Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
ความเป็นมาของอโศก
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
เจียง
บัวใต้น้ำ
เข้าร่วม: 04 ต.ค. 2004
ตอบ: 118
ตอบเมื่อ: 04 ต.ค.2004, 4:39 pm
อยากทราบความเป็นมาของพวกอโศก ที่ทำไม่เขาไม่เรียกนักบวชของเขาว่าพระ
_________________
วันคืนล่วงไป ๆ เรากำลังทำอะไรอยู่
TU
บัวทอง
เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 1589
ตอบเมื่อ: 05 ต.ค.2004, 7:44 am
ศึกษากลุ่มอโศก..... จากเว็บนี้ไปพลางๆ ก่อน นะค่ะ
http://www.asoke.info
สู่ดิน ชาวหินฟ้า
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 05 ต.ค.2004, 4:31 pm
เรียนทุกท่านที่ต้องการทราบ ฐานะนักบวชของชาวอโศก
นักบวชชาวอโศก ก็เป็นคนธรรมดามาก่อนทุกคน คนไหนที่เคยร่ำรวย แม้จะสุจริต หรือทุจริตก็ตาม ที่เคยมียศบรรดาศักดิ์ ที่เคยมีเงินเดือน มีรายได้ มีตำแหน่งในทางโลก แม้ในใจมีความติดยึดในความเป็น "ตัวกู" "ของกู" ก็ต้องสละออกให้หมด ไม่ใช่แกล้งทำ และสิ่งที่ทำก็แน่ใจว่าถูกตรงตามพระไตรปิฎกทุกประการ นักบวชชาวอโศก จะตรวจสอบกันเองในศีล ในวินัย และเห็นว่า สังคมศาสนาพุทธในประเทศไทย ปฏิบัติไม่ถูกต้อง เพราะถ้าหากถูกต้องแล้ว สังคมไทย คงไม่ฟอนเฟะอย่างที่เห็นนี้ แม้แต่ในวงการสงฆ์เองก็ยังไม่บริสุทธิ์อยู่หลายเรื่อง ป่วยกล่าวไปไยกับเรื่องที่จะช่วยสังคมมนุษย์ ให้พ้นจากความทุกข์ยาก
นี่คือเป้าหมายของนักบวชชาวอโศก ที่มุ่งจะสร้างประโยชน์ตน ทำกิเลสของตนให้เบาบางจนหมดเกลี้ยง ไม่เหลือ กับทั้งสร้างประโยชน์สังคมไปด้วยในเวลาเดียวกัน เพราะเชื่อว่า ถ้าตนมีความเห็นแก่ตัวน้อยมากเท่าไร ก็จะเหลือแต่ความเห็นแก่ผู้อื่นมากขึ้นเท่านั้น และความเชื่อนี้ก็พิสูจน์กันมาแล้ว กว่า 40 ปี ของการก่อตั้งอโศก
ที่นี้ทำไมไม่เรียกว่าพระ เพราะเมื่อปี 2533 มันมีคดีที่ทางเถรสมาคม จะเอาผิดหัวหน้าของสงฆ์สันติอโศก คือ ท่านโพธิรักษ์ กล่าวหาว่าท่าน ปลอมบวช และแปลธรรมะผิดเพี้ยน ซึ่งมันมีเบื้องหลังอยู่หลายเรื่อง ทั้งผลประโยชน์ทางลาภ ผลประโยชน์ทางการเมือง ในเวลานั้น สุดท้าย ท่านโพธิรักษ์ก็ยอมไม่ใช้คำว่าพระ เพราะไม่อยากให้ไปขัดแย้งอะไรมาก เพราะคำเรียก หรือเครื่องแต่งกาย ไม่ใช่เป็นเครื่องบ่งบอกว่าไม่ใช่พระแท้ๆ ของพุทธ พุทธแท้ๆ มันอยู่ที่ศีลจารวัตร เคร่งครัดในพระธรรมวินัยต่างหาก จึงเรียกว่า "สมณะ" แทนว่าพระ ญาติโยม ก็ทำใจได้ และเรียกนักบวชฝ่ายชาย ว่า "สมณะ" และเรียกนักบวชฝ่ายหญิงว่า "สิกขมาตุ" มาจนทุกวันนี้ โดยมิได้รู้สึกว่ามิใช่พระในพระพุทธศาสนาแต่อย่างใด กลับเห็นว่า เรียกได้สนิทปากกว่า พระ เพราะต้องการจะขีดคั่นความศรัทธาให้ชัดเจน พระทางเถรสมาคมทำเสียพระมาเยอะแล้ว พราะเลวๆ มีให้เห็นกันเกลื่อน ก็ไม่เห็นจะจัดการอะไรได้ จนเสียพระ ทำให้พระดีๆ ต้องมัวหมองไปด้วย และอีกอย่างในสมัยพุทธกาล เรียกนักบวชในพระพุทธศาสนาว่า สมณะ ครับ ไม่เรียกว่าพระ เหมือนทุกวัน
โดยท่านยังเรียกแทนตัวเองว่า "อาตมา" และเรียกญาติโยมว่า คุณ หรือถ้ามียศ ท่านก็จะเรียกยศนำหน้าด้วย ส่วนคำตอบรับ ผมเห็นว่า พระทางเถรสมาคม จะใช้คำว่า "เจินพร" (เจริญพร) แทนคำว่า ครับ (ฆราวาสใช้คำว่า ครับ) ถูกต้องแล้ว ดีแล้ว คำว่า สาธุ ก็ไม่เห็นใช้กัน (สาธุ แปลว่า ดีแล้ว) แต่ใช้คำว่า เจินพร แทน
ถ้าสนใจจริงๆ กรุณา หาอ่านดูเรื่องราวของอโศกได้ที่
www.asoke.info
ถ้าจะให้รู้แบบขาดๆ กันไปเลย แบบว่าให้หายสงสัย ก็ไปที่พุทธสถานสันติอโศก ในกรุงเทพฯ นี่เอง ครับ ซอยสันติอโศก ถ.นวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. 10240 หรือ โทร. 0-2374-5230 ไปถามไถ่กันก่อนก็ได้ หรือจะคุยกับสมณะ สิกขมาตุทาง email ก็ได้
ktf2524@doramail.com
ppaniya@excite.com
เจียง
บัวใต้น้ำ
เข้าร่วม: 04 ต.ค. 2004
ตอบ: 118
ตอบเมื่อ: 07 ต.ค.2004, 8:59 am
อยากทราบว่าสิกขมาตุของอโศกเหมือนกันกับพระภิกษุณีหรือไม่ ถือศีล 311 ข้อหรือแค่ถือศึล 10 กันครับ
ชาวอโศก
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 07 ต.ค.2004, 3:20 pm
สิกขมาตุชาวอโศก ถือศีล 10 ไม่ใช้เงินไม่ใช้ทอง ศีล 10 นี่บิณฑบาตรได้
สิกมาตุ แปลว่า นักศึกษา (โลกุตระ) หญิง มิใช่ภิกษุณี แต่เป็นนักบวชฝ่ายหญิง
ชาวพุทธ
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 07 ต.ค.2004, 3:51 pm
กำเนิด สันติอโศก
กำเนิด พุทธสถานสันติอโศก
http://www.asoke.info/01Religion/Buddhastan/santi-asoke/index.html
Mr.Green
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 07 ต.ค.2004, 9:54 pm
มีลูกหลานติดยาเสพติด แล้วเลิกได้ ยังดีกว่ามีลูกหลานหลงผิดเป็นศิษย์ โพธิรักษ์ เพราะเขาจะเป็นพวกมิจฉาทิฏฐิไปทั้งชีวิต (ธรรมะแบบนั่งคิดเอา ดูถูกสมาธิและ วิปัสสนากรรมฐาน ไม่มีทางที่จะบรรลุธรรมได้ ผมเองได้อ่านหนังสือโลกุตตรธรรมของโพธิรักษ์แล้ว ผมว่ามันน่าจะเป็นโลกุตตระธรรม คือทำธรรมะของพุทธองค์ให้เลอะเลือนไปต่างหาก)
อิทธิกร
บัวใต้น้ำ
เข้าร่วม: 28 ส.ค. 2008
ตอบ: 137
ที่อยู่ (จังหวัด): ชลบุรี
ตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 3:01 pm
อยากรู้จัง
_________________
ชีวิตที่รู้
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
ไม่สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th