Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 วัวเจ้าพลัง (ธรรมสภา) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 10 พ.ย.2004, 5:47 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



วัวเจ้าพลัง .jpg


วัวเจ้าพลัง

นิทานธรรม ฉบับพิเศษ
จัดพิมพ์โดย ธรรมสภา



ที่เมืองตักสิลา แคว้นคันธาระ ในรัชกาลของพระเจ้าคันธาระพระองค์หนึ่งได้มีการท้าพนันให้วัวนันทิวิสาลตัวเดียวลากเกวียนหนึ่งร้อยเล่ม ครั้งนั้น พระพุทธเจ้าของเราเกิดเป็น วัวนันทิวิสาล พระอานนท์เกิดเป็นพราหมณ์เจ้าของวัวนันทิวิสาลนั้น

วัวนันทิวิสาลเป็นวัวหนุ่มแข็งแรง มีคนนำมามอบให้พราหมณ์ในฐานะเป็นเครื่องทักษิณาคราวที่พราหมณ์ไปประกอบพิธีทางศาสนาให้ และโดยเหตุนี้วัวนั้นมีลักษณะดีและแสนรู้นับแต่วันที่ได้มาพราหมณ์มีแต่ความเบิกบาน เขาจึงตั้งชื่อให้ว่า “นันทิวิสาล” (วัวผู้ทำให้เกิดความเบิกบานใจอย่างกว้างขวาง)

พราหมณ์รักวัวนันทิวิสาลเหมือนลูก ได้เลี้ยงดูอย่างดีฝ่ายวัวนันทิวิสาลก็รับรู้ความรักของนายที่มีต่อตนได้เป็นอย่างดีเช่นกัน จึงแสดงความรักตอบแทนออกมาด้วยการทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย พราหมณ์มีฐานะแค่พอมีพอกิน วัวนันทิวิสาลเห็นความเป็นอยู่แล้วอยากจะช่วยเจ้าของอยู่ตลอดเวลา

“พราหมณ์เลี้ยงเรามาอย่างยากลำบาก เราจะมีทางตอบแทนพระคุณอย่างไรได้บ้าง” วัวคิดพลางหาวิธีช่วยนาย

“เราเป็นวัวแข็งแรง เราควรจะแสดงพลังหาค่าเลี้ยงดูมาให้พราหมณ์ไว้ใช้จ่ายจะดีกว่า”

ครั้นคิดได้ดังนี้ วันหนึ่ง ขณะที่พราหมณ์กำลังให้หญ้าให้น้ำเขากิน วัวนันทิวิสาลก็พูดขึ้นว่า

“ท่านพราหมณ์ ข้าพเจ้าจะช่วยหาเงินให้ท่านไว้ใช้สักพันกหาปณะ”

“นันทิวิสาล” พราหมณ์หัวเราะ “เจ้าจะหามาจากไหมข้าเป็นคนแท้ๆ ยังหาไม่ค่อยจะได้เลย”

“หาได้ซีท่านพราหมณ์ ขอให้ท่านเชื่อมันในตัวข้าพเจ้า” วัวนันทิวิสาลยืนยัน

“เจ้าจะให้ทำอย่างไร”

“ท่านพราหมณ์ ท่านจงเข้าไปหาโควินทกเศรษฐีแล้วคุยถึงสรรพคุณของข้าพเจ้าว่ามีกำลังมาก สามารถลากเกวียนหนึ่งร้อยเล่มไปพร้อมกันได้”

“แล้วยังไงต่อ”

“โควินทกเศรษฐีก็คงไม่เชื่อท่าน แต่ท่านไม่ต้องตกใจตอนนี้ก็ขอให้ท่านท้าพนันได้เลย”

“เจ้าจะให้ข้าเอาอะไรไปพนันกับเขา”

“ข้าพเจ้ารู้น่ะว่าท่านมีเงินอยู่หนึ่งพันกหาปณะ”

พราหมณ์คิดหนัก แม้จะยอมรับว่าวัวนันทิวิสาลแข็งแรงจริงแต่ก็ยังไม่มั่นใจว่าจะทำได้อย่างที่พูด เพราะเกวียนตั้งหนึ่งร้อยเล่มและแต่ละเล่มบรรทุกของหนักอาทิกรวดหินดินทรายเต็มหมด

“ท่านพราหมณ์ ท่านอย่าวิตกไปเลย ขอให้ท่านเชื่อมั่นเถอะ” วัวนันทิวิสาลให้ความมั่นใจ

เมื่อวัวนันทิวิสาลให้ความมั่นใจเช่นนั้น พราหมณ์จึงไปหาโควินทกเศรษฐี ชวนคุยถึงเรื่องต่างๆ ก่อนแล้วจากนั้นจึงคุยถึงเรื่องที่ต้องมาพบ

“ท่านเศรษฐี ท่านว่าในเมืองนี้วัวของใครแข็งแรง” พราหมณ์เปิดฉาก

“เห็นเขาว่ามีเยอะน่ะ” โควินทกเศรษฐีตอบ

“แต่ข้าพเจ้าว่าวัวของข้าพเจ้าตัวเดียวสามารถเกวียนที่ผูกโยงต่อกันได้ถึงร้อยเล่ม” พราหมณ์คุยโอ้อวด

“เกวียนเปล่าน่ะซี” โควินทกเศรษฐีแย้ง

“ไม่ใช่...ไม่ใช่... ท่านเศรษฐี เกวียนบรรทุกกรวดหินดินทรายนี่แหละ”


มีต่อ >>>>>
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 10 พ.ย.2004, 5:52 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

“วัวที่ไหนจะแข็งแรงถึงขนาดนั้น”

“วัวของข้าพเจ้านี่แหละ”

“พนันไหมล่ะ”

“ท่านจะวางเดิมพันเท่าไร”

“พันกหาปณะเลย”

พราหมณ์ดีใจมากที่ทุกอย่างเป็นไปตามที่วัวนันทิวิสาลวางแผนไว้ให้ เขารับคำท้าของโควินทกเศรษฐีทันที

พราหมณ์ขมีขมันจัดการหาเกวียนมาหนึ่งร้อยเล่มแล้วบรรทุกแต่ละเล่มเต็มด้วยกรวดหินดินทราย ผูกเชือกเรียงติดกันเป็นแถวยาวเหยียด ครั้นแล้วได้อาบน้ำแต่งตัวให้วัวนันทิวิสาลด้วยการเจิมของหอมคล้องพวงมาลัยทั้งที่คอวัวและที่ธูปเกวียน เมื่อถึงเวลาท้าพนัน พราหมณ์ก็ขึ้นนั่งบนธูปเกวียนเงื้อประตักพลางตวาดเสียงดังลั่น

“ไป เจ้าวัวโกง จงลากไป”

วัวนันทิวิสาลไม่คิดว่าพราหมณ์จะเรียกตนเองด้วยถ้อยคำหยาบคายเช่นนั้นต่อหน้าสาธารณชน ซึ่งมามุงดูกันล้นหลาม จึงรู้สึกอายและโกรธปนน้อยใจ ขาทั้ง ๔ ข้างแข็งทื่อก้าวไม่ออก เกวียนทั้งหนึ่งร้อยเล่มมิได้ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อยจนล่วงเวลาที่กำหนดไว้ ผลจึงออกมาว่า พราหมณ์แพ้พนันและต้องจ่ายเงิน ๑,๐๐๐ กหาปณะให้แก่โควินทกเศรษฐี

“ฮ่า...ฮ่า...” โควินทกเศรษฐีหัวเราะลั่น “เห็นไหม ข้าว่าแล้ว วัวที่ไหนมันจะมาเก่งปานนั้น”

หลังจากเสียเงิน ๑,๐๐๐ กหาปณะแล้ว พราหมณ์ก็เสียใจเดินคอตกกลับบ้านโดยไม่สนใจวัวนันทิวสาลเลยแม้แต่น้อยฝ่ายวัวนันทิวิสาลก็เดินตามพราหมณ์กลับบ้านอยู่ห่างๆ

พราหมณ์เสียใจมากถึงขั้นนอนซม วัวนันทิวิสาลเห็นเจ้าของนอนซมก็เข้าใจได้ดีว่าเพราะเสียใจที่เสียเงินไป ๑,๐๐๐ กหาปณะ วันหนึ่ง หลังจากหายน้อยใจแล้วจึงพูดกับพราหมณ์ว่า

“ท่านพราหมณ์ ตั้งแต่ข้าพเจ้ามาอยู่กับท่านจนถึงทุกวันนี้ ท่านเคยเห็นข้าพเจ้าทำสิ่งของเครื่องใช้ในเรือนของท่านแตกหักเสียหายบ้างหรือเปล่า”

“ไม่เคย” พราหมณ์ตอบเสียงอ่อย

“เคยเห็นข้าพเจ้าถ่ายอุจจาระปัสสาวะเรี่ยราดบ้างหรือเปล่า”

“ไม่เคย”

“แล้วทำไมท่านจึงด่าข้าพเจ้าว่าเป็นวัวโกงเล่า”

“ข้าก็ว่าไปอย่างนั้นเอง แต่จริงแล้วไม่มีเจตนาจะทำให้เจ้าเสียใจหรอก”

“ถึงท่านไม่มีเจตนาแต่ข้าพเจ้าก็เสียหาย คนทั่วไปที่เขาไม่รู้ความจริงก็จะเข้าใจได้ว่าข้าพเจ้าเกเรเป็นวัวขี้โกง ฉะนั้นความเสียหายที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ท่านนั้นแหละผิด ข้าพเจ้าไม่ผิด”

“เอาละ...นันทิวิสาล ทุกอย่างผ่านพ้นไปแล้ว ไม่ว่าข้าผิดหรือเจ้าถูก มันก็เอาคืนไม่ได้แล้ว”

วัวนันทิวิสาลมองดูหน้าพราหมณ์เจ้าของแล้วก็รู้สึกสงสาร จึงหมอบลงใกล้ๆ พราหมณ์แล้วปลอบโยน

“ท่านพราหมณ์ ข้าพเจ้าจะเอาทรัพย์มาคืนให้ ขอให้ท่านไปท้าพนันใหม่ คราวนี้เพิ่มไปอีกหนึ่งเท่าเป็นสองพันกหาปณะ แต่ขออย่างเดียวคือ อย่าเรียกข้าพเจ้าว่าวัวโกงเหมือนคราวที่แล้วก็แล้วกัน”

พราหมณ์ตกลงตามที่วัวแนะนำ เขาจึงไปท้าพนันกับโควินทกเศรษฐีใหม่ เศรษฐียินดีรับคำท้าและวางเงินเดิมพัน จำนวน ๒,๐๐๐ กหาปณะทันที

ครั้นถึงวันท้าพนัน หลังจากทำทุกอย่างเหมือนครั้งที่แล้วพราหมณ์ก็นั่งบนธูปเกวียน เอามือลูบหลังวัวนันทิวิสาลเบาๆ พลางร้องบอกว่า

“ไปเถิดนะ วัวที่แสนดี ช่วยลากเกวียนไปให้พ่อด้วย”

จบคำ วัวนันทิวิสาลก็ลากเกวียนหนึ่งร้อยเล่มไปอย่างง่ายดายเป็นระยะทางประมาณ ๑ กิโลเมตร โดยลาก วนให้เกวียนเล่มแรกกลับมาจอดอยู่ตรงที่ที่เกวียนเล่มสุดท้ายเคยจอด ทันทีที่วัวนันทิวิสาลลากเกวียนได้สำเร็จ ประชาชนที่มาคอยชมต่างโห่ร้องปรบมือต้อนรับกันอึงมี่ นอกจากนั้นยังให้รางวัลเป็นทรัพย์จำนวนมากอีกด้วย ฝ่ายพราหมณ์ผู้เป็นเจ้าของน้ำตาไหลพรากด้วยความตื้นตันใจขณะรับเงินพนัน ๒,๐๐๐ กหาปณะจากโควินทกเศรษฐี

นิทานธรรมเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ในการทำงานร่วมกันการให้เกียรติเพื่อนร่วมงานเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อนร่วมงานบางคนแม้จะอยู่ในฐานะที่ต่ำกว่าเรา แต่เขาก็มีชีวิต มีความคิด มีความรู้สึกเช่นเดียวกับเรา การให้เกียรติมีหลายวิธีการพูดจาด้วยดีก็เป็นการให้เกียรติอย่างหนึ่ง



-------จบ-------
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
นิพพานะ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 11 พ.ย.2004, 10:21 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
 
admin
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 15 ธ.ค. 2004
ตอบ: 1886

ตอบตอบเมื่อ: 19 ธ.ค.2004, 3:50 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอขอบพระคุณ..... คุณสอาด พักษร
artp009@yahoo.com
สมาชิกลำดับที่ : 27 เป็นพิเศษ

สำหรับการเป็นผู้พิมพ์เนื้อหาทั้งหมดของหนังสือ "นิทานธรรม ฉบับพิเศษ"
จัดพิมพ์โดย ธรรมสภา จำนวน 2 เล่ม..... ลงในเว็บธรรมจักร นะค่ะ

ขอให้การเสียสละตนเองเพื่อส่วนรวมและพระพุทธศาสนา นำมาซึ่งความ
เจริญรุ่งเรืองร่มเย็นในพระธรรมของพระพุทธองค์นะค่ะ คุณสอาด
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
^^o^^
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 15 พ.ค.2007, 1:26 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ
 
suvitjak
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 26 พ.ค. 2008
ตอบ: 457
ที่อยู่ (จังหวัด): khonkaen

ตอบตอบเมื่อ: 03 มิ.ย.2008, 4:07 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ ขอบคุณครับ พุทโธ
 

_________________
ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง