Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
ถูกนินทาว่าร้าย คิดอย่างไรจึงจะหายทุกข์
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ต้นข้าว
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 29 พ.ย.2005, 8:27 am
ถูกนินทาว่าร้าย คิดอย่างไรจึงจะหายทุกข์
--------------------------------------------------------------------------------
1. เป็นธรรมดาของโลก ให้คิดว่านี่เป็นธรรมดาของโลก ไม่เคยมีใครสักคนบนโลกนี้ที่รอดพ้นจากคำนินทา เพราะแม้แต่พระพุทธเจ้าของเรา ขนาดท่านเป็นผู้ที่ประเสริฐบริสุทธิ์สูงสุด แต่ท่านก็ยังไม่พ้นถูกคนพาลกล่าวโจมตีว่าร้ายจนได้ แล้วนับประสาอะไรกับเราที่เป็นแค่คนธรรมดาสามัญที่ยังมีทั้งดีและชั่วจะรอดพ้นปากคนนินทาไปได้ คิดอย่างนี้แล้วจะได้สบายใจว่า การถูกนินทานี่เป็นแค่เรื่องธรรมดา เกิดขึ้นมาพร้อมกับโลก (โลกธรรม) และ ยังคงมีอยู่ต่อไปตราบชั่วฟ้าดินสลาย
2. ให้มีจิตใจมั่นคงดุจภูผา ถ้าเรามีความบริสุทธิ์ใจ ทำการงานด้วยความตั้งใจปรารถนาดี แต่แล้วก็ยังไม่พ้นถูกคนนินทา กล่าวร้ายว่าอย่างนั้นอย่างนี้ ก็ขอให้เรามีความมั่นใจในความดีของเรา อุปมาภูผาหินแท่งตันไม่หวั่นไหวในลมพายุฉันใด บัณฑิตผู้มีจิตใจหนักแน่นในความดี ย่อมไม่หวั่นไหวในคำสรรเสริญ และ คำนินทาแม้ฉันนั้น
3. ให้มีจิตเมตตาสงสารผู้นินทา ให้คิดด้วยความเมตตากรุณาว่า คนที่นินทาเรานั้น ย่อมกระทำไปด้วยความอิจฉาริษยา เขาจะต้องเผาลนจิตใจของเขาให้ร้อนรุ่มเสียก่อน จึงจะสามารถพูดนินทาว่าร้ายคนอื่นออกมาได้ ให้คิดเมตตาสงสาร แทนที่จะไปโกรธเคืองเขา
อนึ่ง คนที่ชอบกล่าววาจาส่อเสียด หรือ ชอบนินทาว่าร้ายผู้อื่น โดยปรกติเขาย่อมเป็นผู้หามิตรสหายที่ใกล้ชิดไม่ค่อยได้ เพราะไม่เคยมีใครไว้วางใจคนที่ชอบนินทาว่าร้ายผู้อื่น ให้คิดเห็นใจเขาในฐานะที่เขาต้องเป็นผู้อยู่ในโลกนี้ด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยว เพราะเขาย่อมหาเพื่อนแท้ไม่ได้
4. คิดหาประโยชน์จากคำนินทา คนที่คิดกล่าวร้ายเรา บางทีเขาต้องไปนั่งคิดนอนคิดหาจุดอ่อนในตัวของเรา เพื่อเอามาพูดโจมตี บางทีจุดอ่อนเหล่านี้ตัวเราเองก็มีอยู่จริงแต่ทว่าเราไม่รู้ตัวมาก่อน นี้เป็นประโยชน์มาก เพราะเราสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาพัฒนาปรับปรุงตนเองได้ ดังนั้นเราจึงควรที่จะขอบคุณคนนินทาเรา เพราะเขาอุตส่าห์ไปนั่งคิดนอนคิดช่วยค้นหาข้อมูลมาช่วยให้เราปรับปรุงตนเอง
5. คิดวิเคราะห์ให้เห็นปัญหาสังคม สังคมไทยเป็นสังคมที่มีความสัมพันธ์ในแนวดิ่ง คือเน้นเรื่องการใช้อำนาจครอบงำกันและกัน จึงมีการปลูกฝังสอนให้คิดแข่งดีแข่งเด่น คิดเหนือผู้อื่น สอนให้อยากเป็นใหญ่เป็นโต (มานะ) มาตั้งแต่โบราณ (คาดว่าไม่ต่ำกว่าห้าร้อยปี คือตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น) ทำให้คนไทยเรา เวลาเห็นใครทำดี ก็มักจะเกิดความริษยาโดยไม่รู้ตัว คือทนไม่ได้ที่จะเห็นคนอื่นดีกว่าตน สังคมที่มีความสัมพันธ์ในแนวดิ่งเช่นนี้ ผู้คนจึงมักจะชอบนินทาว่าร้ายกันและกันเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าคิดวิเคราะห์ได้เช่นนี้แล้วก็สบายใจ ไม่ต้องไปเดือดเนื้อร้อนใจอะไรมาก ให้ถือว่าการที่เราถูกนินทานี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ทางสังคมก็แล้วกัน มันเป็นเช่นนั้นเอง
ในอนาคตไม่แน่ หากมีการศึกษาเรื่องพุทธธรรมกับสังคมไทยกันอย่างจริงจัง บางทีเราอาจจะสามารถเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ทางสังคมจาก "แนวดิ่ง" ให้เป็น "แนวราบ" คือ คนไทยมีความเสมอภาคกัน ไม่ถืออำนาจเป็นใหญ่ แต่ถือความถูกต้องดีงามเป็นใหญ่ เมื่อถึงเวลานั้นสังคมที่เต็มไปด้วยการนินทาว่าร้ายก็จะลดน้อยลงไปเองตามธรรมชาติ แล้วภาษิตยอดฮิตที่ว่า "สังคมเสื่อมถอยเพราะคนดีท้อแท้" หรือ "ทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย" จะได้เลิกใช้กันเสียที
ขอขอบคุณที่มาของบทความhttp://www.tummaprateip.iirt.net
http://www.palungjit.com/board/showthread.php?p=155672_________________
แจมมั่ว
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 29 พ.ย.2005, 9:31 am
ถูกนินทาว่าร้าย คิดอย่างไรจึงจะหายทุกข์
ยิ่งไปคิดว่า คนดีต้องทำงั้น ก็ยอม ยอมได้หรือ ... หายทุกข์หรือ
ยิ่งคิดนะไม่หายหรอก ทุกข์นะ
ปล. เวลาทุกข์ที่ไหน แก้ทุกข์ที่นั้น เวลาตอนทุกข์ ส่วนไหนที่ทุกข์ ส่วนไหนที่รับอาการดูพิจารณาที่นั้น ... ดูเองว่าขาดสติ แค่ไหน ก็แก้ได้ที่นั้น เพราะสติดี ไม่มีทุกข์ (อย่ามั่วรวมกับเรื่องสมาธิละ มันเสื่อม มันแปรเปลี่ยน มันไม่ใช่)
admin
บัวทอง
เข้าร่วม: 15 ธ.ค. 2004
ตอบ: 1886
ตอบเมื่อ: 29 พ.ย.2005, 10:36 am
วรากร
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 29 พ.ย.2005, 10:39 am
โลกธรรม 8 คือเรื่องธรรมดาโลก หมายถึง เรื่องของโลกที่เกิดขึ้นกับคนทั่วไปที่ยังมีชีวิตอยู่ในโลกในสังคม ซึ่งทุกคนหหนีไม่พ้นกับเรื่องโลกธรรม 8 ที่มีทั้งฝ่ายน่าปราถนาและไม่น่าปราถนา หรือแบ่งออกเป็นคู่ได้ 4 คู่ ก็ได้ คือ
1. ได้ลาภ กับ เสื่อมลาภ
2. มียศ กับ เสื่อมยศ
3. ติเตียน กับ สรรเสริญ
4. สุข กับ ทุกข์
โลกธรรม 8 สะท้อนให้เห็นความจริงของชีวิตว่า ทุกสิ่งในโลกล้วนเป็นอนิจจัง เป็นหลักธรรมที่สอนเราว่า ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น ไม่ควรหลงติดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนเกินควร ไม่ควรประมาทในชีวิต เพราะเมื่อมีลาภก็เสื่อมลาภ (ตามข้อ 1-4)
หากสามารถหลุดพ้นจากสิ่งเหล่านี้ได้ก็จะพบทางนิพพาน
ปุ๋ย
บัวเงิน
เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
ตอบเมื่อ: 29 พ.ย.2005, 12:31 pm
โลกธรรม 8 ประการ
http://www.dhammajak.net/webboard/show.php?Category=d_poem&No=3469
บัวเบลอ
บัวพ้นดิน
เข้าร่วม: 18 ต.ค. 2005
ตอบ: 86
ตอบเมื่อ: 29 พ.ย.2005, 4:29 pm
ช่างมันเถอะ
นตฺถิ โลเก อนินฺทิโต ผู้ไม่ถูกนินทา ไม่มีในโลก
tanawat30
บัวบาน
เข้าร่วม: 15 พ.ย. 2005
ตอบ: 256
ตอบเมื่อ: 30 พ.ย.2005, 8:25 pm
ผมไม่ต้องตอบเลยครับ คำตอบลำดับที่ 7 + คำตอบที่ 1 ดีสุด เอา 2 คำตอบมารวมกันเป็นคำตอบเดียว จบแล้วครับ สำหรับมนุษย์ปุถุชนพอแล้วครับ
new
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 532
ตอบเมื่อ: 08 ธ.ค.2005, 8:55 am
มีเพลงนึงฟังแล้ว น่าจะเข้าประเด็น จำชื่อไม่ได้ว่าใครร้อง
" ไม่มีใครจะทำร้ายเธอ เท่ากับเธอ ทำตัวของตัวเอง "
มีความหมายว่า ทุกข์เพราะ ตัวเองทำให้เป็นทุกข์ ฟังเขานินทา แล้วเราก็ปรุงแต่งตาม ทำให้เกิดทุกข์
พูดง่าย แต่ทำยาก สำหรับ หลาย ๆคน แต่ก็มีอุบายหลายอย่าง เช่น ไม่สนใจ ไม่รับรู้ คิดว่าเราจะฝึกความอดทนของเรา แผ่เมตตาให้แก่เขา เพราะการที่เขานินทา เป็นการสร้างกรรมไม่ดีของเขา คิดว่าเราเคยไปนินทาเขาไว้ก่อน เขามานินทาคืน หรือ ได้ยินได้ฟัง ก็สักแต่ว่าเสียง ไม่ปรุงแต่งต่อ อันหลังนี้ถ้าฝึกไว้มาก ๆ ผมว่าจะเป็นการฝึกวิปัสนาด้วยนะ
tanawat30
บัวบาน
เข้าร่วม: 15 พ.ย. 2005
ตอบ: 256
ตอบเมื่อ: 08 ธ.ค.2005, 9:36 am
ไม่ต้องคิด ไม่ต้องสน ทุกอย่างถ้าทำตามเหตุ ตามผลที่ถูกต้อง แล้วใครอยากจะทำอะไรก็ปล่อยเขาทำตามสบาย
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
ไม่สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th