ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
amai
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435
|
ตอบเมื่อ:
20 ต.ค.2004, 7:59 pm |
  |
พจนากถา
โดย หลวงตาแพรเยื่อไม้
จัดพิมพ์โดย ธรรมสภา
คนเราจะดีจะชั่วก็อยู่ที่กรรม (การกระทำ) ของตัวเอง และอวัยวะสำคัญที่เป็นตัวการประกอบกรรม ก็คือ “มือ” ใครทำดีก็เรียกว่า มือดี มือสะอาด ถ้าทำเสียก็ชื่อว่า มือเลว มือสกปรก และยังแยกเอากิริยาต่างๆ ของกรรมมาเป็นนาม มืออีกมาก เช่น มือปืน มือกาว มือเน่า มือแน่ ฯลฯ เป็นต้น
เหตุนี้จึงพิมพ์คำกลอนชื่อ “มือ” ก็ในฐานะ เป็นกลอนชวนคิด ไม่มีอะไรมากนอกจาก จะบอกว่า คนเราเมื่อเกิดมาก็กำมือ และกำ, กำ, สารพัด จนกว่าจะหมดลมหายใจ แล้วก็แบ, แบ, แบ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยกอบเคยกำก็ต้องปล่อยต้องแบ มือของท่านทั้งสองข้างที่กำลังประจงหนังสือเล่มนี้อยู่ล่ะ ? ก่อนจะแบท่านควรจะกำ “กรรม” ชนิดใด ? นั่นเป็นหน้าที่ของท่าน
แต่ก็อยากจะยุ่งกับท่านสักหน่อย ว่าจะกำ “กรรม” อะไร ๆ ก็ตามเถอะ ! ขออย่างเดียว อย่าให้มือของท่านเปื้อน ท่านซ่อนไม่มิดหรอก เพราะสักวันหนึ่งข้างหน้าท่านจะต้องเป็นจำเลยถูกนำเอา “มือ” ไป “แบ” เหนือพานสำหรับให้ญาติ – มิตรรดน้ำ
“มือ” จะไม่เกิดประสิทธิภาพหรือมีความหมายเลยถ้าไม่มีนิ้ว เหตุนี้จึงเล่านิทานเรื่อง “นิวเซมิน่า” เข้าไว้ เพื่อเป็นเครื่องเปรียบเทียบให้เห็นความสำคัญของคนแต่ละคน ที่รวมกันเป็นสังคมหรือหมู่คณะ ซึ่งก่อให้เกิดพลังอำนาจบันดาลผลสำเร็จ ดีกว่าจะมาคิดถึงแต่ความสำคัญ ความดีความเด่นของตนๆ เป็นประมาณ นำมาใช้ในกิจการของเราก็นับว่าเหมาะ เพราะเราบรรดาสาธุชนได้ร่วมสามัคคีกัน กำลังเป็น “นิ้ว” ที่จะประกอบให้ “มือ” สวยงามเป็นมือแห่งความสำเร็จ
และได้เรียบเรียงปฏิปทาของโบราณบัณฑิตไว้เรื่องหนึ่ง เพื่อท่านสาธุชนจะได้อ่านประกอบความคิดคติของเรื่อง ก็คือ ต้องการให้พวกเราเป็นผู้ที่พระโปรดได้ เหมือนโจรโปริศาจกลับใจได้คิด ทุกวันนี้คนเราอาจจะไม่มีทางเป็น “โปริศาจ” แต่ก็กำลังถูกอำนาจมืดดึงดูดให้เป็น “ปีศาจ” แทน ดังที่กำลังสำแดงเดชอยู่ในสังคม ซึ่งแท้จริงแล้วปีศาจในสังคมทุกวันนี้ก็มีความร้ายไม่ด้อยน้อยไปกว่าโปริศาจในป่าดงแต่อดีตกาลเลย โปริศาจเสียอีกต้องนับว่าโชคดีเพราะยังมีสุตโสม ฉุดกลับออกจากป่าทึบ มามีชีวิตอยู่ในที่สว่างแห่งนาครธรรม
ส่วนปีศาจในสังคมทุกวันนี้จะได้ใครช่วยดึงเขากลับ ออกจากป่ากิเลสตัณหาอันเป็นมุมมืดของโลกได้ ถ้าไม่ใช่พระ ! ทุกตัวอักษรในหนังสือเล่มนี้เป็น ผลงานยามว่างของบุคคลผู้ทำหน้าที่ของพระ และเจตนาอย่างพระ มันจะมีอานุภาพเหนือจิตใจผู้อ่านหรือไม่ก็ตามที แต่ก็มีความสบายใจอยู่อย่างหนึ่งว่า ได้ทำหน้าที่ของพระไปบ้างแล้ว
(มีต่อ) |
|
|
|
    |
 |
amai
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435
|
ตอบเมื่อ:
20 ต.ค.2004, 8:07 pm |
  |
มือ
กำ – แบ
เกิดเอ๋ยเกิดมา หัตถากำแน่นแสนขัน
มุ่งไขว่หมายคว้าสารพัน พากันยึดถือมือกำ
ไอ้นี่อีนั่นฉันชอบ หิ้วหอบหวงแหนแสนขำ
สิ้นลมสมหรือยื้อยำ เกิดกำตายแบแน่เอย
กำเอ๋ยกำมือ ยึดถือสิ่งใดได้บ้าง
กำลมสมไหมไม่วาง ร้องครางพลางวอนอ้อนเอา
ดิ้นรนขวนขวายไขว่คว้า เกิดมาโลภโกรธโฉดเขลา
ห่อหุ้มคลุมจิตคิดเมา โอ้เจ้าทารกงกเอย
กำเปล่า – แบเปล่า
กำเอ๋ยกำเปล่า ความเขลาครองจิตคิดถือ
แรกเกิดร้องร่ำกำมือ หมายยื้อยึดมั่นพันพัว
สองมือกำไว้ใครสอน เวียนว่อนไล่คว้าน่าหัว
ไร้ทรัพย์แม้นิดติดตัว เมามัวกำเปล่าเจ้าเอย
แบเอ๋ยแบเปล่า น่าเศร้าน้อยหรือมือเอ๋ย
เคยยึดเคยถือมือเคย กำเกยสองกรประนม
เคยคลำเคยลูบทุบถอง เคยโอบประคองสองสม
เคยหยิกเคยเกาเคล้าชม สิ้นลมแบเปล่าเจ้าเอย.
กำงก – แบเงียบ
มือเอ๋ยมือกำ น่าขำชีวิตคิดเห็น
ทุรายทุรนทนเป็น เคยเห็นเด็กอ่อนนอนแบ
ดิ้นรนไปมาน่าคิด ชีวิตทุกข์หรือสุขแน่
เพราะมือกำมั่นฉันแล เห็นแต่ดิ้นด่าวเจ้าเอย
มือเอ๋ยมือแบ นิ่งแน่เจียวหรือมือเหวย
เคยว่อนวุ่นวายคลายเลย เงียบเฉยแน่หรือมือแบ
สิ้นลมสิ้นแรงสิ้นฤทธิ์ น่าคิดสุขหรือทุกข์แน่
ใครล่วงเกินล้อตอแย เอาแต่นอนเงียบเชียบเอย.
................... เอวัง ...................
 |
|
|
|
    |
 |
<>
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
06 ส.ค. 2006, 5:29 am |
  |
|
|
 |
|