Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ช่วยด้วยค่ะ มีปัญหาครอบครัว อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ชมพู
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 30 พ.ค.2006, 12:56 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ไม่รู้ว่าจะปรึกษาปัญหากับใครดีค่ะ คือเรื่องมีอยู่ว่า ตอนนี้แม่พยายามจะหนี้ห่างจากพ่อโดย
ไปปรึกษาปัญหาครอบครัวเรากับด้วยอดีตแฟนเก่าซึ่งปัจจุบันเค้าก็มีครอบครัวแล้ว พอพ่อรู้เข้าว่าเคยไปด้วยกัน (แม่บอกน่ะค่ะ ) พ่อเค้าก็ตามแม่จนไม่เป็นอันทำงานและก็เกิดการทำร้ายร่างกายด้วยจนแม่ไม่อยากจะอยู่บ้านเลย ถ้าวันไหนลูกๆๆ ไม่อยู่พ่อก็จะพยายาม....แม่ แต่แม่ไม่ยอม เพราะแม่บอกว่าให้แยกกันอยู่ จริง ๆๆแม่ขอหย่า แต่พ่อไม่ยอม โดยพ่อให้เหตุล ว่าถ้าหย่าแล้วแม่จะไปอยู่กับคนเก่า ซึ่งเค้ามีครอบครัวแล้ว พ่อจะไม่ยอม แต่ถ้าหย่าแล้วต่างคน ต่างไม่มีใครถึงจะยอมหย่าให้ บางครั้งก็ห้ามพ่อ ว่าอยู่บ่อย ๆๆ แต่ก็พูดได้ไม่เต็มปากเพราะว่าแม่ก็ไปกับเค้าจริง ๆๆ ครั้นจะห้ามแม่ก็ไม่รู้ว่าจะบาปไหม เพราะแม่บอกว่าไม่มีอะไร แต่พ่อบอกกับเราว่า แม่เป็นคนบอกพ่อเองว่าไปด้วยกันกับคนนี้หลายครั้งแล้ว เลยไม่รู้ว่าในฐานะที่เราเป็นลูกเราจะช่วยทั้งพ่อและแม่อย่างไรดี เพราะบ้างอยากพูดไปก็เหมือนสอนสั่ง พ่อแม่ ตอนนี้เครียดมากเลย จะว่าแต่แม่ฝ่ายเดี้ยวก็ไม่ได้เพราะ พ่อก็รุนแรงเกินไปในบางครั้นจึงไม่รู้จะทำอย่างไรดี แม่ชีช่วยหนูด้วยนะค่ะเพราะแม่ชีบอกว่าต้องกตัญญูพ่อแม่ หนูอยากช่วยให้พ่อแม่พ้นทุกข์ค่ะจะทำอย่างไรดีคะ
 
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 30 พ.ค.2006, 2:01 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กราบสวัสดี คุณชมพู

คุณแม่ชีบอกถูกต้องแล้ว ก็คือต้องกตัญญูพ่อแม่ หน้าที่ของลูกคืออะไร เป็นบุตรที่ดี ตั้งใจเรียน มีงานการทำได้เงินเดือนก็แบ่งปันไปให้พ่อแม่ ไม่ทำให้พ่อแม่เดือดร้อน แต่ละคนมีกรรมเป็นของตน ยกท่านไว้ ศึกษาและฝึกปฏิบัติธรรมจะได้เป็นลูกที่ดี เป็นคนที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

เจริญในธรรม

มณี ปัทมะ ตารา
ธรรมจักร
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
เดาเอานะ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 30 พ.ค.2006, 2:24 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

--------------------------------------------------------------------------------

สวัสดี คุณชมพู

คุณได้เลือด แม่คุณมาครึ่งหนึ่ง ได้ เลือดพ่อคุณมาครึ่งหนึ่ง
คุณก็ต้องแก้ที่คุณ แก้ให้สงบ แล้วที่เหลือจะดีเอง

ปล. มีความจริงก่อน ไม่โล้เลก่อน หนักแน่นพอ แล้วจะช่วยผู้อื่นได้
 
๛ Nirvana ๛
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2006
ตอบ: 403

ตอบตอบเมื่อ: 30 พ.ค.2006, 3:58 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

บุตร ใด ชักชวนให้บิดา มารดาตั้งอยู่ในธรรม บุตรนั้นประเสริฐกว่าบุตรทั้งหลาย สาธุ

หากเราชี้แนะท่าน ในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ไม่เป็นผล ก็วางใจเป็น อุเบกขาเถอะครับ

จะทำ จะ พูด กับท่าน ด้วยเมตตาจิต เมื่อ ครอบครัวร้อน เป็น ไฟ ก็ควรทำใจเรา

ให้เย็น ความร้อนทั้งหลายจะได้ คลายลง และ ควรทำหน้าที่ ของบุตรที่ดี

ตั้ง ใจ เรียน ตั้งใจทำงาน ช่วยเบาแรงเบาใจในเรื่องที่ควรของท่าน สาธุ
 

_________________
ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวตำแหน่ง AIMMSN Messenger
สุรพงษ์
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 30 พ.ค.2006, 8:25 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ปัญหานี้น่าสนใจมากขอแนะนำตามความคิดเห็นว่า "บุคคลควรทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด"
หน้าที่ของลูกถ้ายังเด็กคือตั้งใจเรียน เป็นคนดี ถ้าทำงานแล้วคือตั้งใจทำงาน ความกตัญญูเป็นสิ่งที่ควรทำ ทำหน้าที่ของลูกให้ดีที่สุดเต็มตามกำลังความคิด ความสามารถ ผลที่เกิดขึ้นคือเราทำเต็มที่แล้ว แต่จะสำเร็จแค่ไหนไม่ใช่วิสัยที่เราจะกำหนดได้ เพราะปัญหานี้มีปัจจัยอื่นนอกจากตัวคุณเองรวมอยู่ด้วย สำคัญที่เราทำเต็มกำลังสำหรับกาย วาจา และใจ ต่อจากนั้นต้องอาศัยหลักพรหมวิหาร 4 เข้ามาพิจารณาด้วย คือเราทำด้วยความหวังดี ถ้าสำเร็จหรือไม่สำเร็จอย่างใด ก็ต้องถือหลักอุเบกขา คือไม่ต้องยินดีหรือเสียใจกับผลที่เกิดขึ้น
วิธีปฏิบัติเบื้องต้น ขอให้พร้อมด้วย ทาน ศีล ภาวนา ตื่นเช้า ใส่บาตร กระทำตนให้อยู่ในความสงบทั้งกาย วาจา ใจอยู่เสมอ ก่อนนอนให้สวดมนต์ แผ่เมตตาให้ทุกสรรพสิ่ง สำหรับพ่อแม่ลองหาหนังสือธรรมะให้ท่านอ่านดู ชวนท่านรักษาศีล "งานที่สำเร็จยาก ย่อมนำความภูมิใจให้ผู้ที่ทำสำเร็จได้มากกว่างานที่ทำได้ง่าย"
ถ้าคุณรักษาศีล 5 ในวันธรรมดา และศีล 8 ในวันพระได้ พร้อมสวดมนต์ นั่งสมาธิ แผ่เมตตาได้ทุกวันติดต่อกัน ไม่เกิน 3 เดือนผมเชื่อว่าคุณจะต้องพบแต่สิ่งดี ๆ แน่นอนครับ
 
วัชรพงษ์
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 31 พ.ค.2006, 11:05 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ซึ้ง ซึ้ง ปัญหานี้ เชื่อว่ายังมีอีกหลายๆครอบครัวที่เป็นอย่างนี้ ปรบมือ วิธีที่ดีที่สุด คงต้องเจริญพรหมวิหาร 4 ตามที่มีผู้แนะนำ โดยเฉพาะข้อที่ว่า "อุเบกขา" สาธุ เห็นใจนะครับ ท้ายสุด คงต้องปล่อยไปตามกรรม ขำ
 
ผู้รู้น้อย
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 15 พ.ค. 2006
ตอบ: 3
ที่อยู่ (จังหวัด): Bkk

ตอบตอบเมื่อ: 02 มิ.ย.2006, 1:19 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คนเราเกิดมาต่างคนก็ต่างมีปัญหาแตกต่างกันไป เราต้องพยายามฝึกจิตใจให้มีความเข้มแข็งอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้สามารถรับได้กับทุกปัญหาที่เกิดขึ้นซึ่งถ้าพิจารณาให้ดีจะเห็นว่าสิ่งต่างๆมีเกิดย่อมมีดับ ตัวปัญหาเองก็เช่นเดียวกัน มันเป็นเพียงแค่บททดสอบจิตใจเราเท่านั้น พยายามมีสติอยู่เรื่อยๆนะครับ เอาใจช่วย
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
วรากร
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 02 มิ.ย.2006, 11:27 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

มนุษย์เราเกิดมาแต่ละคนก็มีกรรมของใครของมัน เกิดมาในครอบครัวเดียวกันก็เพราะสร้างกรรมมาด้วยกัน กรรมของแต่ละคนก็แตกต่างกันไปตามกำลัง ผู้ที่สามารถเข้าใจในธรรมชาติของมันว่า ไม่มีอะไรคงอยู่ตลอกกาลได้ เขาผู้นั้นก็จะไม่ยึดติดในสิ่งที่เกิดขี้น

ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขี้นนี้ ผู้ที่สามารถแก้ปัญหาได้ดีที่สุดก็คือ พ่อและแม่ของนั้นเอง พ่อหยุด แม่ไม่หยุด ก็ไม่มีวันหยุด พ่อไม่หยุด แม่หยุด ก็ไม่มีวันหยุด ด้วยว่ากรรมครั้งนี้มันเกียวดองกันอยู่ เราก็เหมือนคนกลาง มีแต่โดนกับโดน หากเข้าไปขวาง แต่หากไม่ขวางเราก็โดน เหมือนกัน มันกระทบกันไปหมด ก็คงให้คำแนะนำว่า ขอให้อดทนต่อไป อย่าได้ท้อในการแสดงความกตัญญูครั้งนี้ ขอให้เรามองอย่างเดียวว่า ไม่มีใครถูกหรือผิดในเหตุการณ์ครั้งนี้ เราจะได้สามารถทำหน้าที่ของลูกที่ดีต่อไป

จงจำไว้ว่า สิ่งดี หรือสิ่งไม่ดีนั่นเกิดจากเราสร้าง แต่สองสิ่งนี้มันไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป มันคงเกิดสลับกันไปไม่สิ่นสุด ตราบใดที่เรายังต้องเกิด

พายุไม่เคยบอกว่าจะมาเมื่อไร และไปเมื่อไร มันมาและก็ไปตามธรรมชาติของมัน จงพิจารณาให้ดี อย่าจับไปทางใดทางหนึ่ง ไม่ต้องหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร ไม่ต้องไปรอว่าเมื่อไรมันจะหยุด หากเรายอมรับความเป็นจริงของธรรมชาติทั้งมวลได้ ความสุขที่แท้จริงได้เกิดขึ้นแล้ว
 
ทางหนึ่ง
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 02 มิ.ย.2006, 2:21 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กำหนดให้เห็นว่าทุกข์ครอบครัวเรา ว่ามีเหตุปัจจัยมาจากอะไร? (คิดซะว่าท่านทั้งสองคงมีกรรมร่วมกันมาแบบนี้) ส่วนใหญ่ตัณหาและอารมณ์มักทำให้มืดบอด และอย่าลืมย้อนมาสอนตนด้วยนะ หากเรามีครอบครัวเราจะไม่ประพฤติปฏิบัติเช่นนี้ มนุษย์เราเกิดมาแต่วิบากกรรม หมั่นสร้างความดีให้มาก ๆ เพราะเป็นลูกต้องกล่าววาจาไพเราะ มีสัมมาคารวะ ไม่ทำให้พ่อแม่เสียใจ ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ไหว้พระสวดมนต์ แผ่เมตตา และรักแม่ให้มาก ๆ เผื่อแม่จะคิดได้บ้างว่าชีวิตทุกคนส่วนใหญ่ก็มีปัญหา แต่ทางออกของปัญหา ต้องใช้สติพิจารณาให้รอบคอบ....ไม่ใช่ทิ้งปัญหานี้ ไปสร้างปัญหาใหม่....แบบนี้ไม่มีวันจบ.
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง