Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
ทำบุญไม่อธิษฐานจิต ไม่ขอพร
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
จ๊ะเอ๋
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 30 ส.ค. 2006, 4:55 am
อ่านหนังสือเกี่ยวกับกรรมหลายเรื่อง ทุกครั้งต้องเจอข้อความว่า "เป็นเพราะชาติก่อนขณะเขา/เธอทำบุญใหญ่เขา/เธอได้อธิษฐานจิตขอให้.........ทำให้ชาตินี้เขา/เธอเป็นอย่างนี้ ซึ่งเป็นไปตามอธิษฐานจิตในชาติก่อน
ส่วนฉัน มาช่วงหลังๆนี้ไม่เคยขอพรตอนทำบุญเลย แล้วฉันจะมีบุญมั้ยเนี่ย แล้วอนาคตฉันจะได้อานิสงฆ์ของบุญที่ได้ทำไว้มั้ยเนี่ย
บัวพ้นตม
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 30 ส.ค. 2006, 7:24 am
การทำบุญย่อมได้บุญเสมอ จะได้มากหรือน้อยอยู่ที่ความศรัทธาขณะทำ
1.มีความคิดอยากจะทำ
2.ตั้งใจและเต็มใจในขณะที่ทำ
3.มีความยินดีเเละพอใจในสิ่งที่ทำมาเเล้ว
เเค่นี้คุณก็ได้บุญเพียบเเล้ว
ปุ๋ย
บัวเงิน
เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
ตอบเมื่อ: 30 ส.ค. 2006, 10:10 am
กราบสวัสดี คุณจ๊ะเอ๋
ทำด้วยจิตบริสุทธิ์ มีสัจจะ ไม่หวังผลตอบแทน ไม่ว่าทำบุญกุศลแบบไหน อย่างไร ไม่ขอ ไม่อธิษฐาน ทำด้วยกิเลสก็มีความอยากนั่นอยากนี่เข้ามาอธิษฐาน มันก็ไม่พ้นเวียนว่ายตายเกิดอยู่ดี ทำด้วยจิตบริสุทธิ์อันเป็นกุศล อานิสงส์ผลบุญย่อมมีแน่นอน แต่เมื่อไหร่ก็ช่าง ไม่ได้ก็ช่าง ไม่ดีก็ช่าง ดีก็ช่าง ผลจะเป็นอย่างไรก็ช่าง....เท่านี้
เจริญในธรรม
มณี ปัทมะ ตารา
ชยชัย
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 30 ส.ค. 2006, 10:40 pm
เจตนาหํ ภิกขเว ปุญฺญํ วทามิ เรากล่าวว่าเจตนาเป็นตัวบุญ มันตัดตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว อารมณ์มันตัดตั้งแต่เรามีเจตนาหรือความตั้งใจที่จะทำแล้ว
สำหรับการทำทานที่ได้กุศลสูงสุด
1.ผู้ทานบริสุทธิ์ บริสุทธิ์หรือไม่นั้นท่านจึงให้สมาทานศีลก่อนนั่นไงล่ะ
2.ผู้รับบริสุทธิ์ เปรียบเสมือนนาข้าวถ้านาลุ่มน้ำก็ท่วม ถ้านาดอนน้ำไม่ถึงก็แห้งตาย นาบุญก็เหมือนกันถ้าทำไม่ดี ไม่มีศีลธรรม เราก็ได้รับอานิสงส์น้อย แต่ทั้งนี้เรามีเจตนาที่จะถวายแล้วนี่ ถ้าผู้รับไม่ดีก็ลงอเวจีไปเอง
3.วัตถุบริสุทธิ์ ไม่ฆ่าสัตว์มาทำบุญ ไม่ขโมยของเขามาทำบุญ
นอกจากนี้ยังมีอีกคือ
1.ตั้งใจดีก่อนทำทานการกุศล
2.ขณะทำใจของตนก็ผ่องใส
3.หลังให้ทานก็เบิกบานสบายใจ
4.สามข้อใหญ่ใช้ประจำเมื่อทำทาน
ขออนุโมทนาสาธุการกับทุกท่านครับ
เพื่อจิตบริสุทธิ์ดีกว่า
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 30 ส.ค. 2006, 11:08 pm
คิดว่าการทำบุญให้ทานประโยชน์ที่ได้มากที่สุดคือทำให้จิตเคยชินกับการละความอยากความโลภได้ดี ยิ่งให้มากก็ยิ่งละได้มาก ทำให้จิตใจบริสุทธิปฏิบัติธรรมก็ง่ายขึ้น ส่วนประโยชน์ทางวัตถุด้วยกฏแห่งกรรมยังไงก็คงต้องได้รับในที่สุด แต่เชื่อว่าแตกต่างกัน ผู้ที่ทำแบบคาดหวังผลดีตอบแทนอาจจะต้องเกิดเจตนามีความต้องการมากน้อยตามที่คาดหวังจากการทำบุญก่อนเช่นกำลังเดือดร้อนเรื่องเงินจึงจะได้รับผลตอบแทน ในขณะที่คนที่ทำไม่หวังผลอยู่ดีดีก็อาจได้รับประโยชน์โดยไม่ต้องคาดหวังก็ได้รับเหมือนกัน น่าจะช่วยอธิบายเหตการณ์ที่หลายคนทำไมอยู่ดีดีไม่ทำอะไรก็มีแต่สิ่งดีดีมาหา ในขณะที่บางคนต้องพยายามก่อนถึงจะได้ ส่วนอีกบางคนพยายามเท่าไหร่ก็ไม่ได้ ได้สมบูรณ์มากขึ้น แต่ก็ไม่ทราบเหมือนกันเพราะเรื่องของบุญกรรมคิดด้วยเหตผลกันยากแต่มั่นใจว่าส่งผลถึงกันแน่นอน
walaiporn
บัวบาน
เข้าร่วม: 02 ก.ค. 2006
ตอบ: 253
ที่อยู่ (จังหวัด): สมุทรปราการ
ตอบเมื่อ: 31 ส.ค. 2006, 12:19 am
สวัสดีค่ะคุณจ๊ะอ๋
พรคืออะไร ทำอย่างไรจะได้พร
ถ้าพูดตามภาษาพระ พรเป็นสิ่งที่เราจะต้องสร้างขึ้นเอง คือพร4ประการได้แก่ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ต่างๆเหล่านี้ แต่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นเพียงด้วยการอ้อนวอนหรือความปรารถนาเท่านั้นก็หาไม่ ท่านทั้งหลายที่ปรารถนาสิ่งเหล่านี้จะต้องปฏิบัติสิ่งที่เป็นเหตุปัจจัยที่จะทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นเอง
คำว่าพร ที่จริงภาษาพระแปลว่าผลประโยชน์หรือสิทธิพิเศษที่ให้ตามคำขอ เขาขอแล้วให้เรียกว่าพรเช่นพระนางผุสดีขอพร10ประการจากพระอินทร์ แล้วเขาให้ เรียกว่าให้พร นี้เป็นความหมายเดิมแท้ของพร
อีกความหมายนึง พรแปลว่าประเสริฐ อะไรก็ตามที่เป็นของประเสริฐเช่น พระรัตนตรัย ก็เป็นวร คือเป็นสิ่งที่ประเสริฐ ปัญญาก็เป็นพร สติ สมาธิก็เป็นพร คือเป็นสิ่งที่ดีงามประเสริฐ
ที่ว่ามานี้คือความหมายเดิม แต่ปัจจุบันเราใช้คำว่าพรในความหมายว่าสิ่งที่เราปรารถนา สิ่งดีงามที่อยากได้ นี่คือผิดเพี้ยนไปจากเดิม
ในที่นี้เรามาประยุกต์ใหม่ว่าพรคือ สิ่งที่เราปรารถนา พร้อมทั้งเป็นสิ่งที่ดีงามประเสริฐด้วย กล่าวคือเป็นสิ่งที่มีคุณค่าล้ำเลิศ ถ้าท่านต้องการได้พรเหล่านี้ ต้องทำจิตใจให้ถูกต้อง โดยเฉพาะต้องมีความเชื่อมั่น ทำจิตใจให้สงบผ่องใส พร้อมทั้งมีความมั่นใจ มีกำลังใจเข้มแข็งที่จะทำสิ่งเหล่านี้ให้เกิดขึ้น ซึ่งตรงกับที่ทางพระเรียกว่าอธิษฐานจิต
การอธิษฐานจิตนั้นท่านแปลว่า การตั้งจิตให้แน่วแน่มั่นคง หรือการตั้งใจเด็ดเดี่ยว
ที่ว่าตั้งจิตมั่นคือตั้งใจเด็ดเดี่ยว หมายความว่า ตั้งใจมุ่งหวังทำเรื่องนั้นๆหรือความดีงามนั้นให้สำเร็จให้ได้ เหมือนที่พระพุทธเจ้าทรงอธิษฐานพระทัยว่า จะเพียรพยายามปฏิบัติให้บรรลุโพธิญาณ ถึงพระโลหิตจะเหือดแห้งไป ถ้ายังไม่สำเร็จก็ไม่ยอมหยุดเลิกเสีย
พูดง่ายๆว่าอธิฐานเพื่อจะทำไม่ใช่อธิฐานเพื่อจะเอาหรือเพื่อจะได้
อ้างอิงจากหนังสือกฏแห่งกรรม-ธรรมปฏิบัติเล่มที่19 หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม
_________________
ไม่มีคำว่าทำไม่ได้ หากเราพยายามทำและตั้งใจทำอย่างต่อเนื่อง
จ๊ะเอ๋
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2006, 3:45 am
สาธุ
ขอบคุณมากค่ะทุกๆท่านที่ช่วยชี้แจงให้
kt13
บัวใต้ดิน
เข้าร่วม: 11 พ.ค. 2005
ตอบ: 18
ตอบเมื่อ: 14 ก.ย. 2006, 9:02 pm
อิอิ ว่าแต่ว่า ทำไมถึงถาม?
ไม่มั่นใจในคำตอบในใจของตัวหรือ?
หรือเพื่อ.................... อิอิ
_________________
ความสุข คือความสงบ
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
ไม่สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th