Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 บทสัมภาษณ์ ดร.อภิวัฒน์ วัฒนางกูร อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 08 ก.ค.2006, 5:31 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

บทสัมภาษณ์ ดร.อภิวัฒน์ วัฒนางกูร
บางส่วนใน นสพ.คมชัดลึก 29 ก.ย.2548

ดร.อภิวัฒน์ วัฒนางกูร หรือชื่อใหม่ว่า
ดร.วรฑา วัฒนะชยังกูร
เล่าย้อนถึงอาการก่อนหน้าเป็นมะเร็งว่า
“รู้สึกว่าเวลาเข้าห้องนํ้า ทําไมถ่ายอุจจาระไม่หมดสักที
บางที 1 นาทีก็กลับมาอีกแล้ว คือจะปวดตลอดเวลา
แต่ไม่ได้ปวดท้องนะ แค่ปวดอยากถ่าย
แล้วพบว่ามันจะมีเลือดออกมาด้วย
เวลาที่ถ่ายเป็นเลือดจะรู้สึกตกใจ
เราถึงได้ไปหาหมอ วันที่ไป
หมอก็ให้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเลย
วันรุ่งขึ้นก็ตรวจส่องกล้อง
เมื่อส่องกล้องออกมาเจอ
แล้วตัดออกมาก็ไม่พบ
แต่ผลเลือดชี้ชัดว่าเป็น
ก็ไปหาหมอที่จะผ่าตัดเรา
เข้าโรงพยาบาลวันที่ 9 – 10สิงหาคม
แต่วันที่ผ่าคือ 11 สิงหาคม ปีที่แล้ว (2547)
ตั้งแต่วันแรกที่เลือดออกจนถึงวันที่ผ่าตัดเอาออกไป 21 วัน
“การผ่าตัด เป็นทางออกที่ต้องเร่งทํา
เนื่องจากมะเร็งเป็นเซลล์ที่แบ่งตัวเร็วมาก
ซึ่งหากดูลักษณะการแพร่กระจาย
แล้วถือเป็นระยะที่ 3 เพราะเมื่อตัดลําไส้ออกไป
มะเร็งได้ลุกลามไปอยู่ที่ตับแล้ว
นั่นแสดงว่า มันไม่ได้เริ่มต้น
แต่มันมีอยู่แล้ว เพียงแต่ตรวจไม่พบเท่านั้น
ดังนั้น การรักษาต่อหลังการผ่าตัดลำไส้
คือ การใช้เคมีบําบัด ซึ่งทําให้เหนื่อย
อ่อนจนทํางานไม่ได้ นอกจากนี้ชีวิตประจําวันของเขา
ยังเปลี่ยนแปลงไปด้วย
ทุกวันนี้ ดร.วรฑา รับการรักษาด้วยวิธีฉีดยา
เข้าไปในร่างกาย เพื่อไปทําลายเส้นเลือด
ที่ต่อกับเซลล์มะเร็งโดย
จะทําทุกสัปดาห์ และให้แพทย์ดูผลใน 2 เดือน
นอกจากนี้ยังมี “ยาใจ” ที่ช่วยให้เขาดําเนินชีวิตได้
อย่างมีความสุข
โดย ดร.วรฑา เผยว่า
“เวลาที่ไปโรงพยาบาล เวลาที่เราเหนื่อยอ่อน
พ่อกับแม่ก็จะคอยประคองแล้วเดินไปด้วยกัน
เรามีความรู้สึกว่าอายุ 48 แล้วนะ
พ่อแม่ยังดูแลเราอยู่เลย แล้วพอไปถึงโรงพยาบาล
เจอคนรู้จักก็จะถามว่าพ่อ-แม่ เป็นอะไร
ไม่เคยมีใครนึกว่า พ่อแม่จะพาลูกมาโรงพยาบาล
ไม่เคยมีสิ่งไหนเลยที่จะทําให้เราท้อถอย หมดกําลังใจ
จะบอกกับตัวเองอยู่เรื่อยๆ ว่า “ต้องหาย”
เราไม่มีทางเลือกอื่น
เรากลับรู้สึกว่าเราให้ความสําคัญ
และคุณค่ากับการมีชีวิตอยู่มากขึ้นด้วยซํ้าไป
อยากมีชีวิตอยู่เพื่อดูลูกเติบโตขึ้นมา
อันนี้คือ ความรู้สึกที่ทําให้ “วรฑา” จึงต้องเกิดขึ้น
ไม่ได้คิดว่าการเปลี่ยนชื่อเป็นการแก้เคล็ด
แต่มันเปลี่ยนจากความรู้สึกที่เราเป็นคนเรียกหาเอง
“อภิวัฒน์” เขาเหนื่อยยากมามากแล้ว ให้เขาพักผ่อนเถอะ แล้วให้ “วรฑา” เขามีชีวิตใหม่

“การทุ่มเทเวลาให้กับงานจนลืมให้ความสําคัญกับตัวเอง
ไม่ใช่การใช้ชีวิตที่ถูกต้อง
เพราะเวลาที่เราเจ็บป่วย
ก็จะมีแต่คนที่เรารักเท่านั้นคอยดูแล
หากเหตุผลของการทํางานหนัก
คือเพื่อเลี้ยงดูลูกเมีย
ในที่สุดแล้วผลที่เกิดขึ้น
ก็จะมีแต่ลูกเมียเท่านั้นที่ได้รับความทุกขืนี้"

“การจัดสรรชีวิตเป็นเรื่องที่สําคัญ
โปรดรู้ไว้ว่า การนอนชดเชยไม่มีจริงในชีวิตนี้
การสูญเสียการนอนไปแล้ว
ชดเชยด้วยการนอนสองเท่าไม่ได้
นาฬิกาชีวิตมันผ่านไปแล้ว
ชีวิตในเวลานั้นๆ มันต้องพัฒนาม้าม
มันต้องพัฒนาลําไส้ เราต้องเข้าใจกลไกของชีวิต
เข้าใจกลไกของร่างกาย
เข้าใจวิธีการที่จะดูแลตัวเองให้อยู่ไปนานๆ
ทุ่มเททํางานได้ แต่อยากจะทําไปอย่างนี้ได้นานๆไหม
ถ้าอยากทําควรจะใส่ใจตัวเองให้มากกว่านี้”


คัดลอกจาก...E-Mailของคุณสุรีย์

สาธุ สาธุ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
๛ Nirvana ๛
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2006
ตอบ: 403

ตอบตอบเมื่อ: 08 ก.ค.2006, 6:45 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อนุโมทนาธรรมครับ สาธุ สาธุ สาธุ
 

_________________
ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวตำแหน่ง AIMMSN Messenger
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง