ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
baramee10
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
27 พ.ย.2004, 11:53 pm |
  |
อะไรหนอแลเป็นเหตุให้พระสัทธรรมไม่ดำรงอยู่นาน
เนื้อหา
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่
ณ พระวิหารเวฬุวัน ใกล้เมืองกิมิลา
ครั้งนั้น ท่านพระกิมพิละได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ
ถวายบังคม แล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
อะไรหนอแลเป็นเหตุเป็นปัจจัยเครื่องให้พระสัทธรรมไม่ดำรงอยู่นาน ในเมื่อพระตถาคตปรินิพพานแล้ว
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนกิมพิละ
เมื่อตถาคตปรินิพพานแล้ว พวกภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ในธรรมวินัยนี้
เป็นผู้ไม่มีความเคารพ ไม่มีความยำเกรงในศาสดา
เป็นผู้ไม่มีความเคารพ ไม่มีความยำเกรงในธรรม
เป็นผู้ไม่มีความเคารพ ไม่มีความยำเกรงในสงฆ์
เป็นผู้ไม่มีความเคารพ ไม่มีความยำเกรงในสิกขา
เป็นผู้ไม่มีความเคารพ ไม่มีความยำเกรงกันและกัน
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนกิมพิละ
นี้แลเป็นเหตุเป็นปัจจัยเครื่องให้พระสัทธรรมไม่ดำรงอยู่นาน ในเมื่อตถาคตปรินิพพานแล้ว
รายละเอียดเพิ่มเติม
พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม 36 หน้าที่ 446
๑. กิมพิลสูตร ว่าด้วยเหตุปัจจัยทำให้ศาสนาเสื่อม
|
|
|
|
|
 |
สุรพงษ์
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
28 พ.ย.2004, 10:13 am |
  |
ตามหลักสิ่งนี้มีสิ่งนี้จึงมี |
|
|
|
|
 |
TU
บัวทอง


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 1589
|
ตอบเมื่อ:
28 พ.ย.2004, 10:55 am |
  |
ขออนุโมทนาบุญกับทีมงานบ้านธัมมะ นะค่ะ |
|
|
|
    |
 |
สายลม
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245
|
ตอบเมื่อ:
28 พ.ย.2004, 7:53 pm |
  |
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป เป็นสัจธรรมแท้ๆ
 |
|
|
|
    |
 |
ลุงสุชาติ
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 10 มิ.ย. 2004
ตอบ: 65
|
ตอบเมื่อ:
29 พ.ย.2004, 2:55 am |
  |
กล่าวโดยสรุปคือ พระสัทธรรมจะเสื่อมหรือไม่อยู่ที่พุทธบริษัท ในสมัยพุทธกาลจนถึงวันที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จเข้าสู่พระมหาปรินิพพาน พุทธบริษัทมีความรู้เข้าใจในธรรมวินัยเป็นอย่างดี และได้ถือปฏิบัติตามรอยบาทพระศาสดาโดยตลอด พระพุทธองค์จึงได้ฝากพระศาสนาไว้กับพุทธบริษัท |
|
|
|
  |
 |
โอ่
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
29 พ.ย.2004, 4:13 am |
  |
ความเสื่อมนี้น่าคิด ความไม่ยำเกรงในธรรม ความไม่ยำเกรงในสิกขานั้น มาจากเหตุหลายอย่าง แน่นอนว่าความเสื่อมนั้นมาจากพุทธบริษัท ความไม่ใส่ใจธรรมก็มีส่วน การเผยแพร่ธรรมอย่างไม่รับผิดชอบก็มีส่วน เช่นเชิญชวนให้ศรัทธาแก่สิ่งที่มิใช่พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ หริอยกย่องเทพยดา จนทำให้คนเข้าใจว่าเทวดานั้นเหนือพระสงฆ์ แม้แต่พยายามชักนำคนให้ไปนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่น หรือนับถือวัตถุสิ่งศัดิ์สิทธิ์ที่เชื่อถือกันเช่นพวกแร่ธาตุต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวกับศาสนา
แม้แต่การระดมเงินก่อสร้างถาวรวัตถุในพุทธศาสนาที่ทำเกินความจำเป็น และมากเกินไป แต่การสร้างคน เช่น การบวชพระ การให้การศึกษาการอบรมแก่พระสงฆ์ การปฏิบัติธรรมของสงฆ์ให้มีกิจลักษณะที่ถูกต้อง ก็มีน้อยกว่ากิจกรรมการก่อสร้างถาวรวัตถุ การพัฒนาทางศาสนาเป็นไปอย่างไม่เหมาะสมและสมดุลกันในทุกวันนี้ล้วนแต่น่าคิดทั้งนั้น
เพราะถ้าเรามุ่งแต่ทางวัตถุแล้ว เวลาที่จะใส่ใจในการปฏิบัติจะน้อยลง ความยำเกรงในศาสนาก็จะน้อยลงไปทีละรุ่นๆตามวันเวลา การสืบทอดบำรุงพระศาสนาคือการปฏิบัติและเผยแพร่ธรรมก็จะฟั่นเฝือไปในที่สุด ทุกวันนี้ก็เห็นโดยทั่วไป จนคนคิดว่าตำราในพุทธศาสนาไม่น่าเชื่อถือ แม้พระไตรปิฏกเองก็มีคนไม่เชื่อก็มี แล้วก็ค้นคว้าเองยึดถืออุปกิเลสก็มีว่าเป็นสิ่งมีคุณค่า และเชื่อในอิทธิปาฏิหารย์เล็กๆน้อยๆ และชักนำให้ผู้อื่นเชื่อเช่นนั้นด้วย สื่อหลายชนิดพยายามอวดรูปภาพว่ามีคุณวิเศษ มีความแปลกประหลาด ทั้งที่ไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญอะไรทางพุทธศาสนาแม้แต่น้อย แต่ชักนำให้คนเข้าใจศาสนาแล้วอาจออกนอกลู่นอกทางไป |
|
|
|
|
 |
|