness center
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 17 พ.ค. 2007
ตอบ: 6
|
ตอบเมื่อ:
18 พ.ค.2007, 11:22 am |
  |
อยากจะบอกว่ากระบี่อยู่ที่ใจ
หมายความว่า เราเอาใจ เจตนาของเราเป็นสำคัญ การจุด ธูป เทียนนั้น ล้วนเป็นเปลือกนอกออกมา ถ้าความสะดวกไม่มี เราก็ไม่จำเป็นหรอกครับผม เราตั้งใจสวดมนต์ บำเพ็ญภาวนา เราได้บุญเเล้วครับ อย่าไปวิตกกังวล เรื่องธูป เทียน จะจุดไม่จุดเลย ซ้ำร้ายจุดไปมากๆ เเทนที่จิตจะเป็นสมาธิ กลับวิตกกังวลเรื่องเหล่านี้อีก หรือ เป็นโรคภัยไข้เจ็บไปเสียก่อน ฉะนั้น กระบี่อยู่ที่ใจ ใจสำคัญมากที่สุดครับ |
|
|
|
  |
 |
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
18 พ.ค.2007, 11:58 am |
  |
เทียนหมายถึง 1 คู่ บูชาพระธรรม คือ โลกียธรรมและโลกุตรธรรม
ธูป 3 ดอก บูชาคุณ 3 ประการของพระพุทธเจ้า คือ 1 บริสุทธิคุณ 2 พระปัญญาคุณ และ 3 พระมหากรุณาคุณ
เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว จะจุดก็ได้ไม่จุดก็ได้แล้วแต่สะดวก เพราะในขณะที่เราสวดมนต์ก็บูชาสิ่งดังกล่าวแล้ว
เพียงแต่ว่า วัตถุเป็นเครื่องจูงใจ เป็นเครื่องนำให้เกิดศรัทธา เกิดสมาธิมุ่งมั่นได้ง่ายขึ้นเร็วขึ้น |
|
|
|
|
 |
happiness center
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 17 พ.ค. 2007
ตอบ: 6
|
ตอบเมื่อ:
18 พ.ค.2007, 12:18 pm |
  |
ขออภัยนะครับผม
เทียน ๑ คู่ หมายถึง พระธรรม เเละ พระวินัย ไม่ใช่หรอครับ (ผู้รู้บอกด้วย) |
|
|
|
  |
 |
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
18 พ.ค.2007, 1:27 pm |
  |
ธูป 3 ดอก
บูชาคุณ 3 ประการของพระพุทธเจ้า
คือ
1 บริสุทธิคุณ
2 พระปัญญาคุณ
และ
3 พระมหากรุณาคุณ
เทียน 1 คู่ บูชาพระธรรม
คือ โลกียธรรม
และ
โลกุตรธรรม
ดอกไม้ (ในแจกัน) บูชาพระสงฆ์
จึงเป็นอันบูชาพระรัตนตรัยครบ
หรือใครมีความเห็นอย่างไรตอบมาครับ |
|
|
|
|
 |
ไก่งวง
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 18 พ.ค. 2007
ตอบ: 2
|
ตอบเมื่อ:
19 พ.ค.2007, 1:30 am |
  |
ขอบคุณมากเลยครับในความเห็นต่าง ๆ ของทุก ๆ คนครับ |
|
|
|
  |
 |
jj555
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 19 พ.ค. 2007
ตอบ: 3
|
ตอบเมื่อ:
20 พ.ค.2007, 1:12 am |
  |
เครื่องบูชาสักการะพระรัตนตรัย
เครื่องสักการะบูชาพระรัตนตรัยนั้น ชาวพุทธไทยเราทั้งหลาย นิยมนำมาบูชาเป็นประจำเสมอ ในการประกอบพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา ทั้งงานมงคลและงานอวมงคลมี ๓ อย่าง คือ
๑. ธูป
๒. เทียน
๓. ดอกไม้
ธูปสำหรับบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ธูปนั้น สำหรับบูชาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นิยมจุดบูชาครั้งละ ๓ ดอก เป็นอย่างน้อย โดยมีความมุ่งหมายว่า พระองค์ทรงมีพระคุณเป็นอันมาก ยากที่จะพรรณนาให้สิ้นสุดได้ แต่เมื่อประมวลกล่าวเฉพาะพระคุณที่เป็นใหญ่เป็นประธานแห่งพระคุณทั้งปวง สรุปได้ ๓ ประการ คือ
๑. พระปัญญาธิคุณ
๒. พระบริสุทธิคุณ
๓. พระมหากรุณาธิคุณ
ธูปทั้ง ๓ ดอกนั้น สำหรับจุดเพื่อบูชาพระพุทธคุณทั้ง ๓ ประการนี้ แต่บางท่านก็อธิบายความมุ่งหมายแตกต่างออกไปว่าธูป ๓ ดอกนั้น เพื่อบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้ง ๓ ประเภท คือ
๑. อดีตสัมพุทธะ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีต
๒. ปัจจุบันสัมพุทธะ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในปัจจุบัน
๓. อนาคตสัมพุทธะ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายในอนาคต
ธูป สำหรับจุดบูชาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น นิยมใช้ธูปมีกลิ่นหอม โดยมีความมุ่งหมายว่า ธรรมดากลิ่นธูปนี้เป็นกลิ่นหอมที่อัศจรรย์กว่ากลิ่นหอมต่างๆ ที่ชาวโลกนิยมใช้กัน
กลิ่นหอมที่ชาวโลกนิยมใช้กันอยู่ทุกชนิด เมื่อบุคคลได้สูดดมกลิ่นแล้วเป็นเหตุทำให้ กิเลสฟูตัวขึ้น จิตใจฟุ้งซ่าน ไม่สงบ ส่วนกลิ่นหอมของธูปนั้น เมื่อบุคคลได้สูดกลิ่นแล้วเป็นเหตุทำให้กิเลสยุบตัวลง
ธูปนั้นแม้จะถูกไฟไหม้หมดไปแล้ว แต่กลิ่นหอมของธูปก็ยังหอมหวลอบอวลอยู่ในบริเวณนั้นได้เป็นเวลานาน ฉันใด พระคุณของสมเด็จพระสัมมาสัมสัมพุทธเจ้า ก็เป็นที่ซาบซึ้งเข้าถึงจิตใจของบุคคลทั้งหลาย โดยที่สุด แม้แต่มหาโจร เช่น องคุลิมาล เป็นต้น ย่อมทำให้ผู้นั้นมีจิตใจสงบระงับจากการทำความชั่ว หันหน้าเข้าสู่ความดี และแม้พระพุทธเจ้าจะได้เสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้วก็ตาม แต่พระพุทธคุณก็ยังปรากฏซาบซึ้งตรึงอยู่กับจิตใจของชาวพุทธทั้งหลายตลอดมาจนกระทั้งทุกวันนี้ ฉันนั้น
เทียนสำหรับบูชาพระธรรม
เทียนนั้นสำหรับบูชาพระธรรมนิยมจุดบูชาครั้งละ ๒ เล่ม โดยมีความมุ่งหมายว่าพระศาสนธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นแยกออกได้เป็น ๒ ประเภท ในคำว่า " ธมฺโม พุพพิโธ " แปลว่าพระธรรม มี ๒ อย่าง คือ
๑. พระวินัย สำหรับฝึกหัดกาย และวาจา ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
๒. พระธรรม สำหรับอบรมจิตใจ ให้สงบระงับจากความชั่วทุกประการ
เทียนที่นิยมจุดบูชาครั้งละ ๒ เล่ม ก็เพื่อบูชาพระวินัยเล่ม ๑ และบูชาพระธรรม อีกเล่ม ๑
- เทียน สำหรับบูชาพระธรรมนั้น นิยมใข้เทียนขนาดใหญ่พอสมควรแก่เชิงเทียน ความนิยมใช้เทียนจุดบูชาพระธรรมนั้น มีความมุ่งหมายว่า ธรรมดาเทียนนี้บุคคลจุดขึ้น ณ สถานที่ใด ย่อมกำจัดความมืดในสถานที่นั้น ให้หายหมดไป ทำให้เกิดแสงสว่างขึ้น ณ ที่แห่งนั้น ฉันใด
- พระศาสนธรรมคำสั่งสอน ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น บุคคลใดมาศึกษาอบรมเกิดความรู้ความเข้าใจขึ้นแล้ว ย่อมกำจัดความมืด คือ โมหะ ความโง่เขลาเบาปัญญาในจิตใจของบุคคลนั้น ให้หายหมดไป ทำให้เกิดแสงสว่าง คือ ปัญญาเกิดขึ้นในจิตใจของตน ฉันนั้น
ดอกไม้สำหรับบูชาพระสงฆ์
ดอกไม้สำหรับบูชาพระสงฆ์นั้น มีความมุ่งหมายว่า ธรรมดาดอกไม้นานาพันธุ์ เมื่อยังอยู่ ณ สถานที่เกิดของมัน ก็ย่อมมีความสวยงามตามสมควรแก่สภาพของพันธุ์ไม้นั้น ๆ ครั้นบุคคลเราเก็บดอกไม้นานาพันธุ์ เหล่านั้นมากองรวมกันไว้โดยมิได้จัดสรร ย่อมหาความเป็นระเบียบมิได้ ย่อมไม่สวยงาม ไม่น่าดู ไม่น่าชม ต่อเมื่อนายมาลาการ คือ ช่างดอกไม้ผู้ฉลาด มาจัดสรรดอกไม้เหล่านั้น โดยจัดแจกันหรือจัดใส่พานประดับให้เข้าระเบียบแล้ว ย่อมเป็นระเบียบเรียบร้อยเกิดความสวยงามน่าดู น่าชม ฉันใด
บรรดาพระสงฆ์สาวกของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายสมัยเมื่อยังเป็นคฤหัสถ์อยู่บ้านเรือนของตนๆ ย่อมมีกิริยามารยาททางกาย ทางวาจา และจิตใจ เรียบร้อยตามสมควรแก่ภูมิชั้นแห่งตระกูลของตน ๆ หยาบบ้าง ปานกลางบ้าง ละเอียดบ้าง ครั้นคฤหัสถ์เหล่านั้น ซึ่งต่างชาติกัน ต่างตระกูลกันมีนิสัยอัธยาศัยต่าง ๆ กัน มีศรัทธาเลื่อมใสเข้ามาบวชอยู่ร่วมกัน ถ้าไม่มีระเบียบปฏิบัติเป็นแบบแผนเดียวกัน พระสงฆ์สาวกเหล่านั้นก็จะหาความเป็นระเบียบมิได้ ย่อมไม่เป็นที่ตั้ง แห่งความศรัทธาเลื่อมใสของผู้ได้ประสบพบเห็น ครั้นเมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เปรียบเสมือนนายมาลาการผู้ฉลาด ได้ทรงวางพระธรรมวินัยไว้เป็นแบบแผนประพฤติปฏิบัติ จัดพระสงฆ์สาวกเหล่านั้น ให้ประพฤติปฏิบัติอยู่ในระเบียบเดียวกัน จึงเกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยน่าเคารพน่าสักการะบูชา ฉันนั้น
อนึ่ง ดอกไม้สำหรับใช้บูชาพระสงฆ์ นิยมใช้ดอกไม้ที่เพรียบพร้อมด้วยลักษณะ ๓ ประการ คือ
๑. มีสีสวย
๒. มีกลิ่นหอม
๓. กำลังสดชื่น
ดอกไม้ที่บูชาพระนั้น นิยมจัดเปลี่ยนให้สดอยู่เสมอ อันเป็นนิมิตหมายแห่งความสดชื่น ความรุ่งเรือง ไม่นิยมปล่อยให้เหี่ยวแห้งเป็นนิมิต หมายแห่งความหดหู่ใจ ความเสื่อมโทรม เป็นต้น
-บุคคลผู้บูชาพระด้วยดอกไม้ทีมีสีสวย แต่ไม่มีกลิ่นหอม เช่น บูชาพระด้วยดอกไม้พลาสติก หรือ ดอกไม้ประดิษฐ์ เป็นต้น ต่อไปในภายหน้า บุคคลผู้นั้นจะได้อะไร ๆ ก็ล้วนแต่มีรูปร่างลักษณะดี มีรูปสวย แต่คุณภาพไม่ดีดังคำพังเพยว่า " สวยแต่รูป แต่จูบไม่หอม "
-บุคคลผู้บูชาพระด้วยดอกไม้มีกลิ่นหอม แต่มีสีไม่สวย ต่อไปในภายหน้า บุคคลผู้นั้นจะได้อะไร ๆ ก็ล้วนแต่มีคุณภาพดี แต่มีรูปร่างลักษณะไม่สวย ไม่งดงาม ดังคำพังเพย " ถึงรูปชั่วตัวดำ แต่น้ำใจดี "
-บุคคลผู้บูชาพระด้วยดอกไม้กำลังสดชื่น ต่อไปในภายหน้า บุคคลผู้นั้นจะได้อะไร ๆ ก็ล้วนแต่เป็นของใหม่ ๆ ไม่ต้องใช้ของที่เขาใช้แล้ว เป็นมือหนึ่ง ไม่ต้องเป็นมือสองรองใคร ดังตัวอย่างเช่น ชูชกมีอายุแก่คราวปู่ได้นางอมิตตดา ซึ่งเป็นสาวแรกรุ่นคราวลูกหลานเป็นภรรยา เพราะอานิสงส์ที่ชูชกได้เคยบูชาพระด้วยดอกบัวตูมที่กำลังสดชื่น ฉะนั้น
สถานที่ตั้งบูชาพระรัตนตรัย
การจัดสถานที่บูชาพระรัตนตรัยนั้น นิยมตั้งหันหน้าพระพุทธรูปไปทางทิศตะวันออก เพราะเป็นทิศที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับนั่งตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นทิศแห่งความสำเร็จความประสงค์ ถ้าสถานที่ไม่อำนวย ก็นิยมตั้งหันหน้าไปทางทิศเหนือ ถ้าสถานที่ไม่อำนวยก็นิยม ตั้งหันหน้าไปทางทิศใต้ ทิศใดทิศหนึ่ง ในบรรดาทิศทั้ง ๓ นี้ แต่ไม่นิยมจัดตั้งที่บูชาพระ ให้หันหน้าไปทางทิศตะวันตก เพราะถือกันว่า เป็นทิศตรงกันข้ามกับทิศตะวันออก ซึ่งเป็นทิศแห่งความสำเร็จความประสงค์ ทิศตะวันตกจึงเป็นทิศแห่งความไม่สำเร็จความประสงค์ เป็นทิศอัสดงคตแห่งพระอาทิตย์ เป็นทิศแห่งความดับ เป็นทิศแห่งความเสื่อม ซึ่งเป็นนิมิตหมายแห่งความไม่เจริญ ไม่รุ่งเรือง
สถานที่บูชาพระนั้น นิยมจัดตั้งไว้ทางด้านหัวนอนและจัดให้อยู่ ณ ที่สูงพอสมควร หรือนิยมจัดตั้งไว้ ณ ห้องใดห้องหนึ่งเป็นพิเศษ นิยมเรียกว่า " ห้องพระ " ซึ่งเป็นสถานที่อันเป็นที่เคารพ โดยเฉพาะทุกคนที่เข้าไป ณ สถานที่นั้น สมควรแสดงความเคารพทุกครั้งที่เข้าไป
สถานที่บูชาพระนั้น นิยมจัดตั้งไว้ ณ ที่มั่นคง เมื่อคนเดินผ่านไปมา ไม่เกิดความสั่นสะเทือน ไม่โยกโคลง ไม่สั่นคลอน นิยมถือกันสืบมาว่า ถ้าบ้านใด ที่บูชาพระไม่มั่นคง สั่นคลอน โยกโคลง พระพุทธรูปต้องสั่นสะเทือนอยู่เป็นนิตย์ คนในบ้านนั้นจะหาความสงบสุขได้ยาก มักจะเกิดความระส่ำระสายเดือดร้อนอยู่ร่ำไป
ข้อมูลอ้างอิง : ระเบียบปฏิบัติของชาวพุทธ
พระธรรมวโรดม (บุญมา คุณสมฺปนฺโน ป.ธ.๘)
วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพมหานคร
พิมพ์เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๙ |
|
|
|
  |
 |
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
21 พ.ค.2007, 2:02 pm |
  |
สวดมนต์เป็นยาทา
วิปัสนาเป็นยากิน |
|
|
|
|
 |
สายลม
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245
|
ตอบเมื่อ:
19 มิ.ย.2008, 11:31 pm |
  |
 |
|
_________________ "อย่าลืมตัว อย่าลืมปัจจุบัน อย่าลืมปฏิบัติ" |
|
    |
 |
suvitjak
บัวบาน

เข้าร่วม: 26 พ.ค. 2008
ตอบ: 457
ที่อยู่ (จังหวัด): khonkaen
|
ตอบเมื่อ:
26 มิ.ย.2008, 4:19 pm |
  |
ขอบคุณที่ให้ความรู้ครับ  |
|
_________________ ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน |
|
  |
 |
ปริญญา ไชยา
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 18 ก.ค. 2008
ตอบ: 127
ที่อยู่ (จังหวัด): ราชบุรี
|
ตอบเมื่อ:
01 ส.ค. 2008, 10:11 am |
  |
ผมว่าถ้าไม่อยากจุดธูป,เทียน ก็ใช้ ธูปเทียนไฟฟ้าก็ได้ครับ
ยิ่งถ้าคนเป็นโรคปอด...ก็อันตรายครับ |
|
|
|
   |
 |
ครูหนุ่ม
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 03 ส.ค. 2008
ตอบ: 6
|
ตอบเมื่อ:
08 ส.ค. 2008, 10:36 am |
  |
การสวดมนต์ที่ได้ผล
1.สวดแล้วรู้เรื่อง
2.สวดแล้วนำไปปฏิบัติ
จะสวดบทไหนก็ได้นะครับแต่ที่พระพุทธองค์บอกไว้ก็ พระปริตรหรือบทสวดอิติปิโส ภะคะวา......(สวดในกรณีที่เรากลัวครับ)
เรื่องจุดเทียน-ธูป นั้น ไม่สำคัญหรอกครับ
1.ที่จุดเทียนเพราะสมัยก่อนไม่มีไฟฟ้า มันมืด ต้องจุดเทียนให้แสงสว่าง
สมัยนี้ไฟฟ้ามีก็เปิดไฟเลย
2.ที่จุดธูปเพราะควันธูปสามารถไล่ยุงและแมลงที่มากวนเราเวลาเราจุดเทียนหนะครับ(แต่ก่อนเขาจุดไม่จันทน์หอมเพราะกลิ่นมันหอมเย็นทำให้จิตใจสบาย ผ่อนคลายไม่ใช่ธูปนะครับแต่ทุกวันนี้ไม่จันทน์หอมเป็นไม่สงวนครับหายาก)
ส่วนเทียนและธูปจะให้ความหมายแทนอะไรนั้นไม่สำคัญหรอกครับ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อยู่ในจิตใตเรา แค่เราระลึกถึงก็สำเร็จประโยชน์แล้วครับ อย่าไปหาวัตถุภายนอกมาประกอบให้มันสิ้นเปลืองเลยครับ ถ้าเกิดว่าเราไปอยู่ในที่ที่ไม่มีเทียน ธูปแล้วเราจะบูชาพระพุทธเจ้าพระธรรมและพระสงฆ์ไม่ได้ คิดผิดครับ พระพุทธองค์บอกว่า การบูชาพระพุทธองค์ที่ถูกต้อง คือ การปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์เท่านั้น ไม่ต้องคิดมาครับ ไปศึกษาในพระไตรปิฎกให้มาก มีอยู่ในนั้นทั้งหมดแล้วเราจะหายสงสัยในสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนเรา |
|
_________________ คิดดี พูดดี ทำดี คบคนดี ไปในที่ที่ดี |
|
  |
 |
กตัญญุตา
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 29 มิ.ย. 2008
ตอบ: 73
|
ตอบเมื่อ:
16 ส.ค. 2008, 7:46 pm |
  |
เราไม่ได้จุดเหมือนกันค่ะ เพราะว่าอยู่ต่างประเทศ สามีก็แพ้ธูปอีกอย่างไม่มีหิ้งหรือที่จะปักที่ไหนเลย คิดว่าทุกอย่างอยู่ที่ใจค่ะ นับแต่พนมมือไหว้ เรามีจิตศรัทธาและตั้งใจ เราว่าก็ไม่น่าจะเป็นอะไรนะคะ..แต่ถ้าอยู่เมืองไทยเราจุดค่ะ
เมื่อไม่นานมานี้อ่านข่าวจากเว็บไทยรัฐเห็นบอกว่าธูปนี่มีสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งค่ะ ถ้าหากสูดดมมากๆ จะทำให้ไม่ดีต่อสุขภาพ เห็นว่าต่อไปเค้าจะคิดค้นให้มีธูปแบบจุดแล้วดับภายใน 10 วินาทีหรือไงเนี่ยอ่ะค่ะ พอดีว่าไม่ได้ก้อปข้อมูลไว้ด้วย แต่อ่านเจอเลยนำมาฝากค่ะ.....ก็ยังคิดๆ อยู่เลยว่าถ้าต่อไปไม่ใช้ธูปแล้วจะใช้อะไรแทนล่ะเนี่ยเพราะว่าคนเราก็ใช้ธูปในการสักการะบูชาทางศาสนามานานแล้วด้วย |
|
_________________ สติมาปัญญาเกิด สติเตลิดจะเกิดปัญหา |
|
  |
 |
admin
บัวทอง


เข้าร่วม: 15 ธ.ค. 2004
ตอบ: 1886
|
ตอบเมื่อ:
24 ก.ค.2013, 5:11 pm |
  |
|
    |
 |
|