Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
จะจัดการกับชีวิตและจิตใจของตัวเองยังไงดี ?
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ทุกข์ใจ
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 14 ก.ย. 2006, 4:18 pm
จะจัดการกับชีวิตและจิตใจของตัวเองยังไงดีเมื่อรู้ว่าสามีมีเมียน้อย สามีบอกว่ายกโทษให้เค้าด้วย ผิดพลาดไปแล้ว ตั้งใจจะเลิกแต่ถูกขู่ว่าจะบอกคนที่บ้าน ตอนนี้เรารู้แล้ว สามีบอกว่าจะเลิกกับเมียน้อย สามีบอกว่าเมียน้อยไม่ใช่ผู้หญิงดี เค้าไม่คิดจะอยู่ด้วย สามีบอกว่ารักเรา และไม่มีวันจะไม่รักเรา บอกว่ากลับตัวกลับใจแล้ว และมีความรับผิดชอบ เรารู้สึกเหมือนกำลังถูกหลอก ไม่อยากจะเชื่อ แต่ไม่เชื่อก็ทุกข์ใจ เวลาสามีไม่อยู่ ใจก็คิดว่าเค้ากำลังทำอะไรกันอยู่ ว้าวุ่น สับสน ยิ่งตามก็เหมือนวิ่งตามเงา ตามเท่าไหร่ก็จับไม่ได้ อยู่เฉยๆ ให้เงาตามเองดีกว่ามั้ง ไม่ต้องเหนื่อย แต่ทำใจลำบาก ตอนนี้ได้แต่ส่วดมนต์ ทำสมาธิได้นิดๆ หน่อยๆ ตามสติที่กำลังตก เราให้สามีสาบานต่อหน้าพระ เค้าก็ทำ คำสาบานเชื่อได้แค่ไหนนะ จริงๆ แล้วเราก็รู้ว่าทั้งหมดนี้ อยู่ที่ใจของเราเองเท่านั้น แต่จะจัดการกับใจที่เจ็บช้ำ และทุกข์มากมายเหลือเกินนี้ได้ยังไง หากจะถามว่าให้อภัยในความผิดพลาดของคน 2 คนนี้หรือยัง ก็ตอบได้เลยว่าให้อภัยไปแล้วและขอให้ไปดี แต่ยังเจ็บและเสียใจอย่างที่สุด และหากจะถามว่ารักสามีมากแค่ไหน ก็ขอตอบว่า ใจให้ไปนานแล้ว ที่เหลือทั้งชีวิตอยากได้เมื่อใหร่ บอกได้เลย
ทิพย์
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 16 ก.ย. 2006, 5:24 pm
ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ การที่คุณรู้สึกระแวงสามีนั้นเป็นเรื่องธรรมดาของปุถุชนผู้ซึ่งมีความรัก และรู้สึกว่าถูกบุคคลที่รักนั้นหักหลัง แต่การเยียวยาจิตใจของคุณเองต่อจากนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่าความรักและความแค้นที่คุณมีให้กับสามี เพราะสิ่งที่คุณคิด สิ่งที่คุณกระทำจะก่อให้เกิดภพชาติ ซึ่งจะทำให้เวียนว่ายตายเกิดเพื่อรับความสุข ทุกข์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าคุณยังไม่สามารถตัดได้ ดังนั้นธรรมะที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนไว้นั้น เป็นสิ่งที่จะสามารถเยียวยาจิตใจของคุณได้ดีที่สุด พระองค์ทรงสั่งสอนไว้ให้เราหมั่นสังเกตและรู้เท่าทันจิต ดังนั้นก่อนอื่น อยากให้คุณทำความเข้าใจเกี่ยวกับสภาพจิตใจของคุณก่อน ว่าขณะนี้จิตของคุณย่ำแย่ขนาดไหน พยายามรับรู้ว่า ณ เวลาที่คุณนั่งอยู่นี้มีความรู้สึกเช่นไร เพื่อเป็นการรู้เท่าทันจิต ค่อยพิจารณาว่าทุกอย่างมันไม่เที่ยง เป็นไปตามกฎไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ทุกสิ่งไม่เที่ยง เป็นทุกข์และไม่มีตัวตน ไม่ใช่ของเรา ลองพิจารณาดูอารมณ์ของคุณ แม้เวลาคุณทุกข์ใจ ความทุกข์ใจนั้นก็มีเกิด ดับ ตลอดเวลา หรือแม้เวลาดีใจ ความดีใจนั้นก็มีเกิดดับ ไม่คงอยู่ไปตลอด แม้แต่ร่างกายที่เป็นที่ตั้งของวิญญาณของคุณ ก็ยังเสื่อมสลาย และไม่ใช่ของคุณ เพราะถ้าเป็นของคุณจริง คุณต้องควบคุมได้ ไม่ให้แก่ ไม่ให้เจ็บ ไม่ให้ตาย เปรียบเทียบกับเรื่องสามีของคุณ สามีของคุณเป็นคนอื่น มีรูป อารมณ์ และ จิตใจ แตกต่างกับตัวคุณ คุณจะควบคุมได้อย่างไร เรื่องที่สามีกระทำไปแล้ว และเรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ให้อภัย และ แผ่เมตตาให้กับสามี และเริ่มต้นที่จะเรียนรู้ เข้าใจ และรู้เท่าทันจิตใจของตัวเอง เพื่อให้คุณปลดปล่อยตัวเองจากความรู้สึกที่กำลังเผชิญอยู่นะคะ
แวะมาหาความรู้
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 16 ก.ย. 2006, 10:54 pm
ถ้ามีลูกแล้ว ก็น่าจะคิดถึงลูกบ้าง จิตใจจะได้เข้มแข็ง เพราะมีทั้งลูกและเมีย ที่จะต้องเสียใจกับการกระทำ เรื่องแบบนี้ค่อยๆพูดจาโน้มน้าวกันดีๆ ใจเย็นๆ ควรคิดถึง ลูก ให้มาก ครอบครัวจะได้ไม่ร้าวฉาน ลูก ของคุณคือหลักฐานแห่งความ รัก ที่มีตัวตนให้เห็น มีความคิดความรู้สึก เป็น ผลพวงแห่งความรักที่คุณทั้งสองให้กำเนิดขึ้นมาอย่าให้ หลักฐาน นี้ ต้อง ข่มขื่น เพราะ ความรู้สึกเผลอใจเพียงชั่วครู่เลย
แต่ถ้ายังไม่มี ลูก ก็ไม่รู้เหมือนกันนะ
ทุกข์ใจ
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 18 ก.ย. 2006, 8:29 am
ขอบคุณมากนะคะ กับคำแนะนำ มีค่าและมีความหมายมากเลยกับคนที่เจ็บช้ำอยู่นี้ จะพยายามทำและจัดการกับตัวเองให้ได้เร็วที่สุด เพราะเหมือนกำลังถูกกลืนกินจิตและวิญญานให้ตายไปพร้อมกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ทุกข์มากมายจริงๆ ขอให้ทุกท่านพบแต่สิ่งที่ดีและมีความสุขมากๆ ค่ะ
nathapat sommut
บัวผลิหน่อ
เข้าร่วม: 06 ก.ย. 2006
ตอบ: 2
ที่อยู่ (จังหวัด): นนทบุรี
ตอบเมื่อ: 18 ก.ย. 2006, 2:12 pm
สวัสดีค่ะ.... เป็นคนหนึ่งที่เจอสภาพเดียวกับคุณ แต่คิดได้ทัน ชีวิตเรามีอะไรอีกมากมาย พ่อแม่พี่น้อง เพื่อนฝูงที่รักเรา ที่สำคัญ มีลูกชายอีกคนหนึ่ง...ที่คอยมองเราอยู่ว่าเราจะเดินต่อไปอย่างไร
สู้ค่ะ ร้องไห้อยู่ 3 วัน....แล้วลุกขึ้นมาคิดว่า ทุกอย่างในโลกไม่มีอะไรเป็นของเรา...แม้แต่ตัวเราเอง
คนเราทุกข์เพราะ ......คนอื่นไม่เป็นดั่งใจเรา...ตรงนี้ได้จากหนังสือเข็มทิศชีวิต...ของคุณฐิตินารถ
ทำใจได้เลยค่ะ .ขอหย่า ......เราเลี้ยงลูกเอง .....ทำเท่าที่ทำได้ .ทุกวันนี้ เช้าสวดมนต์ก่อนออกจากบ้าน ก่อนนอนอีกรอบ......ใจนิ่งขึ้นมาก.... ทุกอย่างอโหสิกรรมให้ทุก ๆ คน ชาติหน้าจะได้ไม่ต้อง
มาจองเวรกัน.....เป็นกำลังใจให้นะคะ ......
_________________
คนเราทุกข์ เพราะคนอื่นไม่ได้ดั่งใจ
ทุกข์อยู่ไหน แก้ที่ตรงนั้น ...
พรเทพคนงาม
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 18 ก.ย. 2006, 3:06 pm
อยากช่วยเหมือนกัน แต่ไม่รู้จะช่วยอย่างไรดี แต่ก็ขอเป็นกำลังใจให้ก็แล้วกันนะครับ
kt13
บัวใต้ดิน
เข้าร่วม: 11 พ.ค. 2005
ตอบ: 18
ตอบเมื่อ: 20 ก.ย. 2006, 2:26 pm
อิอิ ฮิตจริงๆ รัก ๆ ใคร่ ๆ
อยากจะออกจากทุกข์ ก็ต้องรู้เหตุแห่งทุกข์
อิอิ เหมือนใครๆ ทั่วๆ ไปเขาบอก
อุปมาเหมือนคนป่วย ที่ไม่รับรู้ว่าตัวเองป่วย
รักษายังไง ก็ไม่หายขาดสักที
รัก เหมือนแผลที่คัน เพราะยิ่งคันก็ยิ่งเกา
ยิ่งเกาก็ยิ่งมัน เกามากๆแผลก็ถลอก มีเลือดออก
แต่ก็ยังติด ( ชอบ ) ในความมันในเวลาเกา
เลยเลือกไม่ถูกว่าจะหยุดเกา หรือจะเกาต่อ
มือก็เกา กายก็เจ็บ ใจก็สุกข์แบบทุกข์ อิอิ
คุณต้องมองด้วยตัวของคุณ ใจของคุณ
คุณถึงจะรู้ว่ายืนอยู่จุดไหน
อิอิ แค่นี้พอ
ฝนหยุดตกไปแล้วเมื่อวันวาน ไหนเรายังเปียกอยู่หนอ
? อิอิ บายๆคับ
_________________
ความสุข คือความสงบ
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 23 ก.ย. 2006, 4:35 pm
เป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ ดิฉันเป็นคนหนึ่งซึ่งเคยมีปัญหาเช่นเดียวกับคุณ แต่สามารถผ่านมันมาได้ ซึ่งตอนนั้นแทบไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ คิดสิ้น อยากจะลาโลกนี้ไปเลย เพราะปัญหาไม่ได้มีแค่สามีมีเมียน้อย แต่ยังมีปัญหาด้านเศรษฐกิจเข้ามาซ้ำเติมอีกด้วย คือสามีดิฉันนอกจากจะมีเมียน้อยแล้ว ยังติดการพนันอีกด้วย เงินทองก็ไม่ให้แถมพอโมโหมาก ๆ ก็เคยลงไม้ลงมือกับดิฉันด้วย ตอนนั้นเป็นช่วงที่คิดว่าต่ำที่สุดในชีวิตแล้ว เพราะมีปัญหาหนี้สิ้นมากมาย ดิฉันพยายามแก้ปัญหาพยายามทำใจ แต่เขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ที่สำคัญผู้หญิงคนนั้นอายุน้อยกว่าดิฉันและเป็นเด็กในที่ทำงานเดียวกัน ซึ่งดิฉันก็ได้คุยด้วย เขายังปฏิเสธว่าไม่มีอะไรกับสามีดิฉัน บอกว่าเธอเองก็มีแฟนอยู่แล้วตอนนี้อยู่เมืองนอก ดิฉันตัดสินใจขอหย่าขาดจากเขา โชคดีที่ไม่มีลูก ที่ผ่านมันมาได้เพราะมีคุณแม่คอยให้กำลังใจ และใช้ธรรมะในการแก้ปัญหา โดยดิฉันพยายามมองว่ามันเป็นกรรมที่เราอาจทำกับเขามาตั้งแต่ชาติก่อน เราจึงต้องมาชดใช้ในชาตินี้ เมื่อชดใช้กันหมดแล้วก็แล้วต่อกัน ดีเสียอีกที่เราจะได้มาเริ่มต้นชีวิตใหม่เร็ว ๆ เพื่อจะได้เจอกับสิ่งที่ดี ๆ ที่จะเข้ามาในชีวิต ดิฉันหย่าขาดจากเขามาโดยที่ไม่ได้อะไรมาเลยแม้แต่บ้านและรถ แถมยังมีหนี้สินติดตัวมาอีกหลายแสน ซึ่งดิฉันก็ขอแค่ได้ชีวิตตัวเองคืนมาเท่านั้นก็พอใจแล้ว เมื่อเลิกกันดิฉันรู้สึกว่าชีวิตดีขึ้นนจริงๆ เพราะโชคดีที่ได้รับราชการ ทุกสิ่งที่ผ่านมาทำให้ดิฉันเข้มแข็งขึ้นมาก โชคดีที่มีเพื่อน ๆ ทุกคน คอยให้กำลังใจ ต่อไปนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิตดิฉันคิดว่าดิฉันสามารถต่อสู้กับมันและยอมรับได้ทุกเรื่อง ตอนนี้คิดเพียงแต่ว่าจะทำยังไงให้ชีวิตตัวเองดีขึ้น เรื่อย ๆ พยายามศึกษาหาความรู้ หาอาชีพเสริม มีความสุขกับชีวิตที่เป็นอยู่ มีแม่ที่รักและเข้าใจเสมอ รักตัวเองมากขึ้น ตอนนี้ดิฉันศึกษาด้านธรรมะมากขึ้น เมื่อมีเวลาว่างก็ไปบวชชีพราหมณ์ เช่น วันเสาร์อาทิตย์ ซึ่งสิ่งที่ดิฉันได้กลับมาก็คือความสงบ เมื่อมีปัญหาเข้ามาในชีวิตก็มีสติ คิดพิจารณาได้ดีขึ้น มีสติในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เข้ามาไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก มองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา ทุกปัญหามีทางออก ปัญหามีไว้แก้ และในวันนี้ดิฉันได้เข้าใจชีวิตมากขึ้น มองปัญหาเรื่องการมีเมียน้อยเป็นเรื่องธรรมดา เพราะในสังคมของเราในสมัยนี้เห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งดิฉันก็เห็นตัวอย่างในที่ทำงานอยู่ทุกวัน ดิฉันไม่ได้คิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น แต่มีสิ่งที่ดิฉันยึดถือปฏิบัติในการดำเนินชีวิตก็คือการยึดถือศีล 5 ซึ่งเป็นหลักของมนุษย์ ถ้าคนเรายังปฏิบัติแค่ศีล 5 ยังไม่ได้ก็คงเอาดีไม่ได้อย่างที่ท่านหลวงพ่อจรัญได้กล่าวไว้ ดิฉันอยากให้คุณเข้มแข็งที่จะต่อสู้กับชีวิตต่อไป ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ :
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
ไม่สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th