Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ไม่รู้ทำงัย... อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
นก
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 05 เม.ย.2006, 10:06 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ย่าของฉันท่านอายุประมาณ 90 ปีได้แต่สุขภาพแข็งแรง แต่มาช่วงปี 48-49 มานี้ท่านจะคิดว่ามีผีตายโหงมาหลอกหลอนเขาตอนกลางคืน เกือบทุกคืนก็จะตะโกนเสียงดังไล่ผีให้ไป พอหลังจากนั้นก็จะนั่งด่าคนในบ้านทุกคน (ที่ใช้คำว่าด่าเพราะท่านจะใช้คำหยาบคายมาก) พ่อ,แม่,น้อง,และตัวฉันก็จะโดนกันหมดหาว่าไปทำคุณไสยใส่ท่านบ้าง แต่ทุกคนไม่เคยเถียงหรือโต้ตอบนอกจากจะพูดให้ท่านหยุดบ้างเพราะท่านด่าว่าคนในบ้านได้เป็นวัน ๆ พอด่าเสร็จก็สาปแช่งคนในบ้านว่าขออย่าให้เจริญเลย ทำอะไรไม่ขึ้นบ้างให้ไม่มีงาน ให้โดนไล่ออกบ้าง ถ้าเป็นอย่างนี้ฉันควรจะทำอย่างไรคะ เพราะคนในบ้านทุกคนพูดแล้วท่านก็ไม่ฟัง แต่ทุกคนในบ้านไม่เคยทำคุณไสยใส่ท่านไม่เคยทำอะไรเลย เหมือนท่านหลงและกลัวว่าคนในบ้านจะไปเอาสมบัติท่าน
 
ภูเขาไฟ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 05 เม.ย.2006, 10:23 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สงสัย เราว่า ความเชื่อของคน เปลี่ยนยากที่สุด อาจจะเป้น กรรมเวงของท่านก้อได้นะ
อายหน้าแดง ทำบุญให้ ท่าน บ่อยๆ พาท่านไปวัดฟังธรรม อาจจะทำให้สภาวะจิตใจ
ของย่าคุณ ดีขึ้นก้อได้



สาธุ
 
pongsakorn28287
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 23 พ.ย. 2004
ตอบ: 42
ที่อยู่ (จังหวัด): จ.เชียงใหม่

ตอบตอบเมื่อ: 05 เม.ย.2006, 1:14 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เศร้า
 

_________________
ยัง กัมมัง กะริสสันติ ใครทำกรรมใดไว้
กัลละยานัง วา ปาปะกัง วา ดีหรือชั่วก็ตาม
ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ ย่อมได้รับผลของกรรมนั้นๆ ต่อไป
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 05 เม.ย.2006, 1:43 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กราบสวัสดี คุณนก

เรื่อง "เจริญอายุ"

ธมฺโมสถ รักษานามธรรม



การที่บุคคลมีอายุยืนยาวนั้น ถ้ายืนยาวอยู่ด้วยความหลงใหล กินแล้วก็ว่าไม่ได้กิน นอนแล้วก็ว่าไม่ได้นอน เป็นต้น ย่อมชวนให้เห็นว่าเป็นชีวิตทรมาน ไม่ได้รับผลเป็นความผาสุกเพราะอายุยืนเลย กลับจะเป็นการทนทุกข์ทรมานแก่ตนเอง และเป็นที่อิดหนาระอาใจของลูกหลานผู้ปฏิบัติ กลับเป็นเช่นเด็กไร้เดียงสาลำบากแก่ผู้เลี้ยงดูยิ่งเสียกว่าเด็กเล็กๆเป็นไหนๆ เด็กซุกซนดื้อดึงผู้เลี้ยงอาจจะว่ากล่าวเฆี่ยนตีได้ ส่วนคนแก่ที่เป็นปู่ย่าตายาย ผู้เลี้ยงจะทำเช่นนั้นไม่ได้ ฉะนั้นการที่มีอายุยืนยาว และมีสติดีไม่หลงใหลเลอะเลือน จึงนับว่าเป็นลาภอันประเสริฐ ท่านแสดงว่าเป็นผลานิสงส์ของเมตตาจิต ไม่คิดประทุษร้ายฆ่าสัตว์ตัดชีวิตผู้อื่นโดยแท้ สมตามกระแสพระพุทธภาษิตที่ตรัสไว้ ใจความว่า.-



"บุคคลเป็นผู้ละเว้นจากปาณาติบาต มีความละอาย มีความเอ็นดู อนุเคราะห์เกื้อกูลในสัตว์ทั้งปวง ครั้นตายไปแล้ว ย่อมเกิดในสุคติโลกสวรรค์ ถ้ามาเกิดในโลกมนุษย์ในที่ใดๆจักเป็นผู้มีอายุยืนยาว และเพราะไม่ดื่มสุราเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ย่อมเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะมั่นคงไม่หลงลืม ดังนี้"



การที่มีอายุยืนยาวและไม่มีการหลงลืม นับเป็นผลแห่งกุศลกรรมที่บำเพ็ญมาแล้วในอดีตชาติ มาส่งผลตามนัยแห่งจูฬกรรมวิภังคสูตรแล้ว จึงเป็นเหตุก่อให้เกิดปิติยินดีในความผาสุกยืนยาวมา ทำให้ปรารภการฉลองสมโภชในคราวครบรอบปีบ้าง ครบ50-60ปีบ้าง เหมือนเป็นการเพิ่มพูนกุศลสัมมาปฏิบัติให้ภิญโญยิ่งขึ้นทั้งส่วนตนเองและลูกหลาน นับเป็นการสมควรโดยแท้ แต่การบำเพ็ญกุศลฉลองนี้ ควรสันนิษฐานว่าเป็นการสมโภชฉลองเพื่อต้อนรับอายุที่ยืนยาวต่อไปข้างหน้า เพราะอายุที่ล่วงมาได้ นับว่าเป็นส่วนเสียที่ล่วงพ้นผ่านไปแล้วเรียกกลับคืนมาอีกไม่ได้ ท่านจึงเรียกว่า "วัย คือ ความเสื่อม" ท่านปันระยะชีวิตของบุคคลที่สามารถเจริญล่วงพ้นผ่านวัยคือความเสื่อมไว้อย่างมากคนละ 3วัย ไม่เกินกว่านี้



ความเสื่อมตอนต้น เรียกว่า ปฐมวัย

ความเสื่อมตอนกลาง เรียกว่า มัชฌิมวัย

ความเสื่อมตอนสุด เรียกว่า ปัจฉิมวัย



ฉะนั้น อายุที่ล่วงไปแล้วจึงเป็นส่วนเสื่อม ไม่ใช่ส่วนเจริญ ส่วนที่จะได้ต่อไปนับว่าเป็นส่วนเจริญ ส่วนเสื่อมในเรื่องอายุยิ่งมาเท่าใด ดูเป็นที่พอใจว่าเป็นผู้มีอายุยืนนิยมชมชื่นกันเท่านั้น ในทางธรรมท่านไม่นิยม เพราะเป็นส่วนที่ล่วงพ้นไปแล้ว ไม่ย้อนกลับมาอีก แต่ก็ให้ถือเป็นเครื่องเตือนใจกันความประมาทได้ประการหนึ่งเหมือนกันว่า มีอายุเข้าขีดปัจฉิมวัย คือถึงความเสื่อมสุดแล้ว ไม่ควรจะหลงมัวเมาประมาทปล่อยชีวิตให้เกลือกกลั้วอยู่กับอกุศลทุจริต อบายมุขต่างๆอยู่อีกเป็นวัยสุดท้าย ไม่มีวัยจะเจริญแก้ตัวอีกแล้ว ซึ่งมักจะพูดกันติดปากว่าไม้ใกล้ฝั่ง ถ้าเป็นผู้มีชีวิตมืดมนอยู่ด้วยบาปอกุศลกรรม ก็ควรจักได้กลับตัวแก้ไขชีวิตนั้น ให้สว่างด้วยบุญทานเป็นอย่างน้อย จะได้ชื่อว่า มืดมาแล้วแต่สว่างกลับไป ถ้าเจริญอายุเข้าปัจฉิมวัยแล้วยังหมกมุ่นด้วยบาปทุจริตกลับแก้ตัวไม่ได้ ก็เที่ยงแท้ที่จะต้องเป็นผู้ถูกตำหนิว่า มืดมาแล้วกลับมืดไปอีก เสียเวลาที่มีชีวิตอยู่ที่รกโลก ทำลายชีวิตตนเองให้ตกต่ำ ซ้ำยังชื่อว่าทิ้งรอยความเสียหายให้แก่อนุชนของตนอีกด้วย


อ่านต่อตามลิ้งค์ข้างล่างนะจ๊ะคนดี

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=3403
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
neoman
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 26 ก.พ. 2006
ตอบ: 64

ตอบตอบเมื่อ: 05 เม.ย.2006, 10:30 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ฟังจากอาการ ...คุณย่าของคุณ น่าจะเคยทำกรรม ขั้นร้ายแรงมาแล้วครับ สมัยเป็นสาวๆ หรือวัยกลางคน

อาการแบบนี้ บอกลางว่าไม่ดีแล้วล่ะครับ เมื่อถึงเวลาหมดอายุ ย่าคุณอาจสิ้นใจโดยไม่มีสติ และอาจไปเกิดในภพที่ไม่ดีได้ง่าย
ขออภัยนะครับ... ย่าคุณ (อาจจะ) เคยฆ่ามนุษย์มาแล้วครับ อาจเป็นมนุษย์ในครรภ์ หรือนอกครรภ์ก็ตาม
และการฆ่านั้น อาจจะเป็นเพราะชื่อเสียง หรือเงินทอง ก็ได้....
ท่านจึงแสดงอาการแบบที่คุณบอก แถมตอนนี้ท่านอายุมากแล้วด้วย การจะไปตักเตือนให้ท่านมีสติคงจะยากน่าดู
แต่ถ้าสงสารท่าน ก็ขอแนะนำให้พยามทำครับ เช่น พาท่านออกไปตักบาตรตอนเช้า พาท่านไปถวายสังฆทาน เป็นต้นฯ
เพื่อให้ท่านระลึกถึงบุญ และมีจิตแช่มชื่นในบุญ จะได้ไม่คิด หรือเพ้อถึงบุพพกรรมในอดีตอีก
น่าจะช่วยได้ระดับหนึ่งครับ.................

ผมเคยเห็นหญิงชราคนหนึ่ง อายุ 90 กว่า เหมือนกัน
ก่อนที่ท่านจะตาย ท่านบ่นออกมาให้ได้ยินบ่อยๆ ว่า... จะไปหาแม่....
คิดดูสิครับ คนอายุ 90 กว่า แต่บอกอยากไปหาแม่... นี่ก็เป็นลางแล้วว่าท่านจะจากไป
อีกไม่นาน ท่านก็จากไปจริงๆ ครับ

ขอให้คุณช่วยคุณย่า ให้ดีที่สุดครับ สงสารท่าน.... ถ้าเราทำสำเร็จก็จะเป็นบุญเราด้วย
 

_________________
ความสุขหรือความทุกข์ อยู่ใจเราจะคิดเอา ถ้าคิดว่าสุขก็สุข ถ้าคิดว่าทุกข์ก็ทุกข์.
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
๛ Nirvana ๛
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2006
ตอบ: 403

ตอบตอบเมื่อ: 10 เม.ย.2006, 10:50 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ถึง คุณ นก ครับ ธรรมชาติของคนเราไม่เหมือนกัน ตถตา เพราะคนเราทำกรรมมาไม่เหมือนกัน คุณย่าท่าน คงไม่ได้ ฝึก สติ เจริญสมาธิ จึงทำให้มีอารมณ์ รุนแรงเช่น นี้ ยังไงก็ขอให้คุณ นก
ปฏิบัติ ต่อท่านด้วยเมตตา จิต จะคิดกับท่านก็คิดด้วยเมตตา จะพูดกับท่านก็พูดด้วยเมตตา แผ่เมตาไปยังท่านบ่อยๆ อย่า ไปถือเอา อาการของท่าน เลยครับ ถ้า ทุกคนในบ้านทำเช่นนี้เช่นนี้ ทุกอย่างจะดีขึ้นเองครับ ถ้า หาก เปิดวิทยุธรรมะให้ท่านฟัง พาท่านตักบาตรทำบุญจะดียิ่งครับ
ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน
 

_________________
ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวตำแหน่ง AIMMSN Messenger
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 12 เม.ย.2006, 11:36 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สงสารท่านนะครับ แต่ท่านก็อายุมากแล้วด้วย เป็นธรรมดาที่ร่างกายคนเราย่อมเสื่อมไปตามวัย ในเบื้องต้นไม่ทราบว่าได้ไปปรึกษาแพทย์ด้านระบบประสาท หรือพาท่านไปพบแพทย์หรือยัง บางครั้งก็จำเป็นต้องใช้ยาแผนปัจจุบันเข้าช่วย ถึงแม้ว่าจะเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ แต่ก็น่าจะทำให้ท่านสบายขึ้นบ้าง

อนุโมทนา กับคุณนกที่มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ขอเป็นกำลังใจให้ท่านหายเป็นปกติสุขในเร็ววันด้วยครับ
 
kt13
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 11 พ.ค. 2005
ตอบ: 18

ตอบตอบเมื่อ: 12 เม.ย.2006, 10:48 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อิอิ ไม่ต้องทำอะไรครับ อิอิ

จงมองดูยายุณเวลาเกิดอาการแบบนี้ให้ดีเถิด

ดูให้ดี พิจรณาให้ดี

สิ่งที่คิดว่าไม่ดี หรือไม่มีประโยชน์นั้น สำหรับผู้มีสติปัญญานั้น สามารถใช้งานสิ่งนั้นไห้เกิดประโยชน์ได้เสมอ

จบเป้นผู้มีสติปัญญาเถิด
 

_________________
ความสุข คือความสงบ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง