Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
คืนนี้ได้ดูรายการเรื่องจริงผ่านจอ เกี่ยวกับเด็กหนุ่มที่นั่งส
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
new
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 532
ตอบเมื่อ: 26 ม.ค. 2006, 11:19 pm
เด็กหนุ่มที่นั่งสมาธิที่เนปาล จนเป็นข่าวโด่งดัง จนมีคนตั้งข้อสงสัยว่าเป็นไปได้หรือที่จะนั่งได้นานขนาดนั้น โดยที่ไม่ได้กินอาหารและน้ำเลย
ฟังจากรายการก็มีผู้ที่ให้คำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้
ฝ่ายหนึ่งมีความรุ้ในทางวิทยาศาสตร์ บอกว่า เป็นไปไม่ได้ในทางวิทยาศาสตร์ ที่จะอดข้าวอดน้ำได้นานขนาดนี้
อีกฝ่ายหนึ่งเป็นพระ บอกว่าสามารถที่จะเป็นไปได้ ในทางพุทธศาสนา บอกว่าสามารถอยู่ได้ด้วยปีติ การเข้าสมาธิลึก ๆ
ผมเคยได้ยินได้อ่านมาเกี่ยวกับผู้ที่นั่งสมาธินาน ๆ ถึงขั้นฌาน นั้น สามารถนั่งได้นานเป็นเดือน ๆ
และผมก็เชื่อว่า เหตุผลนี้สามารถเป็นไปได้
เมื่อเรานั่งสมาธินานๆ ร่างกายก็จะมีการเผาผลาญน้อยลง
และมีผู้ที่ให้ความเห็นเกี่ยวกับ การเข้านิโรธสมาบัติด้วย ว่า การเข้านิโรธสมาบัตินั้น ร่างกายสามารถอยู่ได้ แต่การเข้านิโรธสมาบัติจะต้องเป็นระดับ พระอนาคามี จนถึงพระอรหันต์
ท่าน ๆ มีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรบ้างครับ
ที่ผมดูรายการนี มีคนให้ความเห็นว่า ไม่น่าเป็นไปได้ เป็นเรื่องหลอกลวง แต่บางคนก็เชื่อ แต่สำหรับผมแล้วฟังหูไว้หู แต่ก็คิดว่าน่าจะเป็นไปได้ที่คนเราสามารถนั่งสมาธิได้นาน ๆ โดยไม่จำเป็นต้องกินอาหาร
และถ้าหนุ่มคนนี้นั่งได้ด้วยใจที่บริสุทธิ์ก็น่าอนุโมทนาในบุญนี้ด้วย
TU
บัวทอง
เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 1589
ตอบเมื่อ: 27 ม.ค. 2006, 2:44 am
ขอให้เวลาเป็นเครื่องตัดสินอุปนิสัย และอัธยาศัยของคน
ขอให้ดูไปนานๆ ค่ะ
ปุ๋ย
บัวเงิน
เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
ตอบเมื่อ: 27 ม.ค. 2006, 3:21 am
กราบสวัสดี คุณnew
ในบทความเรื่อง "การฝึกจิตให้เป็นสมาธิ ตอนที่ ๒" ของ พลตำรวจตรี สุชาติ เผือกสกนธ์ กล่าวถึงเรื่องของ "อรูป" เอาไว้ว่า
"....เราไม่สามารถไประงับยับยั้งการเกิดดับของจิตได้ เพราะเป็นธรรมชาติของจิต และตราบใดที่เรายังไม่สามารถปฏิบัติสมถกัมมัฏฐานจนถึงขั้นอรูปฌาณ หรือ ฌาณสมาบัติ ๘ เราก็ไม่สามารถระงับยับยั้งการทำงานของเจตสิกได้
ตามหลักวิชาพุทธศาสตร์ เมื่อเราสามารถปฏิบัติสมาธิได้จนถึงขั้นดังกล่าว หรือสูงกว่า ซึ่งเป็นขั้นสุดท้ายคือ ขั้นที่ ๙ ที่เรียกว่า "สัญญาเวทยิตนิโรธ หรือ นิโรธสมาบัติ" ซึ่งเป็นภาวะที่สัญญาเจตสิก (ความจำ) และเวทนาเจตสิก (อารมณ์) หยุดการปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้น องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงได้ทรงสมมุตินามบัญญัติคำว่า "อรูป" ซึ่งแปลว่า "ไม่มีรูป ไม่มีกาย" สำหรับกรณีนี้ขึ้น เนื่องจาก ในช่วงเวลานี้ อวัยวะของร่างกายที่เป็นกลไกทำงานของเจตสิก คือ สมอง หรือ หทัยวัตถุ จะหยุดการทำงานไปในช่วงเวลาที่จิตกำลังเป็นสมาธิ อยู่ในฌาณสมาบัติระดับนี้
ก่อนที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะทรงตรัสรู้ พระองค์ท่านได้ทรงศึกษาหาความรู้จากพระอุททกดาบสรามบุตร พระอาจารย์ที่เก่งที่สุดในขณะนั้น จนทรงสามารถปฏิบัติสมถสมาธิได้บรรลุถึงฌาณสมาบัติ ๘ หรือ อรูปฌาณ ๔ มาแล้ว แต่ได้ทรงพิจารณาเห็นว่า เป็นทางปฏิบัติที่ไปสุดสิ้นเพียงโลกิยธรรมเท่านั้น กล่าวคือ เมื่อจิตถอนออกจากสมาธิ หรือ ฌาณสมาบัติแล้ว ก็ยังต้องกลับมาเผชิญกับปัญหาทางโลกอีกต่อไป จึงทรงวินิจฉัยว่า วิธีการนี้มิใช่เป็นทางปฏิบัติที่จะดับทุกข์ ซึ่งเป็นทางเข้าสู่พระนิพพานได้ พระพุทธองค์จึงได้ทรงเปลี่ยนไปปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานแทน....."
ได้ดูภาพขณะที่กล้องจับอย่างไม่ให้คลาดสายตา และจากประสบการณ์ที่ได้เข้าปฏิบัติธรรม 7 วัน กับครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งที่จังหวัดระยอง ขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวว่า เป็นไปได้ที่เด็กหนุ่มที่นั่งสมาธิที่เนปาลนั้น จะนั่งได้นานโดยที่ไม่ได้ทานอาหารหรือน้ำเลย ทีนี้นั่งนานๆในช่วงสมถกรรมฐานนี่ ไม่ใช่ทนนั่งหรือฝืนนั่งไปอย่างนั้นแน่นอน เพราะสังเกตได้จากอาการสั่นและกระตุกตามส่วนต่างๆร่างกายของเด็กหนุ่มขณะที่กล้องจับภาพอย่างไม่ให้คลาดสายตา ซึ่งรายละเอียดของอาการสั่นและกระตุกนี่สอบถามได้จากวิปัสสนาจารย์แนวยุบหนอ พองหนอ เมื่อมีการสอบอารมณ์หลังจากถอยออกจากการปฏิบัติ ท่านจะให้คำตอบได้ดีว่าหมายถึงอะไร
ทีนี้เรื่องทานอาหารและน้ำนี่ ผู้ปฏิบัติท่านจะทราบด้วยตัวท่านดีว่า การเข้ากรรมฐานเป็นเวลานานนี่ ก่อนจะเข้ากรรมฐานเป็นเวลาหลายชั่วโมง หรือหลายวัน จะรับอาหารและน้ำเกินกว่าความจำเป็นของร่างกายไม่ได้ คือมันอัตโนมัติไปเอง คือมันจะดำเนินไปเรื่อยจนรับได้ไม่กี่คำ น้ำก็พอแค่ชุ่มปาก รับมากกว่านั้นไม่ได้ เหมือนรอบของสภาวะที่ร่างกายเตรียมพร้อมไปโดยอัตโนมัติ บางท่านแทบไม่มีการเตรียมการณ์ว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ คือถึงรอบแห่งการปฏิบัติที่สะสมมาก็จะทราบได้ด้วยตนเอง
ทีนี้นั่งนี่มันไม่ได้นั่งเป็นหิน มันต้องมีการปรับสภาวะของธาตุในให้สมดุลกับธาตุนอกตลอดเวลา อากาศร้อนมากลมพัดมาหรือไม่มีลมพัด ก็จะสามารถปรับเอาลมเย็นอ่อนๆที่ไหลเวียนอยู่รอบๆตัวเข้ามาปรับสภาวะภายในกายให้เย็นได้ อากาศหนาวก็จะปรับให้อุ่นจากแสงแดดที่เข้ามากระทบตามผิวหนังให้ซึมเข้าไปทั่วทุกอณู หรือแม้แต่การฝึกกำหนดจิตไว้ที่กึ่งกลางอก การหายใจในอกอย่างแผ่วเบาก็สร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกายได้เช่นกัน
นั่งอยู่นี่ ไม่หิวหรอก มันอิ่ม มันสุข ปรับเข้าปรับออก แล้วก็หาย หายนี่มันมีรู้สึกตัวกับไม่รู้สึกตัว แรกๆมันจะสะสมรอบหายซึ่งไม่นานเท่าไหร่ บ่อยๆเข้าอย่างนั่งนานๆอย่างเด็กนี่ มันสะสมมากเข้า หายก็หายไปหลายวัน อย่างเราๆท่านๆมีภาระกิจต้องทำ มันจะสะสมจากการนั่งสมาธิในแต่ละวันนั่นแหละ นั่งวันนึงสองชั่วโมง เวลาหายก็หายไปสองชั่วโมง นั่งทั้งวัน มันก็หายไปทั้งวัน ไม่ต้องทำอะไร เรียกก็ไม่ได้ยินหรอก
ทีนี้คนที่ฝึกมาทุกอิริยาบทนี่ เวลามันได้รอบ มันก็ถึงรอบทุกอิริยาบทพร้อมๆกัน ยืน เดิน นั่ง นอน ดับหมด วันเดียวกันแต่จะมีอิริยาบทเด่นที่เป็นตัวนำก่อนที่แต่ละบุคคลนั้นถูกกับจริต ก็เป็นไปได้นะ เพราะจะไม่ต้องการอาหารและน้ำเลย แต่อย่าให้ออกมานะ มันก็หิวเหมือนเดิมนั่นแหละ
เจริญในธรรม
มณี ปัทมะ ตารา
เจไอเอบี
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 27 ม.ค. 2006, 7:46 am
สาธุ กับทุกคำตอบ
pongsakorn28287
บัวใต้ดิน
เข้าร่วม: 23 พ.ย. 2004
ตอบ: 42
ที่อยู่ (จังหวัด): จ.เชียงใหม่
ตอบเมื่อ: 27 ม.ค. 2006, 11:49 am
new
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 532
ตอบเมื่อ: 30 ม.ค. 2006, 8:39 pm
ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบครับ คุณปุ๋ย หามาให้อ่านได้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มากครับ
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
ไม่สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th