Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
กฏแห่งกรรม :: หมอไร้คุณธรรม
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
กฎแห่งกรรม
ผู้ตั้ง
ข้อความ
๛ Nirvana ๛
บัวบาน
เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2006
ตอบ: 403
ตอบเมื่อ: 28 มิ.ย.2006, 5:09 pm
หมอไร้คุณธรรม
มีอยู่วันหนึ่ง คุณไป่เปี่ยวขับรถส่วนตัวเดินทางไปพิษณุโลก เป็นเส้นทางสู่ทางเหนือ ทุกๆ เดือน คุณไป่เปี่ยวจะต้องเดินทางไปพิษณุโลก เมื่อรถแล่นผ่านปากน้ำโพบนถนนหลวง ก็มีอุบัติเหตุรถชนกัน ระหว่างรถจักรยานยนต์ 2 คันชนกัน คันหนึ่งมี 3 คน อีกคันมี 2 คน ทั้งหมด 5 คน 1 ใน 5 คน มีชายคนหนึ่งลุกขึ้นมาโบกรถเพื่อขอความช่วยเหลือ นอกนั้นนอนระเนระนาดอยู่กับพื้น รถวิ่งผ่านไปมาหลายคัน แต่ไม่มีคันไหนจอดเพื่อช่วยเหลือคนเจ็บ ซึ่งมีผู้หญิง 3 คน 2 คนขาขาด อีกคนหนึ่งหน้าถลอกเลือดไหลไม่หยุด
ส่วนผู้ชายอีกคนนอนอยู่กลางถนนไม่ไหวติง ต่อมาก็มีคนมามุงดูมากมาย คุณไป่เปี่ยวเห็นเหตุการณ์เช่นนั้นจึงถามว่า "แถวนี้มีโรงพยาบาลไหม ?" ชาวบ้านจึงว่า "ต้องนั่งรถไปอีก 20 กว่ากิโลจะมีโรงพยาบาลเอกชน" โรงพยาบาลนี้มีนายแพทย์ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งประจำอยู่ เป็นโรงพยาบาลเปิดใหม่ คุณไป่เปี่ยวจึงคิดว่า รถของตนเองเป็นรถกระบะเล็กนั่งได้เพียง 2 คน ไม่สามารถให้ผู้บาดเจ็บโดยสารไปได้ จึงได้โบกรถคันอื่นเพื่อขอความช่วยเหลือ บังเอิญโชคดีมีรถกระบะคันหนึ่งแล่นผ่านมา คุณไป่เปี่ยวจึงขอความช่วยเหลือโดยให้ชาวบ้านหลายๆ คน ช่วยกันอุ้มคนเจ็บขึ้นรถ และขอให้ไปส่งที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
เมื่อไปถึงโรงพยาบาลก็ไม่เจอหมอ เจอแต่นางพยาบาลอยู่หลายคน คุณไป่เปี่ยวจึงรีบขอความช่วยเหลือจากนางพยาบาล พร้อมขอเตียงคนไข้และรถเข็นสำหรับคนเจ็บ นางพยาบาลเข็นมาให้แต่รถส่วนเตียงคนไข้ไม่ได้เข็นมาพร้อมกับพูดว่า "ต้องรอผู้อำนวยการเสียก่อน"
คุณไป่เปี่ยววิ่งเข้าวิ่งออกโดยเสียเวลาไปมาก
จนกระทั่งเห็นหมอเดินออกมา เป็นหมอหนุ่มอายุไม่เกิน 30 ปี ดูลักษณะเหมือนหมอห่วงคนเจ็บมาก
รีบขึ้นรถดูอาการคนไข้ที่เจ็บมากที่สุดก่อนคือ ผู้ชายที่ลำไส้ใหญ่และอวัยวะภายในทะลักออกมาข้างนอก เมื่อหมอมาถึงก็รีบๆ เอาลำไส้ยัดใส่เข้าไปในท้อง โดยไม่ใส่ใจว่าลำไส้จะเปื้อนดินเปื้อนทรายแค่ไหน
หลังจากนั้นคุณหมอก็พูดกับคุณไป่เปี่ยวว่า "โรงพยาบาลแห่งนี้มีเครื่องมือไม่ครบ หมอแนะนำให้ส่งคนเจ็บไปโรงพยาบาลหลวงเพราะที่นั่นมีเครื่องมือทันสมัย ยังมีคนเจ็บที่เป็นผู้หญิงอีก 2 คนที่ขาขาดควรที่จะส่งไปโรงพยาบาลหลวง" คุณไป่เปี่ยวได้ฟังเช่นนั้นรู้สึกซึ้งในน้ำใจหมอ จึงคิดว่าหมอแนะนำดีและมีเหตุผล
โรงพยาบาลหลวงห่างจากโรงพยาบาลเอกชนประมาณ 70 ถึง 80 กิโล คนขับรถกระบะที่มาส่งคนเจ็บบอกว่า "มีธุระด่วน ไม่สามารถส่งคนเจ็บไปที่โรงพยาบาลหลวงได้" คุณไป่เปี่ยวจึงต้องหารถโดยสารเล็กนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล และยังขอร้องให้นางพยาบาลอีกคนช่วยดูแลคนเจ็บ เมื่อไปถึงโรงพยาบาลคนเจ็บทุกคนต้องให้น้ำเกลือเสียเวลาไปเกือบ 2 ชั่วโมง คุณไป่เปี่ยวก่อนนำคนเจ็บไปโรงพยาบาลหลวง ยังวานให้เด็ก ล้างรถกระบะที่ติดเลือดออกให้หมด พร้อมทั้งจ่ายค่ารักษาให้หมอ และนึกขอบคุณหมอหนุ่มและนางพยาบาลเหล่านั้น
พอออกจากโรงพยาบาลมามีคนเล่าให้ฟังว่า "ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ไม่ใช่ไม่มีเครื่องมือรักษา แต่ในกรณีคนเจ็บที่ประสบอุบัติเหตุ ถึงแม้รักษาก็จะไม่ได้ค่ารักษาใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้นโรงพยาบาลเอกชนจึงไม่รับรักษาคนเจ็บ จึงพยายามแนะนำผู้ที่ส่งคนเจ็บมาว่าให้ไปรักษาที่โรงพยาบาลหลวง"
ความรู้สึกครั้งแรกที่คุณไป่เปี่ยวได้เห็นหมอกุลีกุจอดูแลคนเจ็บ จนเกิดความซึ้งใจเปลี่ยนเป็นความโกรธเคืองว่าหมอคนนี้ไม่มีคุณธรรมไม่มีน้ำใจ ด้วยความโกรธอยากจะเอาแก้วน้ำที่ถืออยู่ในมือสาดใส่หน้าของนางพยาบาลที่ติดตามมาเพื่อเป็นการสั่งสอน แต่คิดไปคิดมาอย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ ไม่คุ้มเลยที่จะไปมีเรื่องมีราวกับคนที่ไม่มีเมตตาธรรม คนเห็นแก่เงิน ถึงโกรธไปก็ไม่มีประโยชน์ จึงตัดสินใจรีบขับรถเดินทางต่อไป โดยลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ ไม่กี่วันต่อมาคุณไป่เปี่ยวทำธุระที่พิษณุโลก
เสร็จจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ จะต้องผ่านจังหวัดนครสวรรค์อีก คุณไป่เปี่ยวจึงแวะเยี่ยมคนเจ็บที่โรงพยาบาล หมอบอกว่า
"ผู้หญิงคนที่ขาขาดยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนคนเจ็บ 2 คนกลับบ้านไปแล้ว มีผู้เสียชีวิตคนหนึ่งคือผู้ชายที่ไส้ทะลัก เพราะมาส่งที่โรงพยาบาลช้าเกินไป หมอช่วยไว้ไม่ทัน"
พอคุณไป่เปี่ยวได้ฟังหมอพูดเช่นนั้น ก็อดเคืองหมอหน้าเงินคนนั้นอีกไม่ได้ที่ไม่ยอมรักษาคนเจ็บ ถ้าหมอคนนั้นไม่เห็นแก่เงินสักนิดผู้ชายคนนี้อาจจะไม่ตายก็ได้
ต่อมาอีกไม่นานคุณไป่เปี่ยวก็ขับรถคู่ใจคันสีขาวมุ่งสู่จังหวัดพิษณุโลก เป็นเรื่องแปลกและอัศจรรย์จริงๆ เพราะถนนหลวง เส้นทางเดียวกันกับเมื่อครึ่งปีก่อนได้เกิดอุบัติเหตุรถชนกัน เป็นปีเดียวกันกับที่คุณไป่เปี่ยวช่วยพาหนุ่มสาวเหล่านั้นไปส่งโรงพยาบาล
แต่ว่าวันนี้รถเก๋งชนกับรถบัสใหญ่ ครั้งนี้คุณไป่เปี่ยวได้เห็นรถเก๋งยี่ห้อดังถูกชนจนกระจกหน้ารถแตกย่อยยับ รถบัสใหญ่ก็ถูกชนหงายท้อง มีจราจรมายืนโบกรถให้รถที่แล่นผ่านไปมาขับช้าๆ คุณไป่เปี่ยวจอดรถลงไปดูจึงได้รู้ว่า
รถเก๋งคันที่ถูกชนเจ้าของรถคือผู้อำนวยการใหญ่โรงพยาบาลเอกชนแถวนี้
พอคุณไป่เปี่ยวได้รู้เช่นนั้นรู้สึกตกใจมาก ไม่รู้อะไรดลใจให้ไปที่โรงพยาบาล เมื่อไปถึงโรงพยาบาลนางพยาบาลบอกว่า
"ผู้อำนวยการประสบอุบัติเหตุรถชนกัน ตอนนี้อาการขั้นโคม่า จะรอดหรือปล่าวก็ยังไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ต้องตัดขาทิ้ง ขณะนี้กำลังรอพี่ชายมาจากในเมืองเพื่อส่งไปรักษาที่กรุงเทพฯ"
พอคุณไป่เปี่ยงได้ฟังเช่นนั้นก็คิดว่า "เรื่องกฏแห่งกรรมนั้นมีจริง" และสนองทันตาเห็น เพราะเมื่อครึ่งปีก่อนมีคนประสบอุบัติเหตุรถชนกัน มีผู้หญิงขาขาด 2 คน ผู้ชายไส้ทะลัก 1 คน หมอไม่รับรักษาให้ เพราะคิดว่าไม่มีค่าตอบแทน
ฉะนั้น เรื่องเล่ากันว่าหมอทุกคนต้องมีวิญญาณผีติดตามตัวตลอดเวลาเป็นเรื่องจริง เพราะหมอที่ไม่มี คุณธรรมเห็นแก่เงินไม่รักษาคนเจ็บ ผลสุดท้ายตัวเองก็ประสพอุบัติเหตุเช่นกัน กรรมจึงตามสนองเหมือนเงาตามตัว
.............................................................
คัดลอกมาจาก
http://www.manager.co.th/Dhamma/
_________________
ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน
ไลลารินทร์
บัวพ้นดิน
เข้าร่วม: 14 ก.ค. 2006
ตอบ: 64
ตอบเมื่อ: 14 ก.ค.2006, 4:29 pm
คนที่จะเป็นหมอได้นั้นควรที่จะมีความเสียสละมากกว่าคนอื่นเป็นเท่าๆ ตัว
_________________
เชื่อ ศรัทธา และเคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ด้วยหัวใจอย่างไม่มีข้อกังขาใดๆ
แมวขาวมณี
บัวบาน
เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2006
ตอบ: 307
ตอบเมื่อ: 08 ส.ค. 2006, 7:04 pm
ปัจจุบัน หมอเป็นเพียงอาชีพหนึ่ง ที่ใช้หาเงินทอง สร้างฐานะเหมือนอาชีพอื่นๆ
คนที่หวังรวย มักจะแนะนำให้ลูกหลานเรียนอาชีพนี้
และส่วนมาก ก็เป็นพวกที่มีอาชีพทางนี้อยู่แล้ว เพราะรวยเร็ว มีหน้ามีตา
อยากให้พวกนี้ รู้จักมีคุณธรรม เมตตาธรรมให้มากเพราะหากินอยู่กับความเจ็บไข้ ความเวทนาต่างๆของผู้ประสบวิบากกรรม ไม่ควรซ้ำเติมในเคราะห์กรรมของเขา จะกลายเป็นเจ้ากรรม นายเวรแก่ตนเองเปล่าๆ
suvitjak
บัวบาน
เข้าร่วม: 26 พ.ค. 2008
ตอบ: 457
ที่อยู่ (จังหวัด): khonkaen
ตอบเมื่อ: 27 มิ.ย.2008, 2:15 pm
สาธุ เรียนวิชาช่วยคนแต่ ไม่เรียนวิชาธรรมให้มีจิตสำนึกนะ
_________________
ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน
บัวหิมะ
บัวเงิน
เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273
ตอบเมื่อ: 15 ส.ค. 2008, 3:32 pm
"ผู้อำนวยการประสบอุบัติเหตุรถชนกัน ตอนนี้อาการขั้นโคม่า จะรอดหรือปล่าวก็ยังไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ต้องตัดขาทิ้ง ขณะนี้กำลังรอพี่ชายมาจากในเมืองเพื่อส่งไปรักษาที่กรุงเทพฯ"
พอคุณไป่เปี่ยงได้ฟังเช่นนั้นก็คิดว่า "เรื่องกฏแห่งกรรมนั้นมีจริง" และสนองทันตาเห็น เพราะเมื่อครึ่งปีก่อนมีคนประสบอุบัติเหตุรถชนกัน มีผู้หญิงขาขาด 2 คน ผู้ชายไส้ทะลัก 1 คน หมอไม่รับรักษาให้ เพราะคิดว่าไม่มีค่าตอบแทน
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ตามกฎแห่งกรรม จริง ๆ
ขอบคุณ ที่นำมาเล่าเพื่อเป็นอุทธาหรณ์สอนใจ สาธุ
_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
กฎแห่งกรรม
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th