Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
ยานอวกาศยักษ์ที่ดาวเสาร์
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
นานาสาระ
ผู้ตั้ง
ข้อความ
๛ Nirvana ๛
บัวบาน
เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2006
ตอบ: 403
ตอบเมื่อ: 26 ก.ย. 2006, 11:36 pm
ยานอวกาศยักษ์ที่ดาวเสาร์
เมื่อวันที่ 30 มกราคม 1996 Dr.Norman Bergrun นักวิทยาดาราศาสตร์อวกาศของทางองค์การนาซ่าได้จับภาพยานอวกาศขนาดมโหฬารได้ โดยจากกล้องฮับเบิล (Hubble Space Telescope) ขณะกำลังส่องดูความเคลื่อนไหวของดาวเคราะห์น้อยที่โคจรอยู่บริเวณวงแหวนดาวเสาร์ และแล้วก็พบเจอกับสิ่งประหลาดเข้าจึงได้ส่งคำสั่งไปยังดาวเทียมให้ทำการบันทึกภาพบริเวณนั้นไว้ จากรูปถ่ายที่ได้มาจากดาวเทียมสำรวจนั้นปรากฏสิ่งหนึ่งที่มีรูปร่างคล้ายกับยานพาหนะขนาดใหญ่โตติดมาด้วย โดยลักษณะของมันดูคล้ายกับยานอวกาศทรงซิการ์ ที่ดูเหมือนกำลังโคจรอยู่บริเวณรอบวงแหวนดาวเสาร์
ทางนาซ่าเองก็ประหลาดใจมาก เพราะไม่เคยปรากฏว่ามีการพบเจอสิ่งประหลาดหรือ UFOs ขนาดยักษ์แบบนี้ที่บริเวณดาวเสาร์มาก่อน แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายว่าทางนาซ่าสามารถถ่ายภาพเจ้ายานอวกาศลำนี้ไว้ได้เพียงแค่ 2 ใบแรกเท่านั้น เพราะว่าภาพถ่ายใบต่อๆ มาก็ไม่ปรากฏว่ามีรูปยานอวกาศลำนี้ติดอยู่ในรูปเสียแล้ว จึงสันนิษฐานว่ามันน่าจะเคลื่อนที่ไปจากบริเวณนั้นในช่วงเวลาที่ดาวเทียมกำลังถ่ายภาพ ไม่ใช่แค่นั้นครับ จากตอนต้นที่กล่าวไว้ว่ามันมีขนาดความยาวจากหัวถึงท้ายที่เรียกได้ว่ามโหฬารเลยทีเดียว แต่อยู่ๆ ก็หายไปจากสายตาของกล้องฮับเบิลและดาวเทียมในเวลาไม่ถึงวินาที !!! แสดงว่ายานลำนี้หรือสิ่งนี้ต้องมีความเร็วที่สูงมาก จากการประมาณความเร็วจากนักวิทยาศาสตร์ได้ให้ความเห็นว่ามันจะต้องมีความเร็วในการเคลื่อนที่ที่สูงมาก จนภาพถ่ายมุมกว้างจากกล้องฮับเบิลนั้นยังจับภาพได้เพียง 2 ใบ จากการถ่ายภาพต่อเนื่องกันและบริเวณที่จับภาพไว้ได้นั้นมีเนื้อที่ประมาณเกือบ 30 เท่าของเส้นผ่านศูนย์กลางของโลกต่อภาพหนึ่งใบ !!!
จึงคาดว่ายานอวกาศนั้นน่าจะมีการเคลื่อนไหวไปอย่างรวดเร็วในทันทีจนไม่ปรากฏในรูปใบต่อมาหรือบริเวณอื่นใดในภาพ หรือที่คาดกันว่ามันอาจจะใช้ความเร็วแสงในการเคลื่อนที่จากไปตรงที่มันอยู่ !! หรือมีอีกกรณีหนึ่งคือมันหายตัวไปหรือมีเครื่องพรางตนเองทำให้ยานล่องหน แต่ที่น่าตกใจไม่ใช่เพียงแค่นั้น ที่สำคัญเมื่อทางนาซ่าลองคำนวณขนาดของมันจากรูปถ่ายทั้ง 2 ใบและเปรียบเทียบขนาดกับวงแหวนของดาวเสาร์กับโลกของเราแล้วพบว่า ขนาดยานอวกาศลำนี้มีความยาวเท่ากับเส้นผ่านศูนย์กลางของโลกเราหรืออาจจะใหญ่กว่าเลยทีเดียว !! โดยพวกข้อมูลและรูปภาพเหล่านี้ภายหลังได้ตีพิมพ์ลงนิตยสาร "Science News vol. 149 No.5 p.71" ในเวลาต่อมาอีกระยะหนึ่ง โดยทาง Dr.Norman และทางนาซ่าเองก็ไม่ได้ความเห็นอะไรมากนัก
อีก 8 เดือนต่อมาเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 1996 ทางนาซ่าก็สามารถจับภาพของยานอวกาศลำนี้ได้อีกครั้ง และที่สำคัญมันโคจรอยู่ที่บริเวณที่ไม่ห่างไปจากเดิมคือแถววงแหวนดาวเสาร์ คราวนี้สามารถจับภาพได้ติดต่อกันเป็นเวลานานถึง 12 วัน โดยมันแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงตำแหน่งในการเคลื่อนเลย จนกระทั่งถึงวันที่ 22 สิงหาคม มันก็หายไปอีก ก็ไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมอะไรไปมากกว่าภาพถ่ายครั้งก่อนของมันและข้อสันนิษฐานต่างๆ ที่เพียงแต่เห็นมันเป็นเวลานานขึ้นเท่านั้นเอง ยานอวกาศลำนี้มาทำอะไรที่บริเวณวงแหวนของดาวเสาร์ ?? แค่ผ่านมา จอดซ่อมยาน เติมเสบียงหรือว่ากำลังปฏิบัติการอะไรซักอย่างหนึ่ง หรือว่ามันเป็นเพียงแค่ดาวเคราะห์น้อยหรือดาวหางธรรมดา ที่รูปร่างบังเอิญคล้ายกับรูปร่างของยานอวกาศเท่านั้น ?
ทาง Dr.Norman ก็ได้ออกมากล่าวว่ามันไม่ใช่ดาวเคราะห์หรืออุกกาบาตแน่นอน เพราะจากรูปทรงเลขาคณิต รวมไปถึงการปรากฏตัวและหายตัวไปแบบฉับพลันทั้งยังตำแหน่งในการโคจรแล้ว มันไม่ได้โคจรแบบสะเปะสะปะเลยหรือลอยอยู่เฉยๆ แบบดาวเคราะห์น้อย แต่มีวิถีโคจรที่ค่อนข้างมั่นคงและค่อนข้างรักษาระยะเดิมระหว่างวงแหวนของดาวเสาร์อยู่ตลอด กล่าวว่ามันน่าจะเป็นยานพาหนะหรือสิ่งประดิษฐ์ชนิดหนึ่งจากสิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญา และได้ให้สันนิษฐานว่ายานอวกาศลำนี้อาจจะกำลังทำอะไรสักอย่างแถววงแหวนของดาวเสาร์ที่อาจเกี่ยวกับแรงดึงดูด โดยจากขนาดอันมโหฬารของยานอวกาศยักษ์ลำนี้นั้น
Dr.Norman ยังกล่าวอีกว่า บางทีสิ่งมีชีวิตหรือสิ่งใดก็ตามที่ประดิษฐ์หรือขับยานลำนี้นั้น ขนาดร่างกายอาจจะไม่เท่ากับมนุษย์อย่างเราก็ได้ แต่อาจจะใหญ่กว่าชนิดหลายสิบหรือบางทีอาจหลายร้อยเท่า ฉะนั้นยานอวกาศที่อยู่ในภาพอาจจะเป็นแค่ยานสำรวจหรือยานโดยสาร ที่มีขนาดธรรมดาสำหรับผู้ขับเหมือนกับยานอวกาศหรือเครื่องบินของโลกเราก็เป็นได้ และทิ้งข้อคิดเห็นเอาไว้ว่าในจักรวาลนี้มนุษย์อาจไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่เป็นต้นแบบหรือขนาดมาตรฐาน บางทีอาจจะมีสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดใหญ่กว่าหรือเล็กกว่าเรามากอาศัยอยู่ก็เป็นได้ และกล่าวเสริมว่าที่ไม่ได้นำมาแถลงต่อสาธารณชนมาก่อน ตอนที่เพิ่งจับภาพนี้มาได้นั้นเพราะว่าเกี่ยวกับความมั่นคงและความปลอดภัยที่ไม่ใช่แค่ระดับชาติ แต่อาจจะเป็นระดับโลก ก็ว่ากันไป
บางข้อมูลก็ว่าเอาไว้ว่าที่ทางนาซ่าไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลต่างๆ หรือแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้และทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้นั้น เพราะว่ามีหน่วยงานราชการลับจากทางรัฐบาลเข้ามาควบคุมดูแลข้อมูลหรือบางสิ่งที่ไม่อาจจะเปิดเผยต่อสาธารณชนได้ ตั้งแต่ตอนที่ทางนาซ่าเริ่มบุกเบิกอวกาศ และเริ่มมีการพบสิ่งประหลาดหรือเหตุการณ์ประหลาดที่ไม่น่าจะใช่ฝีมือของมนุษย์โลก
จากนั้นทางรัฐบาลก็ได้นำหน่วยงานลับนี้เข้ามาควบคุมนาซ่าอีกทีนึง โดยหน่วยงานนี้มีชื่อเรียกกันภายในว่า "military intelligence agencies , MIA" ที่มีหน้าที่ปกปิดและคอยตรวจตราข้อมูลของนาซ่าจากการสำรวจอวกาศ ภาพ UFOs ภาพถ่ายจากอวกาศและข้อมูลต่างๆ ที่ไม่ปกติก่อนที่จะนำไปเปิดเผยหรือแถลงการณ์ทุกครั้ง โดยนี่ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ว่าทำไมทางนาซ่าถึงไม่ค่อยได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ UFOs ภาพถ่ายเอเลี่ยนหรือสิ่งแปลกจากอวกาศออกไปมากนัก เพราะไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานนี้นั่นเอง
อื้ม จบไปกับ CT อีกครั้ง ตอนนี้เป็นไงบ้าง สั้นๆ อาจจะน้อยไปนิดนึงนะครับ ข้อมูลคราวนี้มีเหตุผลให้ด้วยว่า ทำไมทางนาซ่าถึงไม่ค่อยได้เปิดเผยหรือออกมาพูดอะไรมากนัก เกี่ยวกับงานสำรวจหรือข้อมูลกับภาพถ่ายแปลกๆ ต่างๆ ของนาซ่าเอง และทำไมทางอเมริกาถึงมีหน่วยงานลับเยอะแยะจริงแฮะ ควบคุมโน่นนี่ไปหมด พวก Secret Agents อีกทั้งหลายอีก แต่หน่วยงานที่เค้าว่ามีพลังอำนาจมากที่สุดในอเมริกาทั้งหน้าฉากและหลังฉาก ทุกคนคงจะทราบแล้วนะครับ ก็คือพี่ใหญ่หรือ Big Brother , CIA นั่นเองไม่ว่าจะเป็นยังไง "the truth is out there" ความจริงอยู่ข้างนอกนั่น ละครับ ความจริงยังรอการค้นหาอยู่เสมอ.....
http://www.mythland.org/html/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=134
_________________
ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
นานาสาระ
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th