Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 กรรมชั่วและกรรมดี อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 28 มิ.ย.2006, 3:22 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

การวินิจฉัยว่า
สิ่งใดเป็นกรรมดี สิ่งใดเป็นกรรมชั่ว
สิ่งใดถูก สิ่งใดผิด
สิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ
มีหลักเกณฑ์ดังนี้คือ

๑. การกระทำที่มีเหตุมาจากกุศลมูล
คือ อโลภะ อโทสะ อโมหะ

การกระทำนั้นเป็นกรรมดี ถูก เป็นบุญ ควรทำ
ถ้ามีเหตุมาจากอกุศลมูล คือ โลภะ โทสะ โมหะ
การกระทำนั้นเป็นกรรมชั่ว ผิด เป็นบาป ไม่ควรทำ

๒. การกระทำที่ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนใครๆ
มีสุขเป็นผล ไม่ทำให้ร้อนใจภายหลัง

การกระทำนั้นเป็นกรรมดี ถูก เป็นบุญ ควรทำ
ถ้าเป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนหรือผู้อื่น
มีทุกข์เป็นผล หรือทำให้ร้อนใจภายหลัง
การกระทำนั้นเป็นกรรมชั่ว ผิด เป็นบาป ไม่ควรทำ

๓. การกระทำที่ทำให้กุศลธรรมเจริญขึ้น อกุศลธรรมเสื่อมไป
การกระทำนั้นเป็นกรรมดี ถูก เป็นบุญ ควรทำ
ถ้าทำให้กุศลธรรมเสื่อมไป อกุศลธรรมเจริญขึ้น
การกระทำนั้นเป็นกรรมชั่ว ผิด เป็นบาป ไม่ควรทำ

การกระทำความดีที่สมบูรณ์แบบนั้น
ต้องทำให้ครบวงจร คือ ดีทั้งเหตุ ดีทั้งผล
และทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่างได้รับผลดี
เช่น ในการปล่อยสัตว์ ผู้ปล่อยก็ได้บุญ
คือ รู้สึกดีใจชื่นใจที่ตนได้ทำความดี
สัตว์ที่ถูกปล่อยก็ดีใจที่มีชีวิตรอดพ้นจากความตาย
หรือพ้นจากการจองจำ


การกระทำบางอย่าง เช่น หลับในเวลาเรียน
แม้จะไม่ใช่กรรมชั่ว แต่ก็เป็นสิ่งที่ไม่สมควร
ดังนั้นนอกจากพิจารณาเหตุและผลดังกล่าวแล้ว
ก่อนจะทำอะไรลงไป ควรพิจารณาถึงสิ่งต่างๆ ดังนี้

๑. กฎหมาย
การทำผิดกฎหมายย่อมไม่สมควร
เช่น การ จอดรถในที่ห้ามจอด

๒. ศีล
การกระทำบางอย่าง
เช่น การฆ่าสัตว์โดยมีอาชญาบัตรถูกต้อง
แม้จะไม่ผิดกฎหมาย แต่ผิดศีล จึงไม่ควรทำ
สำหรับคฤหัสถ์ควรรักษาศีลห้าเป็นอย่างน้อย

๓. ฐานะ
การกระทำใด ถ้าไม่เหมาะกับเพศ วัย
ความรู้ กำลัง ยศ ตระกูล หรือ ฐานะในสังคมของตน
การกระทำนั้นไม่สมควร
เช่น ...มีรายได้น้อยแต่ชอบใช้ของแพงๆ

๔. คำตำหนิ
พระพุทธเจ้าตรัสว่า ติตนเองด้วยสิ่งใด ไม่ควรทำสิ่งนั้น
ดังนั้น การกระทำใด ถ้าตนเองตำหนิ
หรือ ผู้รู้ (จักผิดชอบชั่วดี) ตำหนิ
การกระทำนั้นไม่สมควร
คำตำหนิของผู้รู้เปรียบเหมือนลายแทงขุมทรัพย์
ผู้นำมาพิจารณาโดยแยบคายจะได้รับประโยชน์
คือ รู้ข้อบกพร่องในตัว แล้วแก้ไขเสีย

๕. กาลเวลา การกระทำที่ไม่เหมาะสมกับกาลเวลา
แบ่งได้ ๔ ลักษณะ คือ
๕.๑ ควรจะรีบแต่กลับเฉื่อยชา
เช่น การปฐมพยาบาลผู้ประสบอุบัติเหตุหรือป่วยหนัก
ต้องทำอย่างรีบด่วน ถ้าช้าอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้
๕.๒ ควรจะช้าแต่กลับเร็ว
เช่น การรีบกลืนอาหารโดยไม่เคี้ยวให้ละเอียด
ทำให้อาหารย่อยยาก
๕.๓ ผิดเวลา ถ้าพูดไม่ถูกกาลเวลา
เช่น การพูดกับคนที่กำลังโกรธ
มักจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี
การทำผิดเวลา เช่น ซื้อควายหน้านา
ซื้อผ้าหน้าหนาว ย่อมได้ของแพง
เพราะไม่วางแผนไว้ล่วงหน้า
๕.๔ ผิดลำดับ
คือ ควรทำก่อนกลับทำทีหลัง
ควรทำทีหลังกลับทำก่อน

อรรถกถาอาวาริยชาดก
กล่าวถึงคนแจวเรือจ้างข้ามฟาก
เขาส่งผู้โดยสารข้ามแม่น้ำคงคาก่อน
แล้วค่อยทวงค่าจ้างภายหลัง
การทำผิดลำดับ
ทำให้เขาต้องทะเลาะกับผู้โดยสารที่ไม่ยอมจ่ายค่าจ้าง
เขาต้องใช้วิธีด่าและทุบตีผู้โดยสาร จึงจะได้ค่าจ้าง
ถ้าเขาใช้นโยบาย จ่ายก่อน จรทีหลัง
ซึ่งเป็นวิธีที่ถูกต้อง
เขาจะเรียกร้องค่าจ้างได้มากตามต้องการ
เพราะผู้โดยสารที่อยากจะข้ามฟาก
แม้เกินราคาค่าจ้างก็ให้ได้

๖. สถานที่
การกระทำที่ไม่เหมาะกับสถานที่มี ๒ ลักษณะ คือ
๖.๑ ขัดกับประเพณีอันดีงาม
เช่น การแต่งกายด้วยสีฉูดฉาดไปในงานศพ
คนไทยเราไม่นิยมทำกัน
ท่านจึงสอนว่า เข้าเมือง ตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม
๖.๒ ขัดกับสภาพแวดล้อม
เช่น การสวมเสื้อผ้าสีดำหรือสีที่มืดทึบ
ในขณะที่อากาศร้อนเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม
เพราะสีดำจะดูดความร้อนได้ดี
ทำให้ร่างกายร้อนมาก
เมื่อกลางปี ๒๕๓๘ ในสหรัฐอเมริกา
อากาศร้อนจัดมาก มีผู้เสียชีวิตเกือบพันคน
เพราะปรับตัวให้เข้ากับอากาศที่ร้อนจัดไม่ได้

อนึ่ง การอยู่ในถิ่นที่มีมลพิษมาก
ห่างไกลจากที่ทำงาน ไกลจากวัด
มีแหล่งอบายมุขมาก เป็นสิ่งที่ไม่ควร
เพราะเป็นอันตรายแก่สุขภาพ
และไม่สะดวกในการประกอบอาชีพและการปฏิบัติธรรม

๗. ความพอดี การกระทำที่ไม่พอดี
คือ ทำยังไม่ถึงดีหรือทำเลยดี ทำให้ผลที่ออกมาไม่ดี
เช่น การหุง ข้าวนานจนเลยความพอดี ย่อมได้ข้าวไหม้
ถ้าหุงยังไม่ถึงจุดที่พอดี ก็เลิกหุงเสียก่อน ข้าวก็สุกๆ ดิบๆ

กรรมชั่วมีมาก ในที่นี้จะกล่าวถึงทุจริต ๓ ชนิด
รวม ๑๐ อย่าง คือ
๑. กายทุจริต
ได้แก่ ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม
๒. วจีทุจริต
ได้แก่ พูดเท็จ พูดคำหยาบ พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อ
๓. มโนทุจริต
ได้แก่ อยากได้ของเขาในทางไม่ชอบ
ปองร้ายเขา มีความเห็นผิด
(เช่น ทานไม่มีผล กรรม ดีกรรมชั่วไม่มีผล
นรกสวรรค์ไม่มี พ่อแม่ไม่มีบุญคุณ)

เมื่อแบ่งย่อยออกไปอีก
คือ ฆ่าสัตว์ด้วยตนเอง ชักชวนผู้อื่นในการฆ่าสัตว์
พอใจในการฆ่าสัตว์ กล่าวสรรเสริญการฆ่าสัตว์
..... กล่าวสรรเสริญความเห็นผิด
รวม ๔๐ เรียกว่า อกุศลกรรมบถ ๔๐

กรรมชั่วย่อมนำไปสู่คุกตะรางหรือนรก
ควรเว้นเสีย และควรเว้นอบายมุขซึ่งเป็นเหตุให้ฉิบหาย
เช่น น้ำเมา การพนัน คนชั่ว ความเกียจคร้าน เป็นต้น

กรรมดีมีมาก เช่น กุศลกรรมบถ ๔๐
(การละเว้นอกุศลกรรมบถ ๔๐)
บุญกิริยาวัตถุ ๑๐
คือ กรรมดีหรือบุญที่เกิดจากการให้ทาน
การรักษาศีล การเจริญภาวนา
การอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่
การขวนขวายในกิจที่ชอบ
การให้ส่วนบุญ การอนุโมทนาส่วนบุญ
การฟังธรรม การแสดงธรรม การทำความเห็นให้ตรง

มงคล ๓๘ คือเหตุแห่งความเจริญ
เช่น ไม่คบคนพาล คบบัณฑิต ไม่ประมาท
สันโดษ อดทน เป็นต้น

กรรมดีเป็นสิ่งที่ควรกระทำ
เพราะนำความสุขมาให้ทั้งในชาตินี้ และชาติหน้า

ดอกไม้ ดอกไม้ ดอกไม้



คัดลอกจาก...
หนังสือ กรรมลิขิต
รวบรวมเรียบเรียง โดย ธมฺมวฑฺโฒภิกฺขุ
น.ธ.เอก, วศ.บ.(จุฬาฯ), m.s. (Computer)
วัดโสมมนัสวิหาร กรุงเทพมหานคร

http://www.dhammajak.net/book/kam/kam.php

สาธุ สาธุ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
๛ Nirvana ๛
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2006
ตอบ: 403

ตอบตอบเมื่อ: 28 มิ.ย.2006, 9:36 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อนุโมทนาธรรมครับ คุณลูกโป่ง
 

_________________
ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวตำแหน่ง AIMMSN Messenger
I am
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 29 มิ.ย.2006, 8:00 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

โมทนาครับ..สาธุ สาธุ
สวัสดีครับ คุณจักรพนธ์
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง