Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 บุตรเศรษฐีล่วงประเวณี อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
แมวขาวมณี
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2006
ตอบ: 307

ตอบตอบเมื่อ: 29 ก.ค.2006, 1:09 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

....... โทษแห่งการล่วงกาเมสุมิจฉาจาร การล่วงประเวณีในสตรีเขาหวงแหนรักษา ก็พาไปสู่นรกเสวยทุกขเวทนา และเป็นเปรตอสุรกายสัตว์เดียรฉาน เหมือนอย่างเปรต ๔ ตน เป็นตัวอย่าง อตีเต กาเล สาวตฺถิยํ กิร ดังได้ฟังมาในกาลล่วงแล้วนานมา

ยังมีชายหนุ่มบุตรเศรษฐี ๔ คน อยู่ในเมืองสาวัตถี บุตรเศรษฐีทั้ง ๔ มีจิตยินดดีในกามคุณ กามราคะเข้าอุดหนุนในสันดาน เที่ยวทำกาเมสุมิจฉาจารล่วงประเวณีในสตรีที่เป็นธิดา และภรรยาของเขาที่หวงแหนรักษาไว้ ครั้นทำกาลกิริยาตายจากบุตรเศรษฐี ไปบังเกิดในโลหะกุมภี อยู่ใกล้เมืองสาวัตถีมหานคร มีความเร่าร้อนอยู่ด้วยน้ำเคี่ยวเดือดทั้งกลางวันกลางคืน ปั่นป่วนจมลงไปถึงก้นหม้อก็นานสามพันปี เมื่อผุดขึ้นมาถึงปากหม้อ เปรตทั้ง ๔ ปรารถนาจะกล่าวคาถาคนละ ๔ บาทก็กล่าวไม่ทัน กล่าวได้เพียงตนละอักขระเท่านั้นว่า

ทุ ส น โส แล้วก็จมลงไปในโลหะกุมภี จนทุกวันนี้ยังมิได้ผุดขึ้นมา ไปทนทุกข์เวทนาอยู่ในที่นั้น

ถามว่า เปรต ๔ ตน ผุดขึ้นมากล่าวคาถาเพื่อเหตุอะไร แก้ว่าเพื่อประกาศซึ่งโทษของตน

เปรตที่ ๑ ว่า ทุชีวิตํ ดูกรสหาย เรามีชีวิตเป็นอยู่ชั่วช้าลามกเมื่อมีทรัพย์ไม่ได้ก่อสร้างทางกุศล เราจึงมาเสวยทุกขเวทนาเห็นปานนี้

เปรตที่ ๒ ว่า สฏฺฐีวสฺสหสฺสานิ ดูกรสหาย เรามาจมอยู่ในโลหะกุมภีนี้ช้านานประมาณหกสิบพันปีแล้ว เมื่อไรเราจะพ้นทุกข์เล่า

เปรตที่ ๓ ว่า นตฺถิ อนฺโต กุโต ดูกรสหาย ที่สุดของเราเมื่อไรจะพ้นจากทุกข์ในโลหะกุมภี หรือที่สุดแห่งทุกข์ของเราจะไม่มี

เปรตที่ ๔ ว่า โสหํ นูน อิโต คนฺตฺวา อิโต คนฺตฺวา ดูกรสหาย ตัวของเรานี้ถ้าพ้นจากนรกนี้แล้วไปบังเกิดเป็นมนุษย์ จะให้ทานรักษาศีล เจริญภาวนา ก่อสร้างทางกุศลเป็นแน่แท้ เปรตทั้ง ๔ ตน ร้องประกาศดังนี้ในราตรีเพลากลางคืนดึกสงัด

พระเจ้าปเสนทิโกศลบรมกษัตริย์ ได้ทรงฟังก็ตกพระทัย ครั้นรุ่งเช้าก็เสด็จออกไปเฝ้าทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์ก็ทรงตรัสเทศนา เหมือนนัยที่พรรณามาแล้วนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลได้ทรงฟังก็สลดพระทัย โดยนัยที่บรรยายมาฉะนี้


ธรรมจักร ธรรมจักร ธรรมจักร
 

_________________
พฤษภกาสร อีกกุญชร อันปลดปลง
โททนต์ เสน่งคง สำคัญหมาย ในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้น ทั้งอินทรีย์
สถิตย์ทั่ว แต่ชั่วดี ประดับไว้ ในโลกา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
สาวิกาน้อย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 27 มี.ค. 2006
ตอบ: 2065

ตอบตอบเมื่อ: 29 ก.ค.2006, 1:22 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สา..............ธุ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
suvitjak
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 26 พ.ค. 2008
ตอบ: 457
ที่อยู่ (จังหวัด): khonkaen

ตอบตอบเมื่อ: 06 มิ.ย.2008, 1:55 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ
 

_________________
ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง