Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 เทศน์โปรดนักศึกษามหิดล (หลวงปู่ขาว อนาลโย) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
สาวิกาน้อย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 27 มี.ค. 2006
ตอบ: 2065

ตอบตอบเมื่อ: 02 ก.ย. 2006, 6:24 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

เทศน์โปรดนักศึกษาสมาชิกกลุ่มอาสา ม.มหิดล
ที่วัดถ้ำกลองเพล ในวันสงกรานต์ พ.ศ. ๒๕๒๑
โดย หลวงปู่ขาว อนาลโย



พวกท่านทั้งหลายเป็นนักศึกษาแพทย์และนักศึกษาอย่างอื่นอยู่ในมหาวิทยาลัย นับเป็นผู้มีบุญญาบารมี ได้สั่งสมมาแต่ก่อนๆ จึงได้เข้ามาอยู่ในสถานที่ที่ดี มีครูอาจารย์ที่เป็นแบบอย่างจำนวนมาก ได้เล่าเรียนวิชาที่ดี มีประโยชน์แก่ตนเองและแก่คนอื่นๆ เรียนแล้วก็จะสอนผู้อื่นต่อไป พวกนักศึกษาแพทย์นั้น มีความรับผิดชอบมากกว่าพวกอื่นๆ ทำงานเกี่ยวกับชีวิตคน ทำดีก็ได้บุญ ทำไม่ดีพลาดพลังไปก็เป็นบาปใหญ่ ต้องอบรมสติไว้รักษาตัว ไม่พลั้งเผลอ ทำอันตรายต่อคนอื่นและต่อตัวเอง จะมีสติได้ต้องมีศีล

ทุกคนต้องมีศีล จึงจะเป็นคนดีได้ คนไม่มีศีลทำอะไรก็ผิดๆ เหมือนเรือไม่มีหางเสือ เพราะฉะนั้น ทุกคนต้องมีศีล ไม่ว่าจะเล่าเรียนอะไร จะมีอาชีพอะไร ศีลเป็นของคนทุกคน ศีลทำคนให้เป็นคน ทำมนุษย์ให้เป็นเทวดา คนไม่มีศีลก็เหมือนสัตว์ ทำอะไรไปตามกิเลสชักนำ กิเลสคือ โลภ โกรธ หลง มันคอยชวนคนให้ทำผิดตลอดเวลา คนที่ไม่ได้ศึกษาธรรมย่อมไม่รู้จักมัน หลงเชื่อมัน ทำตามมัน มันก็พาไปพบทุกข์ คนไม่รู้ก็คิดว่าเป็นความสุข รูป รส กลิ่น เสียง พอหลงตามไปแล้ว ทีหลังจึงรู้ว่ามันเป็นสุขปลอม เป็นสุขแต่ข้างนอก ข้างในเป็นทุกข์

ตอนแรกๆ สนุกสนาน นานไปได้ทุกข์ยาก หนักๆ เข้า ตกนรกทั้งเป็น ตายแล้วก็ยังตกนรกอีก คนฉลาดต้องรีบเร่งศึกษาธรรม ท่านทั้งหลายเป็นนักศึกษา ศึกษาทางโลกมากแล้ว มาศึกษาธรรมะเสียบ้างเป็นการดี ถูกต้อง ขั้นแรกคือศีล ศีลห้านั่นแหละพอแล้ว ถือให้มันดีๆ ให้มั่นคง ให้บริสุทธิ์ พอแล้ว ท่านว่าถือตามฐานะ พวกท่านเป็นนักศึกษา ศีลห้าก็ดีแล้ว ถ้าใครถึงศีลแปด ก็ยิ่งดี ถ้าทำได้

ศีลเป็นเครื่องระงับสงบกายวาจา กายวาจาสงบ จิตก็สงบ เมื่อจิตสงบ ก็ตั้งมั่น เกิดเป็นสมาธิ จิตมีอำนาจ มีกำลัง เมื่อจิตตั้งมั่นแท้แล้ว อยากรู้อะไรก็รู้ได้ เกิดปัญญาเห็นแจ้ง เมื่อมีปัญญาแล้วก็ไม่หลงอะไรอีกต่อไป ไม่ทำอะไรผิด มีสติ รู้เท่าทัน อะไรถูกอะไรผิด เมื่อไม่ทำอะไรผิด ความทุกข์ก็ไม่มี มีปัญญารู้ตามความเป็นจริง ความเศร้าโศกเสียใจอะไรก็ไม่มี เพราะรู้แล้วว่ามันเป็นอย่างนั้นเอง ความพลัดพรากจากของรัก ความไม่ได้สิ่งที่อยากได้ ความไม่ได้สิ่งที่อยากเป็น เหล่านี้เป็นของธรรมดา ไม่ใช่เรื่องสำหรับเศร้าโศกเสียใจ มีปัญญาเห็นจริงย่างนี้แล้ว คิดอะไรก็ดี ทำอะไรก็ดี พูดอะไรก็ดี ดีทั้งนั้น ท่านทั้งหลายควรศึกษาเรื่องเหล่านี้ไปพร้อมๆ กับศึกษาวิชา แล้วกาลภายหน้าก็จะแจ่มใส เอาเท่านี้ละนะ

(จากบันทึกย่อของ อ.ก.)



>>>>> จบ >>>>>



.........................................................

คัดลอกมาจาก ::
หนังสืออนาลโยวาท
พระธรรมเทศนาของพระอาจารย์ขาว อนาลโย และประวัติความอาพาธ
คณะศิษยานุศิษย์จัดพิมพ์ถวายโดยเสด็จพระราชกุศล
ในการพระราชทานเพลิงศพ วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๗
http://www.dharma-gateway.com/
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง