Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 คนที่ตั้งใจจะไม่ดื่มเหล้า เบียร์ ตลอดชีวิตถือว่าตึงเกินไปหรื อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
พิชิต
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2005, 12:40 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมไม่เคยดื่มเหล้าหรือเบียร์เลย เพราะถูกอบรมมา แต่มีรุ่นพี่คนนึงบอกว่าผมทำอย่างนี้ไม่ถูกต้อง เขาพูดว่าต้องดื่มบ้างเพื่อเข้าสังคมและผลประโยชน์ทางธุรกิจ เราต้องดื่มจะได้รู้ว่าดื่มแค่ไหนถึงจะเมาจะได้เซพตัวเองได้ เขาพูดอีกว่าปี 33เขากับเพื่อน(11 คน)ไปสมัครงานกับบริษัทแห่งหนึ่ง ทุกคนสอบข้อเขียนได้ 100คะแนนเต็ม ตอนสัมภาษณ์เขาถามว่า "คุณดื่มเหล้า สูบบุหรี่หรือเปล่า"คนที่ตอบว่าผมไม่ดื่มเขาไม่รับเข้าทำงาน ส่วนคนที่ตอบว่าได้นิดหน่อยเขารับให้เหตุผลว่าเพราะรู้จักปรับตัว
 
สุรพงษ์
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2005, 1:41 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

1.ผมเคยดื่มมาแล้วเมื่อพบเพื่อนเข้าสังคม 2. ตั้งใจเลิกดื่มระยะหนึ่ง 3. ปัจจุบันตั้งใจเลิกดื่มตลอดไป

เหตุผลข้อแรกก็เป็นอย่างที่รุ่นพี่ของคุณบอก เหตุผลข้อที่สองมีเหตุให้ลองตั้งจิตอธิษฐาน

เหตุผลข้อที่สามเมื่อเลิกดื่มได้ระยะหนึ่งแล้วพิจารณาพบว่าตัวเองเหมือนมีปัญญาเพิ่มขึ้นและพบสิ่งที่ดี ๆ เพิ่มขึ้น ถึงเพื่อนจะน้อยลงแต่คิดว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่ได้รับ

สำหรับกรณีของคุณเจ้าของกระทู้นี้ ขอให้ใช้ปัญญาไตร่ตรองดูด้วยตัวเอง ถ้าคุณไม่เคยดื่มเลยในชีวิต ก็อาจทดลองดื่มดูก็ได้ แต่ขอให้สังเกตุสติสัมปชัญญะ ก่อนดื่ม ระหว่างดื่มและภายหลังการดื่ม ดูว่ามีผล อาการแตกต่างกันอย่างไร

การจะทำ ปฏิบัติ หรือไม่ทำ หรือไม่ปฏิบัติอะไร อย่างไร ควรจะรู้เหตุผลด้วยตัวเอง ที่แท้จริงจะเป็นการดีที่สุด เหตุผลว่าได้รับการอบรมมาอย่างนั้นอย่างนี้จึงปฏิบัติอย่างนั้นอย่างนี้ มิใช่เหตุผลที่ชาวพุทธใช้อ้างอิง ลองศึกษาบทธรรมเรื่องกาลามสูตรดูนะครับ

หวังว่าคุณจะตัดสินใจตอบกระทู้นี้ได้ด้วยตัวเอง
 
แสงธรรม
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 03 ก.ย. 2005, 6:48 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ปถุชน...แปลว่าผู้หนาด้วยกิเลส...กิเลสครอบงำจนเห็นผิดเป็นชอบไปแล้ว...

ทั้งนี้เพราะคนที่แนะนำอย่างนั้นยังมีความไม่รู้หรืออวิชชาอยู่...ทุกวันนี้เราก็อยู่กันอย่างสุดโต่งแล้วคือหย่อนยานเกินไปหรือกามสุข....สุขมากเกินไป....ไม่ใช่ทุกขืมากเกินไป....ทางที่ดีควรเดินสายกลางครับ...ละชั่วคืออย่าผิดศีล ลองเหล้าเข้าปาก..ก็สามารถผิดศีลอื่นได้ทุกข้อ

......ทำความดี...และทำใจให้บริสุทธิ์...บริษัทนั้นไม่รับคุณเข้าทำงานก็เป็นโชคดีของคุณแล้วครับที่ไม่ตกนรก....มีที่ทำงานอื่นอีกมากครับที่ต้องการคนดีเช่นคุณ
 
ภพ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 03 ก.ย. 2005, 10:14 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ดีแล้วท่ตั้งใจจะไม่ดื่มตลอดชีวิต ผมดื่มมา 33 ปีแล้ว ปัจจุบันเลิกแล้ว ดวงตาเห็นธรรมแล้ว

ไม่มีประโยชน์อะไรเลย ไม่ใช้หนทางดับทุกข์ มีแต่เรื่องท่จะเสีย เชื่อผมเถอะ
 
เกียรติ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 04 ก.ย. 2005, 8:07 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

จงอย่าดื่มเลย ปัจจุบันมีอีกหลายบริษัทเขาสนับสนุนให้พนักงานไม่ดื่มน้ำเมาครับ
 
เต๊ะ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 05 ก.ย. 2005, 7:25 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เมื่อก่อนผมก็ดื่มและมากด้วยครับ ปัจจุบันไม่ดื่มเลยมาเกือบปีแล้วครับ รู้สึกดีมากๆ

คนที่รักเราเค้าก็มีความสุข (เมื่อก่อนเค้าไม่พูดเพราะเห็นว่าเราเป็นผู้ใหญ่แล้ว) จะมีก็เรื่องเพื่อนที่เคยดื่มเคยเที่ยวด้วยกัน จะน้อยลงมากแต่เมื่อเทียบกับสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นแล้วค้มยิ่งกว่าคุ้มครับ
 
วิษณุ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 05 ก.ย. 2005, 9:41 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ควรเชื่อพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นปราชน์ที่ยากนักจะบังเกิดขึ้นสักหน เชื่อแล้วมีแต่ทางเจริญ ถ้าเชื่อเพื่อน(แบบนี้)ก็มีแต่จมลง ๆ



ศีลข้อ 5 นี้สำคัญมากเพราะการละเมิดศีลข้อนี้เป็นเหตุให้ศีลข้ออื่นขาดหมดเพราะขาดสติ ทำอะไรได้ทั้งนั้น ไม่เคยโกหกก็โกหกได้ ไม่เคยลักก็ลักได้ ไม่เคยเที่ยวสตรีก็ทำได้



กิเลสมักหลอกว่ากินเพื่อเข้าสังคม กินนิดหน่อยพอรู้จักพอเป็นความรู้ เป็นเบื้องแรก หลังจากนั้นก็กินมากขึ้น ๆ สุดท้ายแม้อยู่คนเดียวก็นั่งกินได้หน้าตาเฉย



เพื่อนที่แนะนำแบบนี้ ขอให้ลองพิจารณาให้ชัดดูซิว่าเขาทำได้อย่างที่แนะนำหรือเปล่า ที่ทำงานไหนที่ไม่รับคนกินเหล้า ก็ไม่ต้องเข้าไปทำงานหรอก เพราะอีกไม่นานก็เจ๊งแล้วเพราะพนักงานเป็นแต่พวกสุรายาเมา



การไม่กินเหล้า ไม่เกี่ยวกับการคบเพื่อน ที่กล้าพูดแบบนี้ก็เพราะตัวเองก็เป็นแบบนี้มาก่อน กินเหล้าพอรู้จัก กินเหล้าพอเข้าสังคม เป็นเบื้องแรก สุดท้ายก็ถูกเหล้ากิน สุดท้ายมาพิจารณาว่าชีวิตเรานี้มันแค่นี้เองหรือ จะอยู่กับสิ่งๆนี้หรือ จะต้องเสพมันหรือเพื่อแลกกับความเป็นผู้มีเพื่อนหรือ สุดท้ายก็ปฏิเสธ ตอนแรก ๆ ก็กลัวว่าเพื่อนที่เคยคบกัน(ในวง)จะเลิกคบ เตรียมใจใว้แล้วว่าถ้าจะเลิกคบกันเพียงเพราะการไม่กินเหล้าด้วยกันก็ยอม เพื่อนแบบนี้เราก็ไม่คบเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ยิ่งคบกันสนิทยิ่งกว่าเดิม



การมีเจตนาเลิกเด็ดขาดไม่ตึงไปหรอก อนุโมธนาด้วยอย่างยิ่ง ส่วนตัวเองไม่ได้ประกาศว่าจะเลิก แต่บอกแค่ว่าวันนี้ไม่ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ เหมือนหยอดเหรียญลงกระปุก พอ "ไม่" ได้หลายๆ วันก็เกิดกำลังใจ และรู้สึกเสียดายที่จะต้องไปเริ่มต้นใหม่หากกลับไปกินอีก ตอนนี้นับได้ 1 ปีพอดีในเดือนนี้



ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่เคยดื่มแล้วกำลังจะเลิกทุกคนครับ
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง