Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 เที่ยวผู้หญิงผิดศีลข้อสามไหม อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ไหนๆก็ผ่านมาแล้ว
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 12 ก.ค.2005, 4:20 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ใคร่ขอถามรายละเอียดเกี่ยวกับศีลข้อสามดังต่อไปนี้

1. การที่ผู้ชายยังโสดอยู่ไปเที่ยวหญิงบริการ ถือว่าผิดศีลข้อสามไหม

2. การแอบลักลอบได้เสียกันโดยเป็นการยินยอมกันทั้งสองฝ่ายของวัยรุ่นหรือนักเรียนนักศึกษาอย่างนี้ถือได้ว่าผิดศีลข้อสามไหม



ขอถามสองข้อครับ เพราะสังคมทุกวันนี้เห็นเรื่องเหล่านนี้เป็นเรื่องปกติ
 
สายลม
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245

ตอบตอบเมื่อ: 12 ก.ค.2005, 8:43 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ตอบสั้นๆ

1. ไม่ผิด ถ้ามีครอบครัวแล้ว ผิดครับ

2. แม้จะยินยอมทั้งสองฝ่าย แต่ถือว่ายังอยู่ภายใต้การปกครองของพ่อแม่ หรือผู้ปกครอง ตรงนี้ผิด
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
สมศักดิ์
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 13 ก.ค.2005, 12:14 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กาเมสุมิจฉาจาร ให้เว้นจากการละเมิดความรัก (ในทางกาย) คือในสามีและภรรยาและลูกของบุคคลอื่น ยินดีเฉพาะสามีและภรรยาของตนเอง



ผิดทั้งสองกรณีน่ะแหละครับ เพราะทั้งสองกรณีนั้นเป็นการละเมิดความรัก (ในทางกาย) กับลูกผู้อื่นและมิใช่เมียเรา
 
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 13 ก.ค.2005, 1:56 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กราบสวัสดีครูบาอาจารย์ทุกท่านด้วยความเคารพ ขออนุญาตแสดงความคิดเห็น



พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสแสดงไว้ซึ่งมีหลักฐานอยู่ในอังคุตตรนิกาย อัฎฐกนิบาต ซึ่งแสดงเหตุแห่งความเสื่อมของบุคคลที่ไมรู้จักบริโภคสมบัติไว้ 4 ประการด้วยกัน



ประการที่ 1 เป็นนักเลงสตรีหรือเป็นนักเลงผู้หญิง โดยทั่วไปก็คือเป็นคนเจ้าชู้ ถ้าหากว่าบุคคลใดก็ตาม เป็นนักเลงผู้หญิง นักเลงเจ้าชู้ละก็ ผู้นั้นแหละที่จะทำให้วงศ์ตระกูลนั้นเสื่อม



ประการที่ 2 เป็นนักเลงสุรา ดื่มเช้าดื่มเย็น เมาเช้าเมาเย็น ก็เป็นเหตุทำให้ตระกูลนั้นเสื่อมทรามลงได้อีกเหมือนกัน



ประการที่ 3 เป็นนักเลงการพนัน ไม่คิดทำมาหากิน เล่นการพนันเลี้ยงชีพ



ประการที่ 4 คบแต่คนชั่วเป็นมิตร



ถ้าหากว่าบุคคลใดบริโภคสมบัติในลักษณะดังกล่าวทั้ง 4 ประเภทนี้ ก็เป็นทางแห่งความเสื่อมของวงศ์ตระกูล ไม่ว่าจะเป็นสตรีหรือบุรุษผู้ทุศีลให้เป็นแม่เรือนหรือพ่อเรือน ก็เป็นเหตุเสื่อมเหมือนกัน คำว่าศีลก็เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปแล้วว่า หมายถึง ศีล 5 ศีล 8 ที่เป็นจรรยาของโลกซึ่งคฤหัสถ์จะต้องประพฤติปฏิบัติกัน คนทุศีลก็คือคนที่ไม่มีศีล คนที่ไม่มีศีลก็คือคนที่ประพฤติชั่วด้วยกาย วาจา ใจ ก็เป็นเหตุให้วงศ์ตระกูลเสื่อมทรามลงดังกล่าว



ธรรมะสวัสดี



มณี ปัทมะ ตารา
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
เจ้าของกระทู้
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 13 ก.ค.2005, 9:07 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

แล้วอย่างกรณี สวิงกิ้งละครับคือ คู่ตนและคุ่อื่น ต่างคนต่างยอมทั้งกันหมดทั้งสี่คนอย่างนี้จะผิดไหมครับ สังคมทุกวันนี้มีกรณีนี้มากขึ้น
 
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 13 ก.ค.2005, 11:13 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กราบสวัสดีท่านเจ้าของกระทู้



คุณคิดว่ากรณีดังกล่าว ถึงแม้ในสังคมทุกวันนี้มีกรณีนี้มากขึ้น และคุณถือได้ว่าเป็นผู้สนใจธรรมะ เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว คุณจะไม่เข้ามาตั้งคำถามในบอร์ดสนทนาธรรมะเป็นอันขาด คุณพิจารณาดูซิว่า กรณีดังกล่าว มันเป็นสิ่งที่น่าละอายหรือไม่ ถ้าไม่รู้จักประมาณตนเอง ไม่รู้จักเหนี่ยวรั้งจิตใจของตนเองมิให้กระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งซึ่งเป็นความผิดความชั่วลงไป



เปรียบเหมือนบุคคลที่จะก้าวขึ้นบันไดก็ต้องก้าวทีละขั้น จะลงบันไดก็ลงทีละขั้น จะก้าวขึ้นถึงบันไดขั้นสูงหรือก้าวลงถึงสุดบันไดก็หามิได้ ก้าวไปทีละขั้นทั้งนั้น ฉันใดฉันนั้น การทำความชั่วก็เหมือนกัน ครั้งแรกเล็กน้อยก่อน ผลสุดท้ายกลายเป็นความชั่วที่ใหญ่โตกว้างขวางออกไป เพราะขาดหิริโอตตัปปะ



หิริโอตตัปปะ ต้องมีอยู่ในใจ และก็ไม่ทำบาปทั้งที่ลับและที่แจ้ง ทีนี้มันก็อยู่ที่การปลูกฝังนั่นแหละ ต้องเคารพตัวเองในทางที่ดี ไม่ใช่เคารพตนในทางที่ผิดหรือในทางที่ชั่ว มันเนื่องกัน เคารพตัวเองไม่พอ ต้องเคารพคนอื่นด้วย ถ้าละอายแล้ว มันก็เกรงกลัวต่อบาป เพราะมันเป็นธรรมชาติ ที่กลัวว่าจะต้องประสบต่อความทุกข์หรือประสบต่อวิบากกรรมที่แสนสาหัสอย่างใดอย่างหนึ่ง...ก็เท่านั้น...ทีนี้จะหายสงสัยหรือไม่ ละอายหรือไม่ เกรงกลัวหรือไม่ มันก็ขึ้นอยู่กับการถูกปลูกฝังมาอย่างไรเท่านั้น



ธรรมะสวัสดี



มณี ปัทมะ ตารา
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
phitis
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 12 ก.ค. 2005
ตอบ: 2

ตอบตอบเมื่อ: 13 ก.ค.2005, 3:25 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ปล่อยวางครับ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
สุรพงษ์
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 13 ก.ค.2005, 5:00 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอเสริมคุณปุ๋ยความคิดเห็นที่3 ทางแห่งความเสื่อมของปุถุชน หรืออบายมุข

ควรเพิ่ม เกียจคร้านในการทำงาน และ เที่ยวดูการละเล่นหรือเที่ยวกลางคืนเป็นประจำ
 
เจ้าของกระทู้
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 15 ก.ค.2005, 9:14 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คือที่ผมสงสัยนั้นคือคำว่าผิดนั้นมันมีขอบเขตหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่นในเรื่องของการขโมยหากมีจิตคิดจะขโมยแต่มือยังไม่ได้เอื้อมไปจับก็ไม่ถือว่าผิดแม้มือเอื้อมไปจับแล้วยังไม่ทำให้ฐานเคลื่อนก็ยังไม่ผิดจนกว่าจะฐานจะเคลื่อนด้วยจิตมีเจตนาขโมยไม่ใช้เคลื่อนย้าย นั้นแหละถึงจะได้ชื่อว่าผิดศีลข้อ สอง



ผมใคร่ขอถามความชัดเจนอีกสองข้อ



1. อย่างในกรณีศีลข้อสาม แค่ไหนจึงได้ชื่อว่าผิด ได้ชื่อว่าขาด เช่น

แตะเนื้อต้องตัว สัมผัส หรือ

KISS หรือ

หรือต้องถึงกับมีการล่วงองค์กำเนิดจึงจะขาดในศีลข้อสาม ต่อคู่กรณีที่ไม่ถูกครรลองครองธรรมไม่ว่าประเภทใดก็ตาม





2. แล้วอย่างในกรณีที่มีข่าวมีชายผู้หนึ่งถูกจับข้อหา กรทำอนาจารต่อศพที่ตนเคยปฎิพัทธ์ยินดีสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ การกระทำต่อศพอันคือสิ่งที่ไม่มีแล้วซึ่งชีวิติจิตวิญญาณ เหมือนได้ชื่อว่ากระทำการกับวัตถุสิ่งของ นั้นอย่างในเคสนี้จะได้ชื่อว่าผิดและขาดจากศีลข้อสามไหม
 
เกียรติ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 15 ก.ค.2005, 5:40 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

1. คำถามที่ 1 ถ้าให้ตอบตามตำรานะครับ การที่ศีลจะขาดอย่างสมบูรณ์ คือ ยังอวัยวะที่ใช้เสพกามนั้น ให้จรดกัน แค่จรดกันก็ขาดแล้วกัน ยังไม่ต้องเสพกามแบบสมบูรณ์ ส่วนการแตะเนื้อต้องตัว สัมผัส กอดจูบ ต่างๆ ทำให้ศีลด่างพร้อย จนถึงทะลุแล้ว แต่ยังไม่ขาด



2. การกระทำต่อศพเช่นนั้น ศีลย่อมไม่ขาด แต่ ศีลด่างพร้อยมากๆ แล้วครับ พิจารณาจากองค์ประกอบดังนี้นะครับ

1. ชายหรือหญิงต้องห้าม (มีชีวิตอยู่)

2. มีจิตใจจะเสพกาม

3. ลงมือเสพกาม

4. ยังอวัยวะที่ใช้เสพกามให้จรดกัน











 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง