Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
เจ้ากรรมนายเวร
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
กฎแห่งกรรม
ผู้ตั้ง
ข้อความ
โอ่
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 24 พ.ย.2004, 10:33 pm
เจ้ากรรมนายเวรคือใคร ผมนิยามดังนี้ เจ้ากรรมนายเวรคือผู้ที่เราได้เคยเบียดเบียนทำเขาให้เดือดร้อน เป็นผู้ที่ยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในโลกไม่ได้เป็นอริยบุคคลที่พ้นจากโลกไปแล้ว หรือพุดว่าผู้ที่คิดจะมาทวงหนี้เวรที่เราเคยทำต่อเขามาก่อน เช่นว่าเราทำให้เขาบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เขาก็จะมาทวงตามกรรมที่เราทำไว้
ดังนั้นผลกรรมที่เราได้รับนั้นส่วนใหญ่มีเจ้ากรรมนายเวรเกี่ยวข้อง สมมุติว่าเราในเวลานี้ป่วยเป็นมะเร็งในอวัยวะใดอวัยวะหนึ่ง
ผลการป่วยนั้นมาจากเหตุที่เราเคยทำร้ายเขาที่บริเวณอวัยวะนั้น เช่นทำร้ายที่ปอดมาป่วยเป็นมะเร็งปอด
แต่การเป็นมะเร็งปอดนั้นมาจากเจ้ากรรมนายเวรเพียงรายเดียวใช่หรือไม่
คำตอบก็คือไม่ใช่ เพราะในความเป็นจริงเราเกิดมานับพันนับหมื่นชาติ การทำร้ายอวัยวะภายในของคนเช่นที่ปอดและบริเวณอื่นๆ รวมทั้งฆ่าสัตว์เดรัจฉานอีกนับไม่ถ้วน กรรมเบาๆที่เราทำมาหลายๆ ชาตินั้นได้มารวมกันในคราวเดียวมีเจ้ากรรมนายเวรร่วมอยู่นับหมื่นนับแสนราย
ทำไมเจ้ากรรมนายเวรจึงมารวมกันพร้อมกันในคราวเดียว เพราะกรรมที่เราทำบางคราวไม่หนักมาก และเราไปทำกรรมดีไว้มากไม่น้อย กรรมชั่วนั้นไม่ได้มีเวลาให้ผลเต็มที่ เมื่อเราไปทำกรรมหนักด้วยการฆ่าคนหรือสัตว์ใหญ่ที่บริเวณปอด แล้วหนีนรกได้ มาเกิดในมนุษย์ในชาติต่อไป กรรมหนักที่ยังตามมาสามารถจะให้ผลได้โดยทำให้เราป่วย เมื่อกรรมหนักมาให้ผลแล้ว กรรมชั่วกรรมเล็กกรรมน้อยที่สามารถร่วมได้ก็จะเข้ามาร่วม เหมือนคนตกลงไปอยู่ที่ต่ำน้ำจากทุกทิศทุกทางต่างไหลมารวมกัน ความชั่วที่เคยทำก็คอยโอกาสอาศัยความชั่วที่มีกำลังมากให้ผลจึงผสมโรงให้ผลด้วย
ดังนั้นจึงมีเจ้าหน้าที่จัดกรรมจัดเวรตามกำลังของกรรมเวรที่จะให้ผลไปสู่คนๆ นั้น
พวกเจ้ากรรมนายเวรนี้มารวมกันในบริเวณที่อวัยวะที่จะเป็นโรคเช่นที่ปอด พวกเขามีภพที่อยู่ที่อวัยวะนั้นและย่อตัวให้มีขนาดเล็ก ปอดของเราจะกลายเป็นภูมิประเทศกว้างใหญ่ ให้สัตวฺเหล่านั้นอยู่อาศัยตามฐานะภพภูมิของพวกเขา
เราจะเห็นเจ้ากรรมนายเวรนี้ได้อย่างไรว่าเป็นเช่นนั้นจริง สมมุติว่าเราปวดหลัง เราจะเพ่งมองเห็นกระดูกหลังเป็นสีดำ และนึกว่าทำไมเป็นเช่นนั้น ทันใดนั้นเจ้ากรรมนายเวรรู้กระแสจิตเรา เขาจึงแสดงสิ่งที่น่าฉงนให้เราดู คือสีดำที่กระดูกหลังนั้นขยายตัวเป็นควันดำ ลอยออกมา แล้วกระดูกหลังจะเป็นสีขาว แล้วควันดำนั้นลอยอยู่ในร่างกายเราและมีหน้าตาเหมือนปีศาจลักษณะต่างๆ เมื่อเป็นดังนี้อาการปวดหลังก็หายไป แต่มีบางอย่างเคลื่อนไหวในท้องในอวัยวะของเรา บางครั้งทำให้ผิวหนังนูนขึ้นมาก็ยังได้ เพื่อแสดงให้เรารู้ว่าสิ่งที่เราคิดว่าเป็นโรคนั้นไม่ใช่โรค แต่อาจจะบอกว่า "พวกxxxนี่แหละทำไงให้ป่วย xxxเห็นรึยัง" เมื่อเรานึกว่าไม่เชื่อลองรวมตัวให้เหมือนเดิม พวกวิญญาณนั้นก็กลับไปเกาะสถิตย์ที่กระดูกหลังเป็นสีดำอีก เพราะมันรู้วาระจิตเรา ถ้าไม่เชื่อมันก็ทำให้เห็นในลักษณะ "อนุโลม ปฏิโลม" อย่างนี้แบบซ้ำซากจนเราต้องเชื่อ เพราะมันสามารถทำให้เราเจ็บตรงไหนก็ได้ และบอกว่าการเป็นโรคกับคนถูกผีเข้าก็แบบเดียวกัน แล้วแต่ว่ากรรมจะกำหนดให้ป่วยแบบไหน และโรคทุกโรคก็มีผีแห่งกรรมเข้าไปสิงสถิตย์ทุกอวัยวะแบบนี้ ดังนั้นอย่าไปคิดว่าอากรป่วยแล้วเป็นโรคเหมือนแพทย์
พวกเขาไม่ได้ทำร้ายคนป่วยที่กายหยาบ แต่ทำใกยอีกกายหนึ่ง ที่เป็นเหมือนกายทิพย์ ทำให้กายนี้เศร้าหมองและป่วยก่อน แล้วกายหยาบจะป่วย เมื่อเราภาวนานั้นเรารักษากายทิพย์ไว้ แต่เจ้ากรรมก็จะเอาอาวุธต่างๆทำร้ายกายทิพย์ที่เศร้าหมองเหมือนเป็นนักโทษของมัน อยู่ในภพของมัน ที่มันได้เข้ามายึดภูมิประเทศของเรา
ด้วยลักษณะเช่นนี้และเราจึงป่วย ถ้ารักษากายทิพย์ไว้ได้ และกรรมนั้นสิ้นสุดลงก็อาจรอดชีวิต นี่คือเหตุผลการภาวนารักษาโรคได้
เจ้ากรรมนายเวรเหล่านั้จะเข้าคิวก่อนหลัง ไม่ได้รุมพร้อมกันทั้งหมด ถ้าภาวนารักษาตนจริงจังแล้วจะเจอสภาพนี่ไม่ยาก แต่เพราะคนป่วยมองไม่เห็นรู้แต่อาการที่สัมผัสจึงไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร ถ้าติดต่อกันได้ เจ้ากรรมนายเวรไม่ปรานีใคร ไม่ลดหย่อนไม่เห็นใจ ทำตามหน้าที่ตรงไปตรงมา และทำให้เจ็บให้ชดใช้กรรม แล้วอาจแสดงให้เห็นว่ากรรมนี้ในชาตินั้นไปทำอย่างนี้มา หรือมองเห็นวิธีการที่เขาจะลงโทษเรา
บางพวกนั้นอาจอยู่ในอบายภูมิ เมื่อถึงคิวที่จะให้ผลนายนิรยบาลจะพาพวกนี้มา และนายนิรยบาลจะทำให้เราเห็นเขาในสมาธิ แล้วปล่อยให้พวกนั้นผ่านร่างกายเข้ามาทำร้าย โดยเราเห็นและรู้ก่อนแล้วก็เจ็บปวดโดยรู้สึกได้ชัดถึงวัตถุ (อาวุธ) ที่เขาใช้ทำร้ายร่างกายเรา
บางพวกใช้วิธีการทำคุณไสย์ส่งวัตถุเข้ามาทำร้ายอันเป็นไปตามกรรม อย่างไรก็ตามเมื่อภาวนาก็สามารถละลายสิ่งที่มาทำร้ายนั้นออกจากร่างกายไปได้เรื่อยๆ แต่ต้องเจ็บต้องปวด และเมื่อรู้เห็นก็หมดข้อสงสัยในเรื่องนี้ ทำสมาธิแล้วเพ่งด้วยตาด้วยอุคหนิมิต แล้วกำหนดสติคือทำความรู้ตัวในสัมปชัญญะไว้
โรคทุกโรคมีผี (กรรม) ทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้การทำบุญรักษาโรคจึงควรกระทำ แต่อย่าหวังจะหายจากโรคอย่างง่ายๆ อาจนานเป็นสิบและเกินสิบปีก็มี อาจเพียงยืดอายุ แต่ไม่ตายก็มีโอกาสได้สร้างกุศลก่อนตาย ถ้าตั้งใจปฏิบัติธรรมให้พ้นไปจากกองทุกข์ กรรมชั่วที่ให้ผลนั้นจะให้โอกาสแก่ชีวิตมาก แต่ก็ไม่ยอมผละไป กรรมที่มาถึงและให้ผลแล้วไม่ยอมถอยไปง่ายๆ อย่างเด็ดขาด
TU
บัวทอง
เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 1589
ตอบเมื่อ: 24 พ.ย.2004, 10:37 pm
เจ้ากรรมนายเวร (อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์)
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=283
โอ่
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 24 พ.ย.2004, 10:53 pm
เจ้ากรรมนายเวรนั้นต้องเห็นประจักษ์โดยตนเองจึงจะรู้ พวกเขารู้อดีตชาติของเรา และเราสวามารถค้นคว้าเอกสารที่เป็นประวัติของเราที่เราไม่เคยรู้ได้ตรงกันได้ ถ้าประวัติเราถูกคนเขียนและบันทึกไว้เป็นร้อยๆ ปีมาแล้ว
สายลม
บัวเงิน
เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245
ตอบเมื่อ: 24 พ.ย.2004, 11:17 pm
สาธุๆๆ ด้วยครับ
******
แนะนำให้ฟังการบรรยายเรื่องกฎแห่งกรรม ของหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน
คลิกเข้าไปเลือกฟังได้ที่นี่นะครับ
http://www.dhammajak.net/audio/dhamma/files/jarun.php
บัวหิมะ
บัวเงิน
เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273
ตอบเมื่อ: 24 ส.ค. 2008, 3:21 pm
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ จ้า
_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
กฎแห่งกรรม
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th