ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
ใฝ่ธรรมะ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
30 พ.ค.2006, 7:55 am |
  |
อยากทราบว่าอานาปานสติแบบสมบูรณ์16 ขั้น ต่างจากสติปัฏฐาน 4 อย่างไร
เนื่องจากอานาปานสติ ก็มีทั้งกาย เวทนา จิต และธรรม เช่นเดียวกับสติปัฏฐาน 4 ซึ่งคล้ายกันมาก
และอานิสงส์ก็เหมือนกันคือ บรรลุเป็นพระอรหันต์และพระอนาคามี |
|
|
|
|
 |
แวะมาแจม
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
30 พ.ค.2006, 8:52 am |
  |
น่าจะเหมือนกัน ต่างกันที่วิธีพิจารณา
แต่มองว่า การเริ่ม ที่ สติ กับ เริ่มที่ สมาธิ ก็ ผล เหมือนกัน
แต่การเน้น สติ จะมีการปรับแต่งอินทรีย์มาก
แต่การเน้น สมาธิ จะเป็นการเรื่องของทฤษฏีการ พิจารณา |
|
|
|
|
 |
ภูเขาน้ำแข็ง
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 13 พ.ค. 2006
ตอบ: 46
|
ตอบเมื่อ:
30 พ.ค.2006, 11:59 am |
  |
อานาปานสติ ต่างจากสติปัฏฐาน 4 อย่างไร - ไม่ต่างนะ
หรือ แม้แต่ อานาปานสติ กับ วิปัสสนา ก้อไม่ต่างกัน เพราะ ทั้ง 2 หลักนี้ ต้องใช้รวมกัน
ถึงจะบรรลุเป้นอรหันต์ได้
แต่ถ้า เราปฏิบัติ แต่ อานาปานสติ อย่างเดียว จะไม่สามารถ บรรลุอรหันต์ได้ หรือ
วิปัสสนา อย่างเดียว ก้อไม่สามารถปรรลุอรหันต์ได้ เหมือนกัน
ดังนั้นทั้ง 2 ตัว ต้องมา เป้น 1 ถึงจะบรรลุนิพพานได้
 |
|
_________________ อย่าดับความอยากด้วยการสนอง จงดับโดยวางเฉย |
|
  |
 |
นนท์
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
01 มิ.ย.2006, 1:01 pm |
  |
สมถะ คือ การทำให้จิตสงบระงับจากกิเลสเครื่องเศร้าหมองเร่าร้อนทั้งหลาย จนจิตใจไม่มีอาการดิ้นรน ไม่กระสับกระส่ายตลอดเวลาที่กิเลสเหล่านั้นสงบระงับอยู่ อุบายหรือวิธีการนั้นก็ได้แก่ การเจริญกัมมัฏฐาน การเพ่งกัมมัฏฐาน คือ หน่วงเอากัมมัฏฐานมาเป็นอารมณ์สำหรับเพ่ง
วิปัสสนากัมมัฏฐาน แปลว่า อารมณ์อันเป็นที่ตั้งแห่งการงานทางใจที่จะให้เห็นแจ้ง ซึ่งมีความหมายว่า ให้เห็นแจ้ง รูปนาม ให้เห็นแจ้ง ไตรลักษณ์ ให้เห็นแจ้ง อริยสัจจ ให้เห็นแจ้ง มัคค ผล นิพพาน
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าต่างกับ สมถกัมมัฏฐาน เพราะสมถกัมมัฏฐานเป็นเพียงอารมณ์อันเป็นที่ตั้งแห่งการงานทางใจ ที่จะให้เกิดความสงบ แต่อย่างเดียวเท่านั้น ไม่ถึงกับให้เกิดปัญญาเห็นแจ้ง ดังที่กล่าวนี้ด้วย บ้างก็กล่าวสั้น ๆ ว่า
สมถะเป็นอุบายสงบใจ วิปัสสนาเป็นอุบายเรืองปัญญา
อานาปานสติ นี้เจริญได้ทั้งสมถภาวนาและวิปัสสนาภาวนา กล่าวคือ ถ้ากำหนดพิจารณาลมหายใจเข้า ลมหายใจออก โดยถือเอาบัญญัติ คือลม เป็นที่ตั้งแห่งการเพ่ง เพื่อให้ได้ฌาน ก็เป็นสมถภาวนา แต่ถ้ากำหนดพิจารณาความร้อนเย็นของลมหายใจที่กระทบริมฝีปากบน หรือ ที่ปลายจมูก เพื่อให้เห็นรูปธรรม ตลอดจนไตรลักษณ์ ก็เป็นวิปัสสนาภาวนา |
|
|
|
|
 |
mw user
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 25 ส.ค. 2006
ตอบ: 20
ที่อยู่ (จังหวัด): ปทุมธานี
|
ตอบเมื่อ:
26 ส.ค. 2006, 8:38 pm |
  |
ผมมีเสียง
อานาปานสติภาวนา
สดจากพระไตรใฟ้ฟังด้วยนะครับ |
|
_________________ เตือนตัวเองแค่ว่า
* ต้องเข้าถึงพุทธธรรมด้วยสติเท่านั้น ไม่เพียงแค่เรียนรู้
* อย่าให้ตัวเองตำหนิตัวเองได้ว่า รู้ทางแล้วไม่บอกใคร
สํโยคปรมาเตฺวว ภวนฺตุ สุขิตตฺตา
เสียง พระอภิธรรม |
|
   |
 |
walaiporn
บัวบาน

เข้าร่วม: 02 ก.ค. 2006
ตอบ: 253
ที่อยู่ (จังหวัด): สมุทรปราการ
|
ตอบเมื่อ:
03 ก.ย. 2006, 12:37 am |
  |
โอวาทพระญาณวิศิษฏ์
เรื่อง การภาวนา
ต่อไปนี้ก็จะได้พูดถึงบางสิ่งบางประการ เพื่อผู้ที่มาใหม่ ปฏิบัติใหม่ จะได้ถือเอาหลักของ
การปฏิบัติ โดยเฉพาะจิตใจเกี่ยวกับเรื่องการภาวนา
หลักของการภาวนาในทางจิตใจนั้น พระพุทธเจ้าแสดงไว้ถึง40ข้อ เป็นอุบายสงบใจ แต่ว่า
ผู้ศึกษาและปฏิบัติทั้งหลายนั้น ได้โปรดทราบไว้ว่า การเจริญนั้นไม่ได้เจริญทั้ง40ข้อ
เราเจริญกันจริงๆนั้นเพียงข้อเดียว ก็เป็นอุบายที่จะสงบใจของเราได้
เพราะฉะนั้นในสำนักหรือวัดของเรา ก็ถือหลักการปฏิบัติประจำคือ " อาปานสติ "
แปลว่า ลมหายใจเข้า-ออก ซึ่งเป็นธรรมชาติที่มีอยู่ ลมนั้นก็คือกาย เพราะฉะนั้น
เราเจริญอานาปนสติ ก็เท่ากับเราเจริญสติปัฏฐาน4นั่นเอง เรียกว่า กาย เวทนา จิต ธรรม
เราผู้ปฏิบัติทั้งหลาย อย่ามัวไปสงสัย ปลิโพธกังวลอยู่ว่า เราจะเจริญกัมมัฏฐานบทไหน
มันจึงจะสงบดี สงบง่าย รู้เห็นได้ง่าย ไม่ต้องไปคำนึง ก่อนอื่นนั้นความรู้ความเห็นนั้น
มันอยู่กับความจริง การทำจริงของเรา ไม่ว่าเจริญบทไหนถ้ามันไม่มีความจริงแล้วน่ะ
มันไม่เป็นไปทั้งนั้น ยากทั้งนั้น |
|
_________________ ไม่มีคำว่าทำไม่ได้ หากเราพยายามทำและตั้งใจทำอย่างต่อเนื่อง |
|
  |
 |
|