Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
การบัญญัติว่า ธรรมทั้งปวง
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
อาคันตุก
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 09 ก.ค.2006, 4:49 pm
ปัญญาวรรค สมสีสกถา
[๗๒๓] ปัญญา ในความไม่ปรากฏแห่งธรรม ทั้งปวงในสัมมา สมุจเฉท
และในนิโรธ เป็นญาณในความว่าสมธรรมและสีสธรรม ฯ
คำว่า ธรรมทั้งปวง คือ ขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ ธาตุ ๑๘ กุศลธรรม
อกุศลธรรม อัพยากตธรรม กามาวจรธรรม รูปาวจรธรรม อรูปาวจรธรรม
โลกุตรธรรม ฯ
/ปฏิสัมภิทามรรค/
สาวิกาน้อย
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 27 มี.ค. 2006
ตอบ: 2065
ตอบเมื่อ: 10 ก.ค.2006, 5:50 pm
ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
ภูเขาน้ำแข็ง
บัวใต้ดิน
เข้าร่วม: 13 พ.ค. 2006
ตอบ: 46
ตอบเมื่อ: 10 ก.ค.2006, 5:58 pm
สาธุ
_________________
อย่าดับความอยากด้วยการสนอง
จงดับโดยวางเฉย
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 13 ก.ค.2006, 1:07 pm
ถึงเยี่ยมชม
ที่คุณบอกว่า
จากความเห็นนี้ ต้องการจะให้มี สัพเพ วิสังขาร....................มายืนยัน ความเป็นอิสระและต่าง
คำว่า วิสังขาร หมายถึง นิพพาน
คำว่า สัพเพ วิสังขาร จึงแปลได้ว่า นิพพานทั้งปวง
โดยสภาวะ นิพพานเป็นหนึ่ง นิพพานทั้งปวงย่อมไม่มี ไม่สามารถจะนำมากล่าวได้ /////
ผม พิทยานันตญาณปรีชา หรือไล่ฉาเจิง ขอ อธิบายไหม่ดังนี้ เฉพาะตรงนี้ นอกนั้นเหมือนเดิม ดังนี้
ผมพิทยานันตญาณปรีชา หรือไล่ฉาเจิงแห่งstou19 และคนบอกบุญในพระมหาเจดีย์(ศรี)สมเด็จแห่งwww.dhammakaya.org ขอค้านความคิดนี้ครับเพราะถ้าพระพุทธเจ้ามุ่งให้คำว่าสัพเพ ธัมมา ต่างจากสัพเพ สังขารา จริง เน้นคำว่าจริงทุกแบบด้วยครับ พระพุทธเจ้า ท่านจะต้องมีพระพุทธพจน์สามประโยคอีกแบบคือวิสังขารหรือนิพพานัง นิจจัง/ วิสังขาร สุขัง /สัพเพ ธัมมา อนัตตา/ ด้วยครับ อย่างแน่นอนเพราะสามประโยคนี้ ก็มุ่ง ให้สัพเพ ธัมมา แตกต่างจาก วิสังขาร หรือนิพพาน ด้วยเช่นกันครับ อย่างพิเศษมาก คือสัพเพ ธัมมา จะเป็น ประโยคที่เป็นอิสระพิเศษอย่างแท้จริงใน3หรือ2ประโยคทุกรูปแบบจริงและคำว่าสัพเพ ธัมมา จะไม่เกี่ยวข้องกับสังขารหรือวิสังขาร อย่างใดอย่างหนึ่งเลยครับ โดยหมายถึงว่าธรรมเท่านั้นอย่างแท้จริงทั้งพยัญชนะและอรรถในตัวเองอย่างเป็นอิสระ
แต่พระพุทธเจ้า ไม่เคยตรัสพุทธพจน์มาก่อนและตลอดพุทธกาล เลยว่า วิสังขาร นิจจัง/ วิสังขาร สุขัง/สัพเพ ธัมมา อนัตตา เลย ดังนั้น สัพเพ ธัมมา อนัตตา ท่านไม่ได้ต้องการตรัสให้ต่างจาก สัพเพ สังขาราแน่นอนครับ เพราะ พระพุทธเจ้าท่านตรัสพุทธพจน์ประโยคว่าสัพเพ ธัมมา อนัตตา ให้ต่างจากประโยคของนิพพานหรือวิสังขาร ยังไม่ได้เลยครับด้วยแล้วพระพุทธเจ้าท่านจะตรัสประโยคของ สัพเพ ธัมมา เพื่อให้ต่างจากประโยคของ สัพเพ สังขารได้อย่างไร แบบ ลอยลอยครับ พระพุทธเจ้าท่านต้องมีพุทธพจน์อีกแบบ3ประโยคอื่น เพื่อยืนยันเจตนาในความแท้จริงของ3 ประโยคด้วยครับ มายันกันได้
ดังนั้น ความคิดของท่านปยุตโต ผมว่าน่าจะหาสามประโยคพุทธพจน์ระหว่างวิสังขารกับสัพเพ ธัมมา มายืนยันด้วยครับ เพื่อให้ สัพเพ ธัมมา อนัตตาเป็นแบบพิเศษอย่างแท้จริงครับ
ผมเห็นว่า พระพุทธเจ้า ไม่ตรัสพุทธพจนืสามประโยคแบบอื่นเลยครับมายัน ผมเห็นว่า พระพุทธเจ้าท่าน ให้แต่ สัพเพ ธัมมา อนัตตา เป็นประโยคคุ่กับ สัพเพ สังขาร อย่างเดียวเท่านั้นครับ จริงในตลอดพุทธกาล หมายความว่า เมื่อใช้คู่กันแต่ใน3ประโยคแบบเดียวของสังขารได้แค่นั้น มันก็เป็นเพียงประโยคใช้แทนสังขารใน3ประโยค เท่านั้นเองครับ การแทนกัน ในสังขารนั่นเอง พิสุจนืว่า สัพเพ ธัมมา อนัตตา ไม่มีในวิสังขาร เลย จึงไม่มีพุทธพจน์ระหว่าง วิสังขาร กับ สัพเพ ธัมมา อนัตตา เพราะ มันใช้แทนสังขารอย่างเดียวนั่นเองครับ สัพเพ ธัมมา อนัตตาไม่ได้อิสระจากสังขารเลย แม้พระสารีบุตร และพระอรหันตเถระใดในพุทธกาล ก็ไม่เคยบอกว่า มี วิสังขารหรือนิพพานัง นิจจังและ สุขัง สัพเพ ธัมมา อนัตตาเลยครับ เพื่อมายืนยัน ถึงความเป็นอิสระจริงของ ประโยคที่ว่าสัพเพ ธัมมาอนัตตาที่คุ่กับ ประโยคที่ว่าสัพเพ สังขารา อนิจจาและทุกขัง
นี่ก็เป็น วิธี ของ พิทยานันตญาณปรีชา หรือlai cha zeng ต่อนะครับ หากเขียนตัวบาลีผิด ต้องขออภัย แต่มุ่งให้ดูตามแนวนี้ครับ///ดังนั้น ตรงนี้ผมขอบอกต่อเลยนะครับ///ขอให้คุณเยี่ยมชมตอบไหม่ด้วยโดยอย่าเน้นที่ผมเขียนบาลีผิดไวยกรณ์ครับเพราะผมไม่สันทัดในการเขียนบาลีนานมาแล้ว//////////
ในสมสีกถา นี่เป็นภาษิตของพระสารีบุตร ไม่ใช่พุทธะวจนะ และ เกี่ยวกับปัญญาในญาณที่เห็นแจ้งในธรรมทั้งปวง เท่านั้นเองในสัมมาสมุจเฉทปหาน คือพระสารีบุตรท่านหมายถึงธรรมทั้งปวงคือการประกอบด้วยภาวะ อนัตตาและภาวะ ปรมะ เท่านั้นเองครับ ยังตรงกับสมธรรมและสีสธรรม ด้วยโดยพระสารีบุตรแบ่งว่า ขันธ์5ถึงอรูปาวจรธรรมคือ ภาวะอนัตตา นั่นเอง และโลกุตตรธรรมแท้คือ ปรมะ นั่นเองครับ เห็นชัดครับว่า พระสารีบุตร ท่านยังไม่ได้ตัดสินเองว่า โลกุตตรธรรมแท้ คือ อนัตตาเลย เพราะ พระพุทธเจ้ายังไม่เคยรับรองพุทธพจน์ให้ว่า นิพพานแท้เป็นอนัตตา อย่างเจาะจงเอง แต่พระพุทธเจ้าเคยบอกแต่ว่า นิพพานยอดเยี่ยม เป็นปรมะ เท่านั้นเองครับ ประมารนั้นนี่แหละทำให้เห็นว่า ธรรมทั้งปวงในที่นี้ พระสารีบุตร แสดงให้ดูว่าเวลาพระสารีบุตร บอกว่า ธรรมทั้งปวงคืออะไรเองพระสารีบุตรจะดูและตัดสินจากความหมายของภาคแสดงหรือข้อความประกอบอื่นที่แวดล้อมด้วยเสมอครับ ขอไห้จับแนวทางอธิบายของพระสารีบุตรก่อนครับ ผมของดการบอกเรื่องพระสารีบุตรก่อน เพราะมีรายละเอียดมาก แต่ขอให้เน้นการเข้าใจพระพุทธเจ้าและพุทธพจน์ก่อน แล้วจะเข้าใจรายละเอียดที่พระสารีบุตรบอกได้ดีขึ้นและไม่ทำเกินพระพุทธเจ้าด้วย เพราะปฏิสัมภิทามรรค หมายถึง ทางแห่งความแตกฉานตามพระพุทธเจ้าเป็นเอกครับ
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
ไม่สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th