|
|
|
 |
ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
สาวิกาน้อย
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 27 มี.ค. 2006
ตอบ: 2065
|
ตอบเมื่อ:
22 เม.ย.2007, 11:57 am |
  |
ประวัติและปฏิปทา
หลวงพ่อทรง ฉันทโสภี
วัดศาลาดิน (วัดมอญ)
ต.ม่วงเตี้ย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง
๏ ชาติภูมิ
พระครูสุภัทรธรรมโสภณ หรือ หลวงพ่อทรง ฉันทโสภี มีนามเดิมว่า ทรง วารีรักษ์ เกิดเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ.2466 ตรงกับวันอังคาร แรม 14 ค่ำ เดือน 8 ปีกุน ณ บ้านม่วงเตี้ย ต.ม่วงเตี้ย อ.วิเศษชัยชาญ (ในสมัยนั้นเรียกว่า แขวงเมืองวิเศษชัยชาญ) จ.อ่างทอง โยมบิดาชื่อ นายจั่น วารีรักษ์ โยมมารดาชื่อ นางกอง วารีรักษ์ ครอบครัวประกอบอาชีพค้าขาย
๏ การศึกษาเบื้องต้นและการอุปสมบท
ในวัยเยาว์ ท่านมีลักษณะขาวสูง หูยาว พูดจาไพเราะ มีแววตาแห่งความเมตาสูงอยู่เสมอ แม้ว่าท่านจะเป็นคนแข็งแรงแต่ไม่เคยทำร้ายรังแกเพื่อนคนใด แม้สัตว์เป็นก็ไม่ฆ่าแกงเป็นอาหาร ท่านเป็นเด็กฉลาดใฝ่รู้ เล่าเรียนสิ่งใดแล้วมีความสามารถมากกว่าเด็กโดยทั่วไป อีกทั้งช่วยเหลือครอบครัวทำมาหากินมาตลอด และมีจิตใจฝักใฝ่ในทางศาสนา จึงเป็นที่รักโปรดปรานของโยมบิดา-โยมมารดา และญาติพี่น้องเป็นอย่างมาก
ท่านได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนวัดยางมณี (ชวนประชาสรรค์) ต.ม่วงเตี้ย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง จนจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (ป.6) ซึ่งในสมัยนั้นคนส่วนใหญ่จะจบแค่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 (ป.4) จึงเป็นการเรียนจบที่สูงสามารถเป็นครูสอนตามโรงเรียนได้ ต่อมาท่านได้เข้ารับราชการเพียงระยะเวลาสั้นๆ โดยยังคงช่วยเหลือครอบครัวหาเลี้ยงชีพประกอบกิจการค้าขาย
เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุในทางพระพุทธศาสนา เมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ.2486 ณ พัทธสีมาวัดยางมณี ต.ม่วงเตี้ย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง โดยมี พระครูสุกิจวิชาญ (หลวงพ่อชวน พฺรหฺมโชโต) วัดยางมณี เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการสุวรรณ วัดไร่ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระอธิการชั้ว วัดตูม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า ฉันทโสภี
พระธรรมมุนี (หลวงพ่อแพ เขมังกโร) วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี
หลวงพ่อมุ่ย พุทธรักขิโต วัดดอนไร่ จ.สุพรรณบุรี
๏ การศึกษาพระปริยัติธรรมและสรรพวิชาอาคม
หลังอุปสมบท ท่านได้อยู่ปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อชวนระยะหนึ่ง จากนั้นได้ย้ายไปอยู่จำพรรษาที่วัดไร่ และวัดศาลาดิน เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรมและพระธรรมวินัย สามารถสวดพระปาติโมกข์ได้อย่างคล่องแคล่ว
ขณะเดียวกัน ท่านได้ศึกษาสรรพวิชาอาคมจาก หลวงพ่อชวน พฺรหฺมโชโต วัดยางมณี, หลวงพ่อมุ่ย พุทธรักขิโต วัดดอนไร่, หลวงพ่อพักตร์ จันทสุวัณโณ วัดโบสถ์, หลวงพ่อคำ ปัญญาสาโร วัดโพธิ์ปล้ำ และศึกษาโหราศาสตร์กับ หลวงพ่อเข็ม วัดข่อย พระเถราจารย์ชื่อดังแห่งยุค ซึ่งได้เมตตาถ่ายทอดสรรพวิชาให้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้แล้วท่านได้เรียนวิทยาคมจากตำราโบราณที่รับสืบทอดจากบรรพบุรุษ จนเชี่ยวชาญสามารถเขียนอ่านอักษรขอมได้
หลวงพ่อทรง เคร่งครัดปฏิบัติและชอบการปลีกวิเวก หมั่นฝึกฝนปฏิบัติวิชาอาคมต่างๆ ตามที่ได้ร่ำเรียนและได้รับการถ่ายทอดมา จนมีความชำนาญในวิปัสสนากัมมัฏฐาน มีพลังสมาธิญาณอย่างน่าอัศจรรย์
มีเรื่องเล่าขานกันว่า เมื่อปี พ.ศ.2513 หลวงพ่อทรงท่านได้จัดงานผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิตพระอุโบสถ แล้วจัดสร้างเหรียญเสมาเป็นรูปท่านครึ่งองค์ เพื่อมอบให้สาธุชนเป็นที่ระลึก โดยนิมนต์ พระธรรมมุนี (หลวงพ่อแพ เขมังกโร) วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี, หลวงพ่อมุ่ย พุทธรักขิโต วัดดอนไร่ จ.สุพรรณบุรี และพระเถราจารย์ผู้ทรงวิทยาคมรูปอื่นๆ มาร่วมนั่งปลุกเสก
หลังจากพระเกจิผู้ทรงวิทยาคมคลายพลังสมาธิญาณ และผ่อนคลายอิริยาบถ หลวงพ่อทรงยังคงนั่งนิ่งส่งพลังสมาธิญาณ กระทั่งเหรียญเสมาที่อยู่ในบาตรบินลอยวนไปมา ส่งเสียงกระทบฝาบาตรอย่างน่าอัศจรรย์
จนหลวงพ่อมุ่ย พุทธรักขิโต วัดดอนไร่ เปรยว่า พอแล้วท่านทรง จะปลุกเสกไปถึงไหน เดี๋ยวเหรียญก็ได้แตกป่นกันหมดพอดี หลวงพ่อทรงจึงผ่อนคลายพลังสมาธิญาณ ต่อมาคณะศิษยานุศิษย์ได้ตั้งสมญานามเหรียญเสมารุ่นนี้ว่า รุ่นเหรียญบิน ตราบจนปัจจุบัน
หลวงพ่อทรง ได้รับการยอมรับและศรัทธาของศิษย์ทุกระดับชั้น เชื่อถือกันว่าท่านมีคาถาอาคมทรงพุทธคุณครอบจักรวาล โดยเฉพาะด้านเมตตามหานิยม ความเจริญรุ่งเรือง และด้านมหาอำนาจปกป้องผองภัยสารพัด สิ่งมหัศจรรย์ที่บังเกิดทั้งปวง ศิษยานุศิษย์ต่างประจักษ์ สามารถให้คำตอบได้เป็นอย่างดี
๏ ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์
พ.ศ.2513 ได้รับมอบหมายจากคณะสงฆ์ให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดศาลาดิน (วัดมอญ) ต.ม่วงเตี้ย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง
พ.ศ.2525 ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลม่วงเตี้ย อ.วิเศษชัยชาญ และเป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ.2547 ดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลม่วงเตี้ย อ.วิเศษชัยชาญ
๏ ลำดับสมณศักดิ์
พ.ศ.2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามที่ พระครูสุภัทรธรรมโสภณ
หลวงพ่อทรง ฉันทโสภี ในอิริยาบทสบายๆ
(มีต่อ) |
|
|
|
    |
 |
สาวิกาน้อย
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 27 มี.ค. 2006
ตอบ: 2065
|
ตอบเมื่อ:
29 พ.ค.2009, 9:54 am |
  |
พระครูสุภัทรธรรมโสภณ (หลวงพ่อทรง ฉันทโสภี)
๏ ผลงานด้านการพัฒนา
หลวงพ่อทรงได้ก่อสร้างอุโบสถ ศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ กุฏิ เมรุ ห้องน้ำ ห้องสุขา บูรณปฏิสังขรณ์สภาพของวัดที่เก่าแก่แต่เดิม ให้เกิดความมั่นคงถาวร ทั้งหมดล้วนเกิดจากบารมีของหลวงพ่อทรงอย่างแท้จริง
ด้วยเป็นพระเกจิอาจารย์อาวุโสของจังหวัดอ่างทอง ท่านจึงมักได้รับกิจนิมนต์จากวัดวาอารามทั่วประเทศ ให้ไปร่วมในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลต่างๆ ซึ่งท่านมิเคยขัดข้องหากไม่ติดธุระด้านศาสนาหรือกิจธุระส่วนตัวเสียก่อน
๏ เทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำน้อย
วัตถุมงคลที่จัดสร้างขึ้น ล้วนแต่ได้รับความนิยมจากประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีพุทธคุณครอบจักรวาล โดดเด่นในหลากหลายด้าน ที่เสาะหากันอยู่ขณะนี้ ได้แก่ เหรียญใบเสมา รุ่นเหรียญบิน ปี 2513, เหรียญบาตรน้ำมนต์, พระกริ่งบาเก็ง, สมเด็จยันต์พระเจ้า 5 พระองค์ เป็นต้น วัตถุมงคลของหลวงพ่อทรงทุกรุ่นล้วนมีพุทธคุณด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาดคงกระพันชาตรี บังเกิดแก่บรรดาสาธุชน จนท่านได้รับสมญานามจากคณะศิษยานุศิษย์ที่เลื่อมใสศรัทธาว่าเป็น เทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำน้อย
ท่านย้ำอยู่เสมอว่า วัตถุมงคลทั้งหลายล้วนเข้มแข็งด้วยอำนาจแห่งพุทธคุณ ธรรมคุณ และสังฆคุณ
รวมทั้ง ท่านจะกล่าวสอนอยู่เสมอว่า การทำจิตใจให้สงบ รู้จักปล่อยวางในสิ่งต่างๆ อย่าไปยึดติดกับสิ่งต่างๆ มากเกินไป หมั่นสวดมนต์ไหว้พระ ทำสมาธิระลึกถึงปฏิบัติในพระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะคำสั่งสอนของท่านเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุด หาคำสอนใดมาเปรียบเทียบมิได้เลยทีเดียว และการที่เราเกิดมาพบพระพุทธศาสนาเป็นอะไรที่ประเสริฐที่สุดแล้วในชาตินี้
หลวงพ่อทรง พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดศาลาดิน (วัดมอญ) ได้รับการยกย่องว่าเป็นเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้า เป็นที่เลื่องลือไปทั่วภาคกลาง แต่การเข้ากราบไหว้ขอพรจากท่าน มิใช่เรื่องยากเย็น ทุกคนมีโอกาสเสมอเหมือนกันหมด ไม่มีผู้ใดกีดกัน เพราะท่านเมตตาต่อทุกคน ไม่เคยเลือกที่รักมักที่ชัง
ท่านมักจะนำวิชาความรู้ด้านวิทยาคมเป็นกุศโลบายในการอบรมสั่งสอนศีลธรรมแก่ประชาชนทั่วไป ให้ยึดหลักธรรมคำสั่งสอนตามแนวทางพระพุทธศาสนา เป็นวิถีสำคัญในการประพฤติปฏิบัติตน ช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ถ้ามีพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลที่ไหน จะต้องเห็นหลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน นั่งปรกปลุกเสกกับพระเกจิอาจารย์ร่วมสมัย ความเป็นเอกอุด้านไสยเวทวิทยาคมไม่แตกต่างกัน
หลวงพ่อทรง ฉันทโสภี กับวัตถุมงคลที่จัดสร้างขึ้น
บรรยากาศงานพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อทรง ฉันทโสภี
๏ ปัจฉิมอาพาธและการมรณภาพ
อย่างไรก็ดี ด้วยสังขาร คือ อนิจจัง เป็นสิ่งไม่เที่ยงแท้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ครั้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ.2550 เวลาประมาณ 21.00 น. หลวงพ่อทรงมีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยหอบ หายใจขัด เนื่องจากมีกิจนิมนต์มาก เมื่อลูกศิษย์เห็นว่าอาการไม่ดีจึงรีบนำส่งโรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง คณะแพทย์ได้ทำการรักษาสุดความสามารถแต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ ในที่สุดเมื่อเวลา 22.50 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ.2550 ท่านได้ละสังขารจากไปอย่างสงบด้วยอาการหัวใจล้มเหลว ณ โรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ หลังจากเข้ารับการรักษาอาการท่อปัสสาวะอักเสบมาก่อนหน้านี้ สิริอายุรวมได้ 83 ปี 8 เดือน พรรษา 64 ท่ามกลางความเศร้าสลดอาลัยเป็นยิ่งนักของบรรดาคณะสงฆ์ คณะศิษยานุศิษย์ และสาธุชนทั่วไป
หลวงพ่อทรงท่านเป็นพระสุปฏิปันโน ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอย่างแท้จริง แต่ด้วยสังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยงแท้ ท่านได้ละสังขารตามกฎไตรลักษณ์ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ถือว่าวงการสงฆ์ต้องสูญเสียพระเถระรูปสำคัญ ผู้บำเพ็ญคุณูปการต่อชาวเมืองอ่างทอง ด้วยความอุตสาหวิริยะมาอย่างยาวนาน เหลือทิ้งไว้แต่ผลงานอันทรงคุณค่าที่อุทิศให้แด่พระพุทธศาสนา เป็นอนุสรณ์แห่งความทรงจำไว้เบื้องหลัง ทั้งนี้ ทางคณะสงฆ์และคณะศิษยานุศิษย์ได้จัดงานบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรม และตั้งศพเพื่อให้คณะสงฆ์ คณะศรัทธาญาติโยม และสาธุชนทั่วไปได้กราบไหว้ เป็นเวลา 7 วัน ณ วัดศาลาดิน (วัดมอญ) จนกว่าจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพสืบต่อไป
๏ กำหนดการพระราชทานเพลิงศพ
กำหนดการพระราชทานเพลิงศพของพระครูสุภัทรธรรมโสภณ (หลวงพ่อทรง ฉันทโสภี) อดีตเจ้าคณะตำบลม่วงเตี้ย และอดีตเจ้าอาวาสวัดศาลาดิน (วัดมอญ) จ.อ่างทอง ตรงกับวันที่ 19 เมษายน พ.ศ.2552
หน้าปกหนังสือที่ระลึกงานพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อทรง ฉันทโสภี
ป้ายประกาศกำหนดการพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อทรง ฉันทโสภี
.............................................................
คัดลอกเนื้อหามาจาก ::
หนังสือพิมพ์ข่าวสดออนไลน์ หน้า 1 คอลัมน์ มงคลข่าวสด
วันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 17 ฉบับที่ 5988 |
|
_________________ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว |
|
    |
 |
สาวิกาน้อย
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 27 มี.ค. 2006
ตอบ: 2065
|
ตอบเมื่อ:
08 มี.ค.2011, 4:51 am |
  |
หลวงพ่อทรง ฉันทโสภี
หลวงพ่อทรง ฉันทโสภี เมื่อครั้งได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์
เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามที่ พระครูสุภัทรธรรมโสภณ
หลวงพ่อทรง ฉันทโสภี ในช่วงปัจฉิมวัย |
|
_________________ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว |
|
    |
 |
สาวิกาน้อย
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 27 มี.ค. 2006
ตอบ: 2065
|
ตอบเมื่อ:
08 มี.ค.2011, 4:51 am |
  |
|
    |
 |
|
|
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่ คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ คุณไม่สามารถลงคะแนน คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้ คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
|
| | |