Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ของดีมีอยู่กับตัวเราทุกคน ก็พากันปฏิบัติเอา ทำเอา อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
med_med
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 29 ต.ค. 2006
ตอบ: 52

ตอบตอบเมื่อ: 12 พ.ย.2006, 2:14 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ของดีมีอยู่กับตัวเราทุกคน ก็พากันปฏิบัติเอา ทำเอา
ของดีมีอยู่กับตัวเราทุกคน ก็พากันปฏิบัติเอา ทำเอา
เมื่อเวลาตายแล้วจึงวุ่นวายหานิมนต์พระมากุสลามาติกา
ไม่ใช่เกาถูกที่คัน ต้องรีบแก้เสียบัดนี้
คือ เร่งทำความดีแต่บัดนี้ จะได้หายห่วง
อะไร ๆ ที่เป็นสมบัติของโลก มิใช้สมบัติอันแท้จริงของเรา
ตัวจริงไม่มีใครเหลียวแล สมบัติในโลกเราแสวงหามา
หากทุจริตก็เป็นไฟเผา เผาตัวทำให้ฉิบหายได้จริง ๆ

ข้อนี้ขึ้นอยู่กับความฉลาดและความโง่เขลาของผู้แสวงหาแต่ละราย
ท่านผู้พ้นทุกข์ไปด้วยความอุตส่าห์สร้างความดีใส่ตน
จนกลายเป็นสรณะของพวกเรา
ท่านไม่เคยมีสมบัติเงินทองเครื่องหวงแหน
เป็นคนร่ำรวยสวยงามเฉพาะสมัย
จึงพากันรักพากันห่วงจนไม่รู้จักเป็น รู้จักตาย
สำคัญตนว่าจะไม่ตายและพากันประมาทจนลืมตัว
เพลิดเพลินตักตวงเอาแต่สิ่งไม่เป็นท่าใส่ตนแทบหาบไม่ไหว

อย่าสำคัญว่าตนเอง เก่งกาจสามารถฉลาดรู้กว่าเขาเลย
ถึงกับสร้างความมืดมิดปิดตาทับถมตัวเอง จนไม่มีวันสร่างซา
เมื่อถึงเวลาจนตรอกอาจจนยิ่งกว่าสัตว์
ยังไม่เตรียมทราบไว้เสียแต่บัดนี้ ซึ่งอยู่ในฐานะอันควร

อาตมาขออภัยด้วย ถ้าพูดหยาบคายไป
แต่คำพูดที่สั่งสอนคนให้ละชั่ว ทำความดี
จัดเป็นหยาบคายอยู่แล้ว
โลกเราก็จะถึงคราวหมดสิ้นศาสนา
เพราะไม่มีผู้ยอมรับความจริง

การทำบาปหยาบคายมีมาประจำแทบทุกคน
ทั้งให้ผลเป็นทุกข์ ตนยังไม่อาจรู้ได้ และตำหนิมันบ้าง
พอมีทางคิดแก้ไข แต่กลับตำหนิคำสั่งสอนหยาบคาย
ก็นับเป็นโรคที่หมดหวัง

เมื่อมีผู้เตือนสติ ควรยึดมาเป็นธรรมคำสอน
จะเป็นคนมีขอบเขตมีเหตุผล ไม่ทำตามความอยาก
เมื่อพยายามฝ่าฝืนให้เป็นไปตามทางของนักปราชญ์
ได้จะประสบผลคือความสุขในปัจจุบันทันตา
แม้จะมิได้เป็นเจ้าของเงินล้าน
แต่มีทางได้รับความสุขจากสมบัติและความประพฤติดีของตน

คนฉลาดปกครองตนให้มีความสุขและปลอดภัย
ไม่จำต้องเที่ยวแสวงหาทรัพย์มากมาย
หรือเที่ยวกอบโกยเงินเป็นล้าน ๆ
มาเป็นเครื่องบำรุงจึงมีความสุข
ผู้มีสมบัติพอประมาณในทางที่ชอบ
มีความสุขมากกว่าผู้ได้มาในทางมิชอบเสียอีก
เพราะนั่นไม่ใช่สมบัติของตนอย่างแท้จริง
ทั้ง ๆ ที่อยู่ในกรรมสิทธิ์
แต่กฎความจริง คือ กรรมสาปแช่งไม่เห็นด้วย
และให้ผลเป็นทุกข์ไม่สิ้นสุด
นักปราชญ์ท่านจึงกลัวกันหนักหนา

แต่คนโง่อย่างพวกเราผู้ชอบสุกเอาเผากิน
และชอบเห็นแก่ตัว ไม่มีวันอิ่มพอ ไม่ประสบผล
คือ ความสุขดังใจหมาย

คนหิวอยู่เป็นปกติสุขไม่ได้ จึงวิ่งหาโน่นหานี่
เจออะไรก็คว้าติดมือมาโดยไม่สำนึกว่าผิดหรือถูก
ครั้นแล้วสิ่งที่คว้ามาก็มาเผาตัวเอง ให้ร้อนยิ่งกว่าไฟ
คนที่หลงจึงต้องแสวงหา
ถ้าไม่หลงก็ไม่ต้องหา จะหาไปให้ลำบากทำไม
อะไร ๆ ก็มีอยู่กับตัวเองอย่างสมบูรณ์อยู่แล้ว
จะตื่นเงาตะครุบเงาไปทำไม
เพราะรู้แล้วว่า เงาไม่ใช่ตัวจริง
ตัวจริง คือ สัจจะทั้งสี่ที่มีอยู่ภายในใจอย่างสมบูรณ์แล้ว

ความมั่งมีศรีสุขจะไม่บังเกิดแก่ผู้ทุจริต
สร้างกรรมชั่วมีมากเท่าไรย่อมหมดไปพ่อแม่
ปู่ย่า ตายายที่สร้างบาปกรรมไว้ผลกรรมนั้น
ย่อมตกอยู่กับลูกหลานรุ่นหลังให้มีอันเป็นไป
ผู้ทุจริตเบียดเบียน รังแกผู้อื่น
จะหาความสุขความเจริญไม่ได้เลย



....................................................

ที่มา : คติธรรม คำสอน ของ องค์ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ
http://www.agalico.com/main/index.php?id=22
 

_________________
ธรรมได้ก็ไร้ค่า ถ้าไม่ทำ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
I am
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 25 ต.ค. 2006
ตอบ: 972

ตอบตอบเมื่อ: 13 พ.ย.2006, 8:15 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ โมทนาครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง