Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 พระพุทธรูปทองคำวัดพะเยาว์ จ.สระบุรี อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
เว็บมาสเตอร์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 มี.ค. 2005
ตอบ: 993

ตอบตอบเมื่อ: 25 ส.ค. 2007, 9:36 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

พระพุทธรูปทองคำวัดพะเยาว์ จ.สระบุรี

สระบุรี เมืองเล็กๆ ที่เป็นศูนย์รวมของชนชาติไทยหลายชนชาติ เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์และพระพุทธศาสนา นอกจากรอยพระพุทธบาทที่ลือชื่อของจังหวัดแล้ว จังหวัดสระบุรียังเต็มไปด้วยวัดเก่าโบราณมากมาย รวมถึง พระพุทธรูปมีค่าอย่างพระพุทธรูปทองคำศิลปะแบบอยุธยาโบราณ แห่งวัดพะเยาว์ อันเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านในละแวกนั้นและชาวอำเภอเสาไห้

วัดพะเยาว์ ตั้งอยู่บนแม่น้ำป่าสักด้านทิศเหนือ หมู่ที่ 1 ตำบลศาลารีไทย อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี ด้านหลังวัดมีถนนสายปากบาง-สระบุรีผ่าน สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2185 ซึ่งตรงกับสมัยพระเจ้าปราสาททอง ภายในวัดมีพระพุทธรูปทองคำ

ที่จากการสันนิษฐานคาดว่า พระพุทธรูปทองคำน่าจะสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ยุคสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ช่วงปี พ.ศ. 2034-2072 ก่อนที่จะมีผู้อัญเชิญพระพุทธรูปทองคำ ออกไปไกลจากกรุงศรีอยุธยา เพื่อให้พ้นจากเงื้อมมือของข้าศึก ในช่วงสงครามระหว่างกองทัพไทยกับพม่า ราวปี พ.ศ. 2308-2310 โดยได้ทำการพอกปูนหุ้มองค์พระไว้เพื่อไม่ให้เป็นที่สนใจของคนทั่วไปได้

จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2420 กลางสมัยรัชกาลที่ 5 ชาวบ้านศาลารีไทย หมู่ที่ 3 ตำบลศาลารีไทย อำเภอเสาไห้ ร่วมใจกันสร้างวัดอุทิศสโมสร แต่ยังขาดพระประธาน ครั้นทราบข่าวว่ามีพระพุทธรูปปูนปั้นถูกทิ้งในวัดร้างแห่งหนึ่งในอำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงอัญเชิญพระพุทธรูปมาประดิษฐานที่วัดอุทิศสโมสร ครั้งวัดอุทิศสโมสรกลายเป็นวัดร้าง เนื่องจากชาวบ้านอพยพย้ายถิ่นฐานหนีภัยแล้ง พระพุทธรูปองค์นี้จึงถูกปล่อยทิ้งไว้อีกครั้ง

ปี พ.ศ. 2484 ทางวัดพะเยาว์ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน ต้องการพระประธานองค์ใหม่ สำหรับพระอุโบสถหลังใหม่ ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันอัญเชิญพระพุทธรูปปูนปั้นองค์นี้จากวัดอุทิศสโมสร มาประดิษฐานที่วัดพะเยาว์แต่นั้นเป็นต้นมา

ครั้นพอปี พ.ศ. 2493 พระเทพวิมลโมลี (มณี สุวโจ) เจ้าคณะจังหวัดสระบุรีในขณะนั้น เห็นพระประธานในอุโบสถของวัดมีพุทธลักษณะงดงามดี แต่ตามองค์พระมีรอยปูนกะเทาะดูกระดำกระด่างอยู่ทั่วไป จึงมีเถรบัญชาให้ พระอธิการเกลี้ยง มีสวัสดิ์ เจ้าอาวาสในเวลานั้น ทำความสะอาดองค์พระให้ดูสดใสสง่างาม

ขณะที่ชาวบ้านช่วยกันทำความสะอาดองค์พระอยู่นั้น ปรากฏว่าปูนที่พอกองค์พระบางส่วนกะเทาะหลุดออกมาจนเห็นเนื้อทอง ซึ่งเป็นผิวองค์พระแท้จริงที่ถูกซ่อนไว้ จึงช่วยกันกะเทาะปูนที่พอกองค์พระไว้เป็นเวลานานออกจนหมด และพบว่าพระพุทธรูปองค์นี้องค์พระเป็นโลหะทองทั้งองค์ สร้างความปลาบปลื้มปิติแก่ชาวบ้านในที่นั้นเป็นอย่างยิ่ง

ชาวบ้านจึงพากันเรียกพระพุทธรูปองค์นี้ว่า “หลวงพ่อทองคำ” ซึ่งเป็นศิลปะแบบอยุธยาบริสุทธิ์ ประทับนั่งในปางสมาธิ แบบขัดสมาธิราบ ประทับนั่งในลักษณะที่ดูองอาจผึ่งผายสง่างาม มีหน้าตักกว้าง 110 ซม. ส่วนสูง 170 ซม. มีทองคำบริสุทธิ์อยู่ถึงร้อยละ 70 ซึ่งมากกว่าพระพุทธรูปทองคำทั้งหมดในประเทศไทย

ปัจจุบันทางจังหวัดสระบุรีได้ชูพระพุทธรูปทองคำเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ โดยได้อัญเชิญพระพุทธรูปองค์นี้ขึ้นประดิษฐานไว้ในศาลาใหญ่ และสร้างประตูให้มั่นคงแข็งแรงใกล้หูใกล้ตาเจ้าอาวาสและพระภิกษุในวัด พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลเพื่อป้องกันการโจรกรรมจากมารศาสนา

สำหรับหลวงพ่อทองคำถือเป็นพระพุทธรูปทองคำองค์สมัยอยุธยาองค์เดียวที่รอดพ้นจากการสงครามกับพม่า ที่ยังเหลืออยู่มาจนถึงปัจจุบัน มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และพุทธศิลป์มากมาย ไม่แพ้พระพุทธรูปสมัยสุโขทัยอย่างหลวงพ่อโต วัดไตรมิตรวิทยาราม ที่กรุงเทพมหานคร เลยทีเดียว


โดย ผู้จัดการออนไลน์ 14 มิถุนายน 2549 15:26 น.
 

_________________
-- การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง --
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง