Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 แต่งเพลง เล่นดนตรี ผิดศีล 5 มั้ย อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
a student
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 03 ส.ค. 2006, 6:00 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สมมุติถ้าเราทำเพลงแต่งเพลง ละเล่นดนตรีออกมาให้คนฟัง เราไม่ผิดศีลห้าแต่มันจะเป็นเหตุให้คนอื่นผิดหรือเปล่า เช่นเขาฟังเพลงละลุ่มหลงไปในเพลงหรือเนื้อหาเพลง งี้ถือว่าเรามีส่วนผิดด้วยหรือเปล่าครับในเชิงลึกซึ้ง (หรือเราคิดมากไปเอง เหอะๆ) ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ
 
๛ Nirvana ๛
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2006
ตอบ: 403

ตอบตอบเมื่อ: 03 ส.ค. 2006, 6:16 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

[๕๘๙] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเวฬุวัน
กลันทกนิวาปสถาน ใกล้พระนครราชคฤห์ ครั้งนั้นแล พ่อบ้านนักเต้นรำนามว่า
ตาลบุตร เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว
นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญ ข้าพระองค์เคยได้ยินคำของนักเต้นรำ ผู้เป็นอาจารย์และปาจารย์ก่อนๆ
กล่าวว่า นักเต้นรำคนใดทำให้คนหัวเราะ รื่นเริง ด้วยคำจริงบ้าง คำเท็จบ้าง
ในท่ามกลางสถานเต้นรำ ในท่ามกลางสถานมหรสพ ผู้นั้นเมื่อแตกกายตายไป
ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาผู้ร่าเริง ในข้อนี้พระผู้มีพระภาคตรัสอย่างไร
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า อย่าเลยนายคามณี ขอพักข้อนี้เสียเถิด ท่านอย่าถามข้อนี้
กะเราเลย ฯ
[๕๙๐] แม้ครั้งที่ ๒ ... แม้ครั้งที่ ๓ พ่อบ้านนักเต้นรำนามว่าตาลบุตร
ก็ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์เคยได้ยินคำของ
นักเต้นรำ ผู้เป็นอาจารย์และปาจารย์ก่อนๆ กล่าวว่า นักเต้นรำคนใดทำให้คน
หัวเราะ รื่นเริง ด้วยคำจริงบ้าง คำเท็จบ้าง ในท่ามกลางสถานเต้นรำ ในท่าม
กลางสถานมหรสพ ผู้นั้นเมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของ
เทวดาผู้ร่าเริง ในข้อนี้พระผู้มีพระภาคตรัสอย่างไร ฯ
[๕๙๑] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรนายคามณี เราห้ามท่านไม่ได้แล้ว
ว่า อย่าเลยนายคามณี ขอพักข้อนี้เสียเถิด ท่านอย่าถามข้อนี้กะเราเลย แต่เรา
จักพยากรณ์ให้ท่าน ดูกรนายคามณี เมื่อก่อนสัตว์ทั้งหลายยังไม่ปราศจากราคะ
อันกิเลสเครื่องผูกคือราคะผูกไว้ นักเต้นรำรวบรวมเข้าไว้ซึ่งธรรมอันเป็นที่ตั้ง
แห่งความกำหนัด ในท่ามกลางสถานเต้นรำ ในท่ามกลางสถานมหรสพ แก่สัตว์
เหล่านั้นมากยิ่งขึ้น เมื่อก่อนสัตว์ทั้งหลายยังไม่ปราศจากโทสะ อันกิเลสเครื่องผูก
คือโทสะผูกไว้ นักเต้นรำรวบรวมเข้าไว้ซึ่งธรรมเป็นที่ตั้งแห่งโทสะ ในท่ามกลาง
สถานเต้นรำ ในท่ามกลางสถานมหรสพ แก่สัตว์เหล่านั้นมากยิ่งขึ้น เมื่อก่อน
สัตว์ทั้งหลายยังไม่ปราศจากโมหะ อันกิเลสเครื่องผูกคือโมหะผูกไว้ นักเต้นรำ
ย่อมรวบรวมไว้ซึ่งธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งโมหะ ในท่ามกลางสถานเต้นรำ ในท่าม-
*กลางสถานมหรสพ แก่สัตว์เหล่านั้นมากยิ่งขึ้น นักเต้นรำนั้น ตนเองก็มัวเมา
ประมาท ตั้งอยู่ในความประมาท เมื่อแตกกายตายไป ย่อมบังเกิดในนรกชื่อปหาสะ
อนึ่ง ถ้าเขามีความเห็นอย่างนี้ว่า นักเต้นรำคนใดทำให้คนหัวเราะ รื่นเริง
ด้วยคำจริงบ้าง คำเท็จบ้าง ในท่ามกลางสถานเต้นรำ ในท่ามกลางสถานมหรสพ
ผู้นั้นเมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชื่อปหาสะ ความ
เห็นของเขานั้นเป็นความเห็นผิด ดูกรนายคามณี ก็เราย่อมกล่าวคติสองอย่าง
คือ นรกหรือกำเนิดสัตว์เดียรัจฉาน อย่างใดอย่างหนึ่ง ของบุคคลผู้มีความเห็น
ผิด ฯ
[๕๙๒] เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว พ่อบ้านนักเต้นรำนามว่า
ตาลบุตรร้องไห้สะอื้น น้ำตาไหล พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรนายคามณี เราได้
ห้ามท่านแล้วมิใช่หรือว่า อย่าเลย นายคามณี ขอพักข้อนี้เสียเถิด อย่าถามข้อนี้
กะเราเลย ฯ
คามณี. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ไม่ได้ร้องไห้ถึงข้อที่พระผู้มี-
*พระภาคตรัสอย่างนี้กะข้าพระองค์หรอก แต่ว่าข้าพระองค์ถูกนักเต้นรำผู้เป็นอาจารย์
และปาจารย์ก่อนๆ ล่อลวงให้หลงสิ้นกาลนานว่า นักเต้นรำคนใดทำให้คนหัวเราะ
รื่นเริง ด้วยคำจริงบ้าง คำเท็จบ้าง ในท่ามกลางสถานเต้นรำ ในท่ามกลางสถาน
มหรสพ ผู้นั้นเมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาชื่อปหาสะ
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระธรรมเทศนาของพระองค์แจ่มแจ้งยิ่งนัก ข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญ พระธรรมเทศนาของพระองค์แจ่มแจ้งยิ่งนัก พระผู้มีพระภาคทรงประกาศ
ธรรมโดยอเนกปริยาย ดุจหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง
หรือตามประทีปในที่มืดด้วยหวังว่า คนมีจักษุจักเห็นรูป ฉะนั้น ข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญ ข้าพระองค์นี้ขอถึงพระผู้มีพระภาคกับทั้งพระธรรมและภิกษุสงฆ์ว่าเป็น
สรณะ ข้าพระองค์พึงได้บรรพชาอุปสมบท ในสำนักของพระผู้มีพระภาคนาย
นฏคามณีนามว่าตาลบุตรได้บรรพชา ได้อุปสมบทในสำนักพระผู้มีพระภาคแล้ว
ท่านพระตาลบุตรอุปสมบทไม่นาน หลีกออกจากหมู่อยู่ผู้เดียว ไม่ประมาท มีความ
เพียร มีใจแน่วแน่ ฯลฯ ก็แลท่านพระตาลบุตรเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่ง ใน
จำนวนพระอรหันต์ทั้งหลาย ฯ
จบสูตรที่ ๒

สาธุ สาธุ สาธุ
 

_________________
ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวตำแหน่ง AIMMSN Messenger
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 03 ส.ค. 2006, 7:56 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อย่าคิดเลยเถิดไปเลยครับ
เราไม่ได้สอนให้เขาไปฆ่าคน ค้ายาบ้า ลักทรัพย์ ฯลฯ
 
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 03 ส.ค. 2006, 10:59 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อือม...อยู่ที่คุณมองทางโลกหรือทางธรรม หากมองทางโลก ยังลุ่มหลงอยู่ทางโลก มันก็หลงอารมณ์ไปกับเสียงดนตรี หลงละเมอเพ้อพกปั่นป่วนไปตามบทเพลง อารมณ์ก็เตลิดไปไกล หากผ่านการเจริญสติมาบ้างแล้ว เมื่อหูกระทบเสียงไม่ว่าจะเป็นเสียงใดแม้จะเป็นเสียงดนตรี หรือเสียงร้องตามเนื้อเพลง หรือจังหวะต่างๆที่ก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวไปตามจังหวะเสียงดนตรี ล้วนแล้วแต่เป็นธรรมและเอื้อต่อการเจริญสติในอิริยาบทเคลื่อนไหวทั้งสิ้น อยู่ตรงจุดไหนก็เข้าใจไปตามนั้น อือม...มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเลือกให้ได้ยินหรือไม่ได้ยินเสียงต่างๆ แต่ได้ยินแล้วจะทำอย่างไร

เจริญในธรรม

มณี ปัทมะ ตารา
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
a student
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 06 ส.ค. 2006, 7:49 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมพอมีความสามารถทางด้านนี้ครับ เลยขอคำปรึกษา เพราะเกรงว่าดนตรี ในเชิงพุทธศาสนา จะมีกรรม ต่อผู้รับฟัง ถ้าเขาลุ่มหลง หรือไปทำผิดศีลห้าอย่างอื่นๆจากดนตรี เราจะมีส่วนเป็นเหตุหรือเปล่าที่เพลงเราเข้าทางโสตประสาทเขา แต่ในทางโลกคงไม่ผิดศีล5อะไร แต่เกรงว่าจะมีผลกรรมต่อชะตากรรม หรือจิต เราในอนาคตครับ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำทุกๆท่านครับ
 
สุรพงษ์
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 07 ส.ค. 2006, 12:23 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เคยลองฟังดนตรีเพื่อสมาธิของคุณจำรัส เศวตาภรณ์ไหมครับ เพลงที่เปิดประกอบในงานพิธีฉลองสิริราชสมบัติ ที่เปิดในทีวี ฟังแล้วมีความรู้สึกอย่างไรครับ
การกระทำแบ่งออก เป็น กาย1 วาจา 1 และใจอีก 1 งานของคุณถ้าทำด้วยจิตบริสุทธิที่ไม่มีเจตนาให้ผู้ฟังกระทำผิด การกระทำของคุณนั้นก็ไม่ผิด แต่ถ้างานสิ่งเดียวและอย่างเดียวกันที่คุณทำนั้นมีเจตนาให้ผู้ฟังหลงผิดการนั้นย่อมผิดศีล สมมุติว่าแมงมุมขึ้นบ้านคุณ การที่คุณกวาดหยากใย่ เป็นการทำให้แมงมุมเดือดร้อน ถ้าคุณมีเจตนาต้องการให้แมงมุมเดือดร้อนอย่างนี้คุณผิดศีล แต่ถ้าคุณมีเจตนาให้บ้านสะอาดอย่างเดียวอย่างนี้การกระทำนั้นผมคิดว่าไม่ผิดศีล หรือถ้าจะผิดก็คงเป็นบาปที่น้อยกว่าการมีเจตนารังแกมัน (เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล) โปรดพิจารณา ขอความเจริญในธรรมจงมีแด่คุณ
 
a student
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 09 ส.ค. 2006, 9:28 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมพอมีความชอบความสามารถในด้านดนตรี กีต้าร์ กลอง ตั้งแต่เด็กๆและแต่งเพลงบ้าง เกรงว่าจะเป็นอาชีพที่ผิดศีล 5 เพราะเนื้อเพลงในตลาดวัยรุ่นตอนนี้เขาก็เน้นไปทาง ความรัก เลิก อกหัก อย่างงี้ แล้ว ถ้าเราเดินสายอาชีพนี้จะผิดศีล 5 มั้ยครับ
 
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 09 ส.ค. 2006, 10:41 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ไม่ผิดศีลหรอกค่ะ อย่างคุณสนใจธรรมะ คุณก็สอดแทรกเนื้อหาทางธรรมเข้าไปได้ เสียงดนตรี ไม่ว่าจะเสียงจากเครื่องดนตรีชนิดใด ใช้บำบัดได้หมด ยิ่งเสียงกลองหนักๆ หรือแม้แต่เสียงจากเครื่องดนตรีที่มีการขึงสายเช่น กีต้าร์ ก็ไม่ต่างจากขิมหรือกู่เจิ้ง มันพริ้วไหว ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องดนตรีแนวบำบัดซิค่ะ ฟังดีๆนี่มันเกี่ยวกับธาตุเลย ลองศึกษาดู เราไม่ได้ไปปล้นไปฆ่าหรือไปทำความเดือดร้อนให้ใคร ไม่ต้องไปคิดมาก ดำเนินชีวิตทางโลกคู่ไปกับทางธรรม เดินสายกลางคิดมากฟุ้งมาก ปวดหัวเปล่าๆ

เจริญในธรรม

มณี ปัทมะ ตารา ผีเสื้อ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
สุรพงษ์
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 10 ส.ค. 2006, 12:19 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พุทธฝ่ายมหายาน มีดนตรีประกอบการสวดก็มีเจตนาเพื่อให้ดนตรีชักนำไปสู่ความสงบเป็นเจตนาที่ดี เดี๋ยวนี้บทสวดสรภัญญะก็มีท่วงทำนองคล้ายเพลงชนิดหนึ่ง แต่เป็นเพลงที่เป็นไปเพื่อความสงบ เพลงชนิดนี้ผมมีความเชื่อส่วนตัวว่าคงไม่มีใครลุ่มหลงไปกับดนตรีแบบนี้ คุณมีความสามารถด้านนี้ก็ทำให้เนื้อหาของเพลงไม่ผิดศีล ไม่ส่งเสริมให้คนผิดศีลคงไม่บาป และถ้าเป็นเพลงที่มีเนื้อหาให้คนทำความดี ก็คงจะเป็นบุญแก่ตัวคุณเองด้วย สรุปก็คือการกระทำใดก็แล้วแต่ขอให้มีเจตนาดี มีวาจาดี มีการกระทำที่ดี การกระทำนั้นก็คงออกมาดีตามเหตุของมัน
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง