ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
กล้วยไม้
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
28 ต.ค.2004, 10:50 am |
  |
ถ้าเกิดรู้สึกตนเอง ต้องอยู่กรรม จะต้องไปแก้ที่วัดเดิม รึเปล่า หรือ วัดไหนก็ได้ครับ ขอบคุณครับ |
|
|
|
|
 |
เจียง
บัวใต้น้ำ

เข้าร่วม: 04 ต.ค. 2004
ตอบ: 118
|
ตอบเมื่อ:
28 ต.ค.2004, 11:29 am |
  |
กรรมคือสิ่งที่คุณกระทำ ใครจะแก้ได้ ผมไม่เชื่อว่าจะมีใครแก้กรรมได้ นอกจากรอรับผลของกรรมที่กระทำไป และไม่ทำกรรมใหม่มาเพิ่ม น่าจะเป็นการแก้กรรมที่ถูกที่สุด |
|
|
|
  |
 |
สายลม
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245
|
ตอบเมื่อ:
28 ต.ค.2004, 12:41 pm |
  |
ผมเข้าใจถึงความหมายที่แท้จริงที่คุณกล่าวนะ
กรรมประเภทนี้เป็นกรรมที่หนักพอควร และยิ่งไม่รีบแก้ก็จะสั่งสมให้หนักเข้าไปอีก
ถ้ามีโอกาสก็รีบไปแก้เสียนะครับ วัดไหนก็ได้ที่เค้าจัดกัน
แนะนำที่ชลบุรี มีวัดแห่งหนึ่งรับตลอดปี
วัดสุขใจดี (วัดซากสมอ) อ.เมือง ชลบุรี โทรติดต่อ 038-214671
******
 |
|
|
|
    |
 |
สายลม
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245
|
ตอบเมื่อ:
28 ต.ค.2004, 12:46 pm |
  |
ลืมบอกไปนะครับ สิ่งที่เราทำไปแล้วไม่ว่าจะเป็นกรรมดี หรือกรรมชั่ว ก็ตาม
การกระทำก็เหมือนกับการประทับรอย เราไม่สามารถที่แก้ไขรอยประทับนั้นให้เหมือนเดิมได้ ฉะนั้นการแก้กรรม คือไม่ได้ไปแก้สิ่งที่ทำไปแล้ว แต่เป็นการสร้างกรรมที่ตรงกันข้าม เช่นต้องการแก้กรรมชั่วไม่ดี เราก็พยายามสร้างกรรมดีซึ่งเป้นสิ่งที่ตรงกันข้าม เพราะกรรมดีที่เราสร้างใหม่นั้นนำพาหรือดึงให้เราห่างไกลจากผลของกรรมชั่วที่จะส่งผล การแก้กรรมก็คือการสร้างกรรมใหม่ที่ตรงกันข้ามนั้นเองครับ
 |
|
|
|
    |
 |
ปุ๋ย
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
28 ต.ค.2004, 5:42 pm |
  |
ทุกคนเกิดมาเรียนรู้ทุกข์ และทุกคนต้องได้รับผลทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว ที่ตนเองได้ก่อขึ้นมา ทั้งที่จะเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม
การเกิดเป็นมนุษย์ ยากที่จะหลีกเลี่ยงที่จะไม่ให้เกิดเหตุของการก่อกรรม หากเรา คิดดี ทำดี พูดดี และมีสติอยู่ตลอดทุกอิริยาบทของชีวิตประจำวัน ก็ไม่จำเป็นต้องไปแก้กรรมตามพิธีกรรมต่างๆที่อุปโลกน์กันขึ้น
แก้ดี ก็ดีไป แก้ไปแก้มา รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ก่อกรรมหนักทั้งผู้ทำพิธีและผู้ที่เข้าไปทำตามพิธีที่แนะนำ
ท่านลองตรองดูเถิดว่า ทำอย่างไร จึงจะไม่ต้องไปทำพิธีแก้กรรม
มณี ปัทมะ ตารา |
|
|
|
   |
 |
amai
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435
|
ตอบเมื่อ:
28 ต.ค.2004, 6:10 pm |
  |
อยู่กรรม เป็นยังไงหรอค่ะ
ไม่เคยได้ยินเลยค่ะ |
|
|
|
    |
 |
สายลม
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245
|
ตอบเมื่อ:
28 ต.ค.2004, 6:29 pm |
  |
ถ้าอมัยเคยได้ยินการจัด "ปริวาสกรรม" ก็จะเข้านะครับ
ถ้าไม่เคยได้ยิน บอกน่ะ จะอธิบายให้ฟัง  |
|
|
|
    |
 |
อาจาโร
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
31 ต.ค.2004, 12:35 am |
  |
คุณกล้วยไม้ครับ การอยู่กรรม หมายถึงการเข้าไปปฏิบัติอะไรสักอย่างหรือแต่งชุดขาวอยู่ในวัดเฉยๆครับ ? ขอความเข้าใจด้วยครับ
ที่บอกว่าไปแก้ที่วัด หมายความว่าแก้กรรมใช่หรือไม่ครับ ถ้าใช่ เกรงว่าคุณกล้วยไม้อาจเข้าใจผิด เพราะว่ากรรมที่ไม่ดีที่เรากระทำแล้วแก้ไม่ได้ เราต้องรับผลของกรรมนั้น เป็นชาวพุทธต้องเชื่อเรื่องกรรม เพราะพระพุทธเจ้าสอนเรื่องกรรม คือทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
๑ ใน ๑๒ ประเภทของกรรม มีอยู่อันหนึ่งเรียกว่า อโหสิกรรม กรรมบางอย่างอโหสิกรรมได้ แต่เรามีกรรมดี เพียงพอที่จะขออโหสิกรรมแล้วหรือยัง อย่างที่ครูบาอาจารย์ท่านสอนว่า " เราเกิดมาทำไม เราเกิดมาสร้างความดี ใช้หนี้กรรมเก่า " ไม่ใช่ไปเข้าพิธีแก้กรรมอย่างที่เข้าใจนะครับ เสียเงินเสียทองเสียเวลาเปล่า !
ผมเคยประสบปัญหาชีวิตที่หนักเอาการ ชนิดกินไม่ได้นอนไม่หลับ แต่ยังมีสติระลึกได้ว่า พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าถือเอาพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ ผมก็ใช้วิธีเข้าห้องพระสวดมนตร์ทุกคืน บทที่สวดผมก็ใช้บทอิติปิโส ( พุทธคุณ ) เรื่อยไปจนขึ้น หาหุงฯ ถึงชะยันโตเลย จิตใจดีขึ้นครับ แล้วก็รอดพ้นวิกฤตมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ พาหุงฯ อยู่ในบทชัยมงคลคาถา หรือที่เรียกว่าบทพระพุทธเจ้าชนะมารนั่นแหละครับ ไม่เสียหายหรอกครับ เพราะการสวดมนตร์เป็นกิจอันหนึ่งของชาวพุทธ จัดเป็นบุญในข้อภาวนามัย แทนที่เราจะใช้บทภาวนาว่า พุทโธ หรือ สัมมาอรหัง หรือ ยุบหนอพองหนอ เราก็ใช้บทสวดมนตร์นี้เป็นองค์ภาวนาแทน
ไม่ต้องไปแก้กรรมที่ไหนหรอกครับ แก้ที่ตัวเรานี่แหละ ได้ผลที่สุด  |
|
|
|
|
 |
สายลม
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245
|
ตอบเมื่อ:
31 ต.ค.2004, 2:35 pm |
  |
คุณกล้าวไม้ช่วยขยายความของคำถามให้ชัดเจนมากกว่านี้หน่อยครับ
ดูสิทำให้คนอื่น ๆ เค้าตีความไปต่างๆ นานา
ถ้าเข้ามาก็ช่วยอธิบายหน่อยว่าการแก้กรรม
กรรมที่ว่าคืออย่างไรจะได้แนะนำได้ถูกต้อง นะครับ
 |
|
|
|
    |
 |
โอ่
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
24 พ.ย.2004, 5:22 pm |
  |
เราลองถามตัวเองว่าเราสามารถทำบุญได้มากขนาดไหน(ไม่ได้หมายถึงการใช้เงิน) แต่หมายถึงอินทรีสังวร และการระลึกในอนุสติ 10 และบุญกิริยาวัตถุ 10 ทำได้ในขอบเขตเท่าไร ทำให้มากกว่านั้นได้มากเท่าไร มีความเพียรมากเท่าไร มีความอดทนมากเท่าไร ระดมออกมาใช้ให้หมดอย่าให้เหลือ พัฒนาชีวิตให้จิตเหลืออยู่แต่ระลึกในกุศล ทำให้มาก ทำให้เกิดผลอย่างใดอย่างหนึ่ง ทำให้มันประจักษ์กับเราเอง แล้วทำตามนั้นนั่นแหละถือว่าเป็นการแก้กรรมที่ดีที่สุดไม่ต้องมีพิธีการ |
|
|
|
|
 |
P.Nung
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
30 พ.ย.2005, 10:16 pm |
  |
ขอเชิญเข้าอยู่ปริวาสกรรมและบวชชีพราหม์ ประจำปี 2548
ณ วัดดอนชะเอม ต.ดอนชะเอม อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี
ระหว่างวันที่ 4 - 13 ธันวาคม 2548
( ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 1 ถึง ขึ้น 12 ค่ำ เดือน 1 ของทุกปี )
ร่วมถือเนกขัมมะ (บวชชี-พราหมณ์) ปฏิบัติธรรม ฝึกสมาธิ ฟังการบรรยาย
ใส่บาตรถวายภัตตาหาร-เครื่องดื่ม แด่พระภิกษุสามเณร-ผู้ปฏิบัติธรรม
เสริมสร้างบารมี ขจัดปัดเป่าปัญหาชีวิตศึกษาธรรมสร้างที่พึ่งทางใจได้ทุกวัน
ผู้มีศรัทธา ประสงค์จองเป็นเจ้าภาพภัตตาหาร และเครื่องดื่ม
ติดต่อสอบถามทางวัดโดยตรงได้ตั้งแต่บัดนี้ หรือ โทร 071558141 / 01 3107191
www.donchaam.th.gs |
|
|
|
|
 |
|