ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
พรเทพคนงาม
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
30 ส.ค. 2006, 3:07 am |
  |
เพื่อนผมคนหนึ่งเป็นคนกินเหล้า ผมก็บอกเขาว่าถ้ากินเหล้าจะขาดสติ แต่เขาบอกว่าขณะเขาเมา เขายังมีสติอยู่ เขาบอกว่าเขารู้เหตุการณ์ทุกอย่างขณะเมา เพียงแต่ควบคุมตัวเองไม่ได้เท่านั้น อยากถามว่าอันนั้นคือสติจริงหรือไม่  |
|
|
|
|
 |
ตรงประเด็น
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 25 ก.ค. 2006
ตอบ: 773
|
ตอบเมื่อ:
30 ส.ค. 2006, 5:07 am |
  |
คนที่ควบคุมตนเองไม่ได้ นั้นล่ะ พระท่านว่า ขาดสติ
การที่กินเหล้าแล้วแต่ยังพอรู้ตัวอยู่บ้าง แต่ควบคุมตนเองไม่ได้แล้ว จะไปเรียกว่ามีสติได้อย่างไร
สติแบบที่เขาเล่านี้ ไม่ใช่การมีสติที่พระพุทธเจ้าสอนแล้ว แต่เรียกว่าขาดสติต่างหาก |
|
|
|
  |
 |
๛ Nirvana ๛
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2006
ตอบ: 403
|
ตอบเมื่อ:
30 ส.ค. 2006, 5:13 am |
  |
ข้ออ้างของคนดื่มเหล้ารึเปล่า  |
|
_________________ ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน |
|
     |
 |
ปุ๋ย
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
30 ส.ค. 2006, 10:21 am |
  |
กราบสวัสดี คุณพรเทพ
คนมีสติไม่ทานเหล้า เป็นข้ออ้างของคนกินเหล้าเมาแล้วมักกล่าวว่า "พ๊มมะมาว พ๊มรู๊" คนมีสติควรรู้ในอิริยาบทการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างมีสติ ไม่ใช่ควบคุมตัวเองไม่ได้ อย่างนี้เรียกว่าไม่มีสติรู้ในอารมณ์ ความรู้สึก ณ ปัจจุบันขณะในอิริยาบท
เจริญในธรรม
มณี ปัทมะ ตารา  |
|
|
|
   |
 |
ชยชัย
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
30 ส.ค. 2006, 10:30 pm |
  |
การระลึกรู้อยู่ตลอดเวลา คือ การมีสติ ส่วนคนกินเหล้าที่บอกว่ามีสตินั้น คือความพยายามที่จะรักษาสติให้ดำรงอยู่กับตัว แต่ไม่สามารถจะทำให้สติดำรงอยู่ได้ เป็นเพียงแต่รู้ว่าเรายังไม่ได้หมดสติเท่านั้นเอง
ขออนุโมทนา |
|
|
|
|
 |
walaiporn
บัวบาน

เข้าร่วม: 02 ก.ค. 2006
ตอบ: 253
ที่อยู่ (จังหวัด): สมุทรปราการ
|
ตอบเมื่อ:
31 ส.ค. 2006, 12:31 am |
  |
ข้ออ้างของคนกินเหล้าเมาค่ะ ข้างบ้านเห็นประจำเลย พี่ไม่เมา พี่รู้ตัว ยกตัวอย่างให้ฟังนะคะ |
|
_________________ ไม่มีคำว่าทำไม่ได้ หากเราพยายามทำและตั้งใจทำอย่างต่อเนื่อง |
|
  |
 |
สาวิกาน้อย
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 27 มี.ค. 2006
ตอบ: 2065
|
ตอบเมื่อ:
31 ส.ค. 2006, 2:50 am |
  |
|
    |
 |
ชยชัย
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
31 ส.ค. 2006, 8:17 pm |
  |
ตอบคุณสาวิกาน้อยนะครับ ใช้สติทำบาปได้หรือไม่
ขอตอบว่า สติเป็นตัวเริ่มของกรรม พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า เจตนาหัง ภิกขเว กัมมัง วทามิ (เจตนาหํ ภิกขเว กมฺมํ วทามิ) เรากล่าวว่าเจตนาเป็นตัวกรรม
ในความเข้าใจของผมคือเราจะทำอะไรก็ตามเราต้องมีเจตนาในอันที่จะทำสิ่งนั้น แล้วเจตนาก็ต้องมาจากสติที่มั่นคง ควบคุมการกระทำนั้น เช่น ก่อนเรากินเหล้าเรามีสติ แต่เราใช้สติไปทำบาปกรรม ทำอกุศลคือสุราเมรยฯ ผิดศีลข้อ 5 เราก็ใช้สติทำบาปแล้วครับ
ขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่านครับ  |
|
|
|
|
 |
I am
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
31 ส.ค. 2006, 10:05 pm |
  |
คำว่ามีสติ เราใช้ในความหมายที่ดีๆ เสมอ เช่น การมีสติที่จะตัดสินใจว่าสิ่งที่จะกระทำนั้นดีหรือชั่ว เป็นต้น
การขาดสติส่วนใหญ่เราจะหมายถึง การตกเป็นทาสของอกุศลมูล อันมี โลภ โกรธ หลง และอบายมุข
พระธรรมคำทรงสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือของพระอริยสาวก สุปฏิบันโน ท่านสอนให้มีสติเสมอ ท่านว่าถ้าเรามีสติกิเลสไม่เกิด
รอยเท้าสัตว์ทั้งมวลรวมลงที่รอยเท้าช้าง ธรรมทั้งมวลรวมลงที่สติ
ตัวอย่างที่ยกมา ไม่ใช่เรื่องของการมีสติ เพราะโดยปกติเราจะมีสติแบบปุถุชนโดยทั่วๆ ไปอยู่แล้ว
แต่เป็นเรื่องของความปรารถนาที่จะดื่มเหล้าเพราะตกเป็นทาสของกิเลส ตัณหาของตนเอง แล้วไม่พยายามที่จะใชสติคิดยับยั้งตนเองให้เห็นโทษของการดื่มเหล้า เรียกว่าขาดสติยับยั้งชั่งใจตั้งแต่แรกแล้ว
การทำดีทำชั่วอยู่ที่เจตนา เจตนาประกอบด้วยสติคือความระลึกได้หรือไม่ คือถ้าไม่มีสติกำกับก็ตกเป็นทาสของกิเลสอกุศลมูลได้โดยง่าย เช่นเพื่อนชวนไปกินเหล้าถ้ามีสติคิดได้ว่า กินเหล้าไม่ดีเสียสุขภาพ เสียทรัพย์ เป็นโรค ก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาทตามมา ผิดศีล ๕ ด้วย
เขาก็จะหยุดได้คือปฏิเสธที่จะไปดื่มเหล้าตามที่เพื่อนชวน
เพราะเหตุนั้นพระธรรมคำสอนของพระศาสดา มักกล่าวถึงการมีสติไปในทางที่ดีเสมอ
เจริญธรรม |
|
|
|
|
 |
ชยชัย
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
01 ก.ย. 2006, 5:19 pm |
  |
สติเป็นตัวควบคุมร่างกายและจิตใจ เพื่อนชวนเรากินเหล้าเรามีสติ เรารู้ว่ากินเหล้าแล้วเป็นอย่างไร แต่บางคนเช่น คนที่มีความทุกข์จะใช้เหล้าเป็นตัวช่วย ทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่าเมื่อดื่มเข้าไปแล้วไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ดีตรงที่ระงับจิตใจไม่ให้ไปคิดถึงเรื่องที่เป็นทุกข์นั้นได้ หรือเมาแล้วหลับไปไม่ต้องคิดถึงเรื่องราวนั้นอีก ตัวอย่างนี้ไม่ไช่ว่าเราไม่มีสติ เรามีสติเต็มเปี่ยมแต่เรามีมิจฉาทิฐิ หรือมีความเห็นผิดต่างหาก ดังนั้นสติคือการระลึกรู้ รู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่จะดีหรือไม่ดีก็ตาม เช่น โจรกำลังจะไปปล้น โจรรู้อยู่ตลอดเวลาว่าตัวของโจรกำลังทำอะไรอยู่มีสติระลึกรู้อยู่ตลอดเวลา รู้แม้กระทั่งว่าจะทำอย่างไร จะหนีทางไหน นี่คือสติ แต่เป็นสติที่นำมาใช้ทำบาป เอาง่ายๆ คนบ้ามีความละอายหรือไม่ ไม่มี เดินแก้ผ้ายังได้เป็นเพราะอะไร เพราะเค้าไม่มีสติควบคุมนั่นเอง
ขออนุโมทนาสาธุครับ |
|
|
|
|
 |
ความเห็น
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
03 ก.ย. 2006, 10:53 pm |
  |
ความเห็นส่วนตัว คิดว่าพูดเรื่องสติได้ถูกกันหมดแต่ลึกลงไปกว่านั้น คิดว่าสติมีระดับแตกต่างกันไปเพราะเป็นเรื่องการเกิดดับของจิตในระดับอนุจิตที่ย่อยละเอียดลงไป ในคนทั่วไปในหนึ่งรอบวินาที อาจจะมีสติเกิดดับอยู่เพียงหนึ่งเปอร์เซนต์ แต่ของผู้ฝึกฝนวิปัสนาอาจมีถึงสิบหรือยี่สิบเปอร์เซนต์ ดังนั้นจึงเอาสติของคนดื่มเหล้ามาเทียบกับผู้ปฏิบัติธรรมไม่ได้ เพราะโอกาสที่เจตนาของการกระทำเกิดจากดวงจิตที่เป็นของสติมีมากกว่ากันเยอะ เราจึงเห็นพระหรือผู้บรรลุธรรม มีอากัปกริยา ท่าทีออกมาดูเป็นผู้ที่น่าเคารพกราบไหว้อยู่ตลอดเวลาซึ่งต่างจากผู้ที่มีสติเกิดดับในช่วงเวลาเดียวกันที่น้อยกว่ามาก ผู้ดื่มเหล้าอาจจะมีดวงจิตของสติเกิดขึ้นในเสี้ยวล้านล้านวินาทีทำให้รู้สึกตัวเองม่ายมาวก็จริง แต่ไอ้ตอนที่ตกลงปลงใจไปนั่งข้างข้างขวดเหล้า หรือยกแก้วให้น้ำเหล้าสัมผัสลิ้นก็เป็นเสี้ยวของดวงจิตที่ไม่มีสติทำงานไปเรียบร้อยแล้วครับ ดังนั้นเวลาพูดรวมรวมแบบคนธรรมดาทั่วไปจะบอกว่าไม่มีสติเลยก็ไม่ใช่จะว่ามีสติเหมือนคนทั่วไปโดยเฉพาะคนที่ปฏิบัติธรรมก็ไม่ใช่อีก เอาเป็นว่าระดับของความรู้ตัวบางช่วงมันต่างกันแล้วกันครับ คนธรรมดาบางคนไม่ได้ฝึกธรรมมะมีโอกาสมีสติบางช่วงน้อยกว่าคนดื่มเหล้าบางคนได้เหมือนกันก็เนื่องจากที่กล่าวนี้กระมัง ตัวเองก็เคยดื่มเหล้าสมัยเกินสิบปีมาแล้วหากเทียบกับสมัยปัจจุบันดื่มนม คิดว่าตอนดื่มนมมีสติมั่นคงมากกว่าเยอะเลยครับ อย่างน้อยช่วงเวลาก่อนตัดสินใจว่าจะดื่มเหล้าหรือดื่มนมสติก็ต่อเนื่องแตกต่างกันมากแล้ว เอาเป็นว่าคนที่มีสติต่อเนื่องมากจะไม่คิดทำอะไรที่เป็นอกุศลได้อยู่ตลอดเวลาแล้วกันครับ |
|
|
|
|
 |
แมวขาวมณี
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2006
ตอบ: 307
|
ตอบเมื่อ:
05 ก.ย. 2006, 9:45 am |
  |
คิดว่าคำว่าสติของคนเมาที่บอกว่า" เขายังมีสติอยู่ เขาบอกว่าเขารู้เหตุการณ์ทุกอย่างขณะเมา เพียงแต่ควบคุมตัวเองไม่ได้เท่านั้น " เป็นการรับรู้ของสมองในส่วนของการรับรู้ มากกว่า เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ไปทำให้สมองส่วนการทรงตัวหรือควบคุมการทำงานส่วนนี้เสียไป (เหมือนฉีดยาชาตรงไหน ก็ชาที่ตรงนั้น) แต่สมองไม่สามารถทำงานตามคุณสมบัติของมันได้ คนขณะที่เมาจึงขาดอีโก้(ego)ควบคุม การแสดงออกไม่มีการไตร่ตรองขัดเกลาแล้วแต่จิตใต้สำนึกในทางต่ำ(อิด id)จะพาไป
คนเมาในระดับต่างๆ บอกถึงการที่สมองและอำนาจการยั้บยั้งชั่งใจ(super ego)ขาดไปด้วยตามระดับนั้นๆ เพราะถ้าเพื่อนเมามากขึ้นอีกก็จะไม่รู้ตัวแล้วหละค่ะ |
|
_________________ พฤษภกาสร อีกกุญชร อันปลดปลง
โททนต์ เสน่งคง สำคัญหมาย ในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้น ทั้งอินทรีย์
สถิตย์ทั่ว แต่ชั่วดี ประดับไว้ ในโลกา |
|
   |
 |
กรัชกาย
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
06 ก.ย. 2006, 9:11 am |
  |
สติในทางธรรมจะคอยกีดกันอกุศลธรรม |
|
|
|
|
 |
|