Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 คนโกรธง่ายหายยากทำอย่างไรถึงจะหาย อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ปิงปอง ม.ราม
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 18 ก.ย. 2005, 6:01 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมเป็นคนประเภทใครทำอะไรนิดหน่อยก็โกรธแล้วก็ไม่ค่อยลืมด้วย พยายามแผ่เมตตาก็ไม่ค่อยหาย เพื่อนๆพี่ๆช่วยแนะนำหน่อย
 
เว็บมาสเตอร์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 มี.ค. 2005
ตอบ: 993

ตอบตอบเมื่อ: 19 ก.ย. 2005, 8:53 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ทำอย่างไรจะหายโกรธ (ป.อ. ปยุตฺโต)





พระพุทธศาสนา เป็นศาสนาแห่งเมตตาการุณย์ พระพุทธเจ้ามีพระคุณข้อใหญ่ประการหนึ่ง คือ พระมหากรุณา ชาวพุทธทุกคนได้รับการสั่งสอนให้มีเมตตากรุณา ให้ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่นด้วยกายวาจา และมีน้ำใจปรารถนาดี แม้แต่เมื่อไม่ได้ทำอะไรอื่น ก็ให้แผ่เมตตาแก่เพื่อนมนุษย์ตลอดจนสัตว์ทั้งปวงขอให้อยู่เป็นสุขปราศจากเวรภัยกันโดยทั่วหน้า



อย่างไรก็ตาม เมตตา มีคู่ปรับสำคัญอย่างหนึ่งคือความโกรธ ความโกรธเป็นศัตรูที่คอยขัดขวางไม่ให้เมตตาเกิดขึ้น คนบางคนเป็นผู้มักโกรธ พอโกรธขึ้นมาแล้วก็ต้องทำอะไรรุนแรงออกไป ทำให้เกิดความเสียหาย ถ้าทำอะไรไม่ได้ ก็หงุดหงิดงุ่นง่านทรมานใจตัวเองในเวลานั้นเมตตาหลบหาย ไม่รู้ว่าไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหน ไม่ยอมปรากฏให้เห็น ส่วนความโกรธทั้งที่ไม่ต้องการแต่ก็ไม่ยอมหนีไป บางทีจนปัญญาไม่รู้จะขับไล่หรือกำจัดให้หมดไปได้อย่างไร



โบราณท่านรู้ใจและเห็นใจคนขี้โกรธจึงพยายามช่วยเหลือ โดยสอนวิธีการต่างๆ สำหรับระงับความโกรธ วิธีการเหล่านี้มีประโยชน์ไม่เฉพาะสำหรับคนมักโกรธเหล่านั้นแต่เป็นคติแก่ทุกคน ช่วยให้เห็นโทษของความโกรธ และมั่นในคุณของเมตตายิ่งขึ้น จึงขอนำมาเสนอพิจารณากันดู วิธีเหล่านั้นท่านสอนไว้เป็นขั้นๆ ดังนี้



พระธรรมปิฎก ป.อ. ปยุตฺโต

(ปัจจุบันได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ที่ พระพรหมคุณาภรณ์)




อ่านต่อ...http://www.dhammajak.net/koda/koda1/koda01.php
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
เว็บมาสเตอร์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 มี.ค. 2005
ตอบ: 993

ตอบตอบเมื่อ: 19 ก.ย. 2005, 8:56 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

http://www.dhammajak.net/koda/koda1/index.php
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
korn
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 10 พ.ย.2005, 1:07 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ลองใช้เวลานั่งสมาธิพิจรณาดูความโกรธที่มีอยู่ในตัวเราซิว่าเราโกรธให้ใครด้วยเรื่องอะไร และเวลาที่เรากำลังโกรธให้กับบุคคลอื่นนั้น และในเวลานั้นเรารู้สึกมีความสุข หรือทุกข์ถ้ารู้สึกว่าตัวเรากำลังมีความทุกข์อยู่กับความโกรธก้ลองนำเอาหลักธรรมอริยสัจ ๔ คือทุกข์ สมุทัย นิโรจน์ มรรค มาพิจรณาแก้ไขความโกรธดู หรือไม่ก็ดับด้วย อโกธะ คือความไม่โกรธ เราโกรธเขาเราก็บาป บาปขั้นแรกคือความทุกข์ใจเป็นแดนเกิด ความโกรธสามารถทำร้ายได้แม้กระทั่งตนเองและผู้อื่น อย่างน้อยก็ทำร้ายจิตใจของตัวเราเองไม่ให้มีความสุข บุคคลที่ชอบโกรธเป็นบุคคลที่เบียดเบียนจิตใจของตนเอง โกรธให้เขาเหมือนจุดไฟเผาตัวเอง ไฟคือโทสะ โทสะ คือ ความโกรธ ผู้มักโกรธมักจะเร่าร้อนอยู่ในกองเพลิงของไฟโทสะ ดังนั้นควรจะดับไฟนี้ด้วย อโทสะ หรือ อโกธะ คือความไม่โกรธ และเจริญธรรมด้วย พรหมวิหาร ๔ คือ เมตตา คือ ความรัก แผ่ความรักไปเขา กรุณา คือความสงสาร แผ่ความสงสารไปให้เขา มุทิตา คือ ความพลอยยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นได้ดี ไม่มีความอิจฉาริษยา อุเบกขา คือ ความวางเฉย ไม่ดีใจเมื่อได้รับคำสรรเสริญ ไม่เสียใจในเวลาที่ถูกผู้อื่นนินทา # เขาว่าเราดี เราเหมือนเขาพูดหรือไม่ เขาว่าเราร้ายเราร้ายเหมือนเขานินทาเราหรือไม่ *

ความทุกข์จะเกิดขึ้นกับเราได้ก็อยู่ที่ตัวเรา ความสุขจะเกิดขึ้นกับเราได้ก็อยู่ที่ตัวเรา ไม่ใช่อยู่ที่กับบุคคลอื่น ดังนั้นก็ลองเพ่งพิจรณาดู บุคคลอื่นเปรียบเหมือนเหยื่อ ตัวเราเปรียบเหมือนปลา ลองเก็บข้อคิดนี้ไปพิจรณาดูนะครับ

 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง