ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
dd
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
12 ส.ค. 2006, 5:53 pm |
  |
*การรู้อุปาทานักขันธ์ โดยลักษณะห้า คือพระโสดาบัน*
ภิกษุ ท. ! อุปาทานขันธ์ทั้งหลายเหล่านี้ มีอยู่ห้าอย่าง, ห้าอย่าง อย่างไรเล่า? ห้าอย่างคือ
รูปูปาทานขันธ์ (อุปาทานในรูปขันธ์).
เวทนูปาทานขันธ์ (อุปาทานในเวทนาขันธ์).
สัญญูปาทานขันธ์ (อุปาทานในสัญญาขันธ์).
สังขารูปทานขันธ์ (อุปาทานในสังขารขันธ์).
วิญญาณูปาทานขันธ์ (อุปาทานในวิญญาณขันธ์).
ภิกษุ ท. ! เมื่อใดแล อริสาวก รู้ชัดแจ้งตามเป็นจริง ซึ่งความเกิดขึ้น (สมุทัย) ซึ่งความตั้งอยู่ไม่ได้ (อัตถังคมะ) ซึ่งรสอร่อย (อัสสาทะ) ซึ่งโทษ (อาทีนวะ) และอุบายเป็นกลไกออกไป (นิสสรณะ) จากอุปาทานขันธ์ทั้งห้าเหล่านี้.
ภิกษุ ท. ! อริยสาวกนี้ เราเรียกว่า โสดาบัน มีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงแท้ต่อพระนิพพาน มีการตรัสรู้พร้อมในเบื้องหน้า.
(-ขันธวรรค สังยุตตนิกาย ไตรปิฎกเล่มที่ ๑๗ หน้าที่ ๑๙๖ ข้อที่ ๒๙๖ (อริย. ๕๙๐).
*พระโสดาบันอีกอย่างหนึ่ง*
สารีบุตร ! ที่มักกล่าวกันว่า โสดาบัน โสดาบัน ดังนี้ เป็นอย่างไรเล่า สารีบุตร ?
"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ท่านผู้ใด เป็นผู้ประกอบพร้อมแล้ว ด้วยอริมรรคมีองค์แปดนี้อยู่ ผู้เช่นนั้นแล ข้าพระองค์ เรียกว่าเป็นพระโสดาบัน ผู้มีชื่อย่างนี้ มีโคตรอย่างนี้ พระเจ้าข้า !"
สารีบุตร ! ถูกแล้ว ถูกแล้ว ผู้ที่ประกอบพร้อมแล้ว ด้วยอริยมรรคมีองค์แปดนี้อยู่ ถึงเราเองก็เรียกผู้เช่นนั้นว่า เป็นพระโสดาบัน ผู้มีชื่ออย่างนี้ๆ มีโคตรอย่างนี้ๆ.
(-มหาวารวรรค สังยุตตนิกาย ไตรปิฎกเล่มที่ ๑๙/๔๓๕/๑๔๓๒-(อริย. ๕๗๑).
*แว่นส่องความเป็นพระโสดาบัน*
อานนท์ ! เราจักแสดงธรรมปริยายชื่อว่าแว่นธรรม ซึ่งหากอริยสาวกผู้ใด ได้ประกอบพร้อมแล้ว เมื่อจำนงจะพยากรณ์ตนเอง ก็พึงทำได้ ในข้อที่ตนมีนรกสิ้นแล้ว มีกำเนิดเดรัจฉานสิ้นแล้ว มีเปรตวิสัยสิ้นแล้ว มีอบายทุคติ วินิบาต สิ้นแล้ว, ในข้อที่ตนเป็นพระโสดาบันผู้มีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เที่ยงแท้ต่อพระนิพพาน เป็นผู้มีอันจะตรัสรู้ได้ในกาลเบื้องหน้าดังนี้.
อานนท์ ! ก็ธรรมปริยายชื่อว่าแว่นธรรม ในที่นี้ เป็นอย่างไรเล่า ?
อานนท์ ! อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ประกอบพร้อมแล้ว ด้วยความความเลื่อมใสอันหยั่งลงมั่น ในองค์พระพุทธเจ้าว่า เพราะเหตุอย่างนี้ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เป็นผู้ไปแล้วด้วยดี เป็นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง เป็นผู้สามารถฝึกคนที่ควรฝึก อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า เป็นครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้รู้ผู้ตื่น ผู้เบิกบานด้วยธรรม เป็นผู้มีความจำเริญ จำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์ ดังนี้.
อานนท์ ! อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ประกอบพร้อมแล้ว ในพระ ธรรม ว่าเป็นสิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติพึงเห็นได้ด้วยตนเอง เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้และให้ผลได้ไม่จำกัดกาล เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกับผู้อื่นว่าท่านจงมาดูเถิด เป็นสิ่งที่ควรน้อมมาใส่ตัว เป็นสิ่งที่ผู้ก็รู้ได้เฉพาะตน" ดังนี้.
อานนท์ ! อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ประกอบพร้อมแล้ว ด้วยความเลื่อมใสอันหยั่งลงมั่น ไม่หวั่นไหว ในพระสงฆ์ ว่า สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว เป็นผู้ปฏิบัติตรงแล้ว เป็นผู้ปฏิบัติเพื่อรู้ธรรมเป็นกลไกออกจากทุกข์แล้ว เป็นผู้ปฏิบัติสมควรแล้ว ได้แก่บุคคลเหล่านี้ คือ คู่แห่งบุรุษสี่คู่ นับเรียงได้แปดบุรุษ นั่นและคือสงฆ์สาวกของผู้มีพระภาคเจ้า เป็นสงฆ์ควรแก่สักการะ ที่เขานำมาบูชา เป็นสงฆ์ควรแกสักการะที่เขาจัดไว้ต้อนรับ เป็นสงฆ์ควรรับทักษิณาทาน เป็นสงฆ์ที่บุคคลทั่วไปจะพึงทำอัญชลี เป็นสงฆ์ที่เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า" ดังนี้.
และอริยสาวกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ประกอบพร้อมแล้วด้วยศีลทั้งหลายชนิดเป็นที่พอใจของเหล่าอริเจ้า คือเป็นศีลไม่ขาด ไม่ทะลุ ไม่ด่าง ไม่พร้อย เป็นศีลที่เป็นไทจากตัณหา เป็นศีลที่ผู้รู้ท่านสรรเสริญ เป็นศีลที่ทิฏฐิไม่ลูบคลำ และเป็นศีลที่เป็นไปเพื่อสมาธิ.
อานนท์ ! ปริยายนี้แลที่ชื่อว่าแว่นธรรม ซึ่งหากอริยสาวกผู้ใดได้ประกอบพร้อมแล้ว เมื่อจำนงจะพยากรณ์ตนเอง ก็พึงทำได้ ดังนี้แล.
(-มหาวารวรรค สังยุตตนิกาย ไตรปิฎกเล่มที่ ๑๙/๔๕๐-/๑๔๗๙-(อริย. ๕๘๐). |
|
|
|
|
 |
๛ Nirvana ๛
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2006
ตอบ: 403
|
ตอบเมื่อ:
12 ส.ค. 2006, 8:34 pm |
  |
อนุโมทนาธรรมครับ  |
|
_________________ ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน |
|
     |
 |
|
|
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่ คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ คุณไม่สามารถลงคะแนน คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้ คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
|
|