ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
แม่น้องพิม
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
26 เม.ย.2006, 11:35 am |
  |
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้ไปทำบุญบริจาคโลหิตที่วัดปากน้ำ ทั้ง ๆ ที่คิดว่าจะต้องรู้สึกดีใจแต่เมื่อบริจาคแล้วกลับรู้สึกเฉย ๆ ทั้ง ๆ ที่ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะต้องอิ่มอกอิ่มใจเดินกลับบ้านตัวฟูเลย ไม่เข้าใจค่ะ หมู่นี้ เมื่อทำอะไรที่เป็นความดีกลับรู้สึกเฉย ๆ จะมีก็แต่ความรู้สึกสบายใจคล้าย ๆ กับหายอึดอัดเมื่อได้ทำสิ่งนั้น ๆ แล้ว ต่างกับเมื่อเวลาดูทีวีหรือได้ยินข่าวดีของคนอื่น จะรู้สึกตื้นตันไปกับเขาอย่างโอเวอร์ บางครั้งน้ำตาคลอเลย ค่อนข้างสับสนในตัวเองมาก ๆ ว่าทำไมไม่ดีใจถ้าเป็นตัวเอง แต่กลับไปดีใจกับคนอื่น ค่อนข้างกลัวว่าตัวเองจะเพี้ยน ๆ หรือแปลกจากชาวบ้านเขานะค่ะ รบกวนท่านผู้เจริญธรรมทุกท่านช่วยตอบให้หายข้องใจด้วยค่ะ
กราบขอบคุณล่วงหน้าค่ะ  |
|
|
|
|
 |
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
26 เม.ย.2006, 12:38 pm |
  |
ก้ออย่าไปคาดหวังว่า เราทำความดีแร้วจะต้องดีใจจิ หรือจะต้องเป้นแบบนั้น แบบนี้ จิ
การที่ทำดี เราต้องไม่คาดหวังผลจ้า
เราต้องทำเพราะว่า เราตั้งใจจะทำจิงๆ ไม่ได้ตั้งใจทำเพราะไปคาดหวังผลที่จะได้รับจากการที่กระทำดี นะจ้า
คุณลองคลายความรุ้สึกที่คุณอยากได้หลังการกระทำดีดู คือ ตั้งใจทำเพราะไม่อยากได้อะไรทั้งนั้น แต่ทำ เพราะ เราตั้งใจ ด้วยความบริสุท ใจ โดยไม่คาดหวังผล ว่า เราทำแร้วจะ ต้องได้รับความรู้สึกแบบนี้ แบบนั้น
สาธุ |
|
|
|
|
 |
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
26 เม.ย.2006, 4:34 pm |
  |
ดูทีวีรู้สึกตื้นตันน้ำตาคลอเลย นี่เมื่อคืนใช่ป่ะ?
----------------------------------------------------------
ปกติเราจะคุ้นเคยกับที่พูดๆกันว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว แต่เคยไปอ่านหนังสือธรรมะ ท่านสอนว่า
ทำดี .. ดี ทำชั่ว .. ชั่ว
ทำดีแล้วไม่ดีใจตื่นเต้นก็ช่างมันเหอะ บางคนติดดีแก้ไม่ได้ น่าหนักใจกว่าอีก |
|
|
|
|
 |
สุรพงษ์
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
26 เม.ย.2006, 9:18 pm |
  |
อย่าลืมหลักสำคัญ 3 อย่าง คือ 1.ละเว้นบาปทั้งปวง 2.ยังกุศลให้ถึงพร้อม 3.ทำจิตให้บริสุทธิ |
|
|
|
|
 |
ปุ๋ย
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
26 เม.ย.2006, 11:47 pm |
  |
กราบสวัสดี คุณแม่น้องพิม
จิตเป็นกุศล ทำด้วยจิตบริสุทธิ์ ทำจนเป็นความเคยชินกับการเป็นผู้ให้ แต่ไม่ยินดียินร้ายไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร ไม่ต้องสับสนว่าจะเป็นเช่นไร สาระของชีวิต อยู่ที่คิดดี ทำดี พูดดี ทำหน้าที่อย่างถูกต้อง ตามครรลองประโยชน์ตนและคนอื่น สะสมเหตุปัจจัยความดีเอาไว้ ถึงเวลาจะตาย จะได้อุ่นใจ และพร้อมเสมอที่จะตายทุกเมื่อ
เจริญในธรรม
มณี ปัทมะ ตารา  |
|
|
|
   |
 |
๛ Nirvana ๛
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2006
ตอบ: 403
|
ตอบเมื่อ:
27 เม.ย.2006, 8:43 pm |
  |
คนที่นานๆทำความดีซักทีเมื่อทำความดีก็จะรู้สึกตื่นเต้น อิ่มอกอิ่มใจเป็นพิเศษ แต่คนที่
ทำความดีเป็นประจำ จนเป็นอุปนิสัยแล้ว เช่นใส่บาตรทุกวัน ก็จะรู้สึกสบายใจ อาจจะแตกต่างจากตอนแรกๆที่ใส่บาตร บ้าง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าคนที่ใส่บาตรทุกวัน แล้ววันไหนไม่ได้ใส่บาตร
อาจจะรู้สึกว่ามีบางอย่างขาดหายไป คนที่ทำความดีประจำ จิต จะไม่หวาดหวั่นในการทำความดี
มีความพอใจในการทำความดี ไม่กระดากอาย คนที่ทำงานใหม่ๆย่อมตื่นเต้น ดีใจกับงาน
นั้น แต่พอ ทำไปนานๆเข้า ก็ ชินกับงานนั้นทำงานนั้นได้คล่อง มีประสิทธิภาพ
ก็เหมือนกับการทำความดี พอทำใหม่ๆจิต ย่อม ปลื้ม เป็นพิเศษแต่พอทำความดีจนชิน
จิตย่อมมีพลัง มีความเข้มแข็งเป็นพื้นฐานจิตที่ไม่หวั่นไหว แน่วแน่ต่อ กุศล
การทำความดีควรทำความดีให้ยิ่งๆขึ้น การทำความดียิ่งๆขึ้นนั้นจะทำให้เรา
มีความปราบปลื้ม ใจ มากขึ้นจิตก็พัฒนาสูงขึ้นไป
ช่างร้อยมาลัย ย่อมร้อยดอกไม้ทีละดอกๆจนเป็นพวงสวยงามน่าดูชม ฉันใด
บุคคลผู้มีปัญญาสั่งสมบุญกุศล ทีละน้อยๆย่อม งาม(ไพบูลย์)ไปด้วยบุญ ฉะนั้น |
|
_________________ ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน |
|
     |
 |
แม่น้องพิม
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
27 เม.ย.2006, 9:23 pm |
  |
ขอกราบขอบคุณทุกท่านนะคะ ในน้ำใจที่กรุณาเสียสละเวลามาตอบคำถามให้นะคะ
เริ่มหายกังวลและพอจะเข้าใจบ้างแล้ว แต่ก็คงจะเข้าใจเพียงบางส่วน เพราะแม่น้องพิม ไม่ค่อยเข้าใจภาษาหนังสือธรรมซะเท่าไหร่ค่ะ แต่ก็ขอบคุณทุกท่านมากค่า..... หากวันอื่นมีข้อสงสัยจะรบกวนมาถามอีกนะค้า... อย่าเพิ่งเบื่อคนความรู้ทางธรรมไม่ค่อยจะมีแบบแม่น้องพิมนะค้า....  |
|
|
|
|
 |
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
27 เม.ย.2006, 11:08 pm |
  |
ด้วยฟามยินดีค๊า จริงๆก็รู้น้อยเหมือนกันแหละ
แต่มิตรภาพทางธรรมทำให้มีความรู้สึกเหมือนพี่เหมือนน้อง
ก็เลยชอบเข้ามาแจมน่ะ แล้วแม่น้องพิมเข้ามาคุยด้วยกันอีกนะคะ |
|
|
|
|
 |
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
28 เม.ย.2006, 8:23 am |
  |
เกิดอาการชิน ๆ หรือเปล่าครับ
สิ่งใดที่เราทำครั้งแรกๆ จะรู้สึกตื่นเต้นประทับใจ
แต่ครั้นได้ทำหลายครั้งหลายหนเข้าจะรู้สึกธรรมดาๆ
พิจารณาสิ่งที่เห็นกันชัดๆสักเรื่องหนึ่งนะคับ
-วันแต่งงานวันแรก โหหรู้สึกตื่นเต้นระทึก ทำอะไรไม่ถูก น้ำหูน้ำตาไหล ฯลฯ
พออยู่ด้วยกันไปได้สักพักหนึ่ง เออๆ ก็งั้นๆแหละ ไม่เห็นมีอะไรเลยย
ประเด็นอื่นๆ ก็เทียบเคียงโดยนัยนี้ |
|
|
|
|
 |
แม่น้องพิม
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
28 เม.ย.2006, 10:44 pm |
  |
แหม... คำตอบข้างบน
ฮามากค่ะ ตอบซะชัดเจนเห็นภาพ... เออใช่มันก็จริงนะ คือ อธิบายสั้น ๆ ได้ว่า
"มันก็ไอ้แค่นั้นเอง" หึมมมมม.... (ยังเก็บไปคิดนะนิ่ ยังไม่เลิกปรุงแต่งเลยเรา ฮ่า ๆ )
 |
|
|
|
|
 |
๛ Nirvana ๛
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2006
ตอบ: 403
|
ตอบเมื่อ:
28 เม.ย.2006, 11:21 pm |
  |
อนุโมทนาด้วยครับ  |
|
_________________ ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน |
|
     |
 |
ขาแจมในตำนาน
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
14 พ.ค.2006, 3:16 pm |
  |
--------------------------------------------------------------------------------
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้ไปทำบุญบริจาคโลหิตที่วัดปากน้ำ ทั้ง ๆ ที่คิดว่าจะต้องรู้สึกดีใจแต่เมื่อบริจาคแล้วกลับรู้สึกเฉย ๆ ทั้ง ๆ ที่ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะต้องอิ่มอกอิ่มใจเดินกลับบ้านตัวฟูเลย ไม่เข้าใจค่ะ หมู่นี้ เมื่อทำอะไรที่เป็นความดีกลับรู้สึกเฉย ๆ จะมีก็แต่ความรู้สึกสบายใจคล้าย ๆ กับหายอึดอัดเมื่อได้ทำสิ่งนั้น ๆ แล้ว ต่างกับเมื่อเวลาดูทีวีหรือได้ยินข่าวดีของคนอื่น จะรู้สึกตื้นตันไปกับเขาอย่างโอเวอร์ บางครั้งน้ำตาคลอเลย ค่อนข้างสับสนในตัวเองมาก ๆ ว่าทำไมไม่ดีใจถ้าเป็นตัวเอง แต่กลับไปดีใจกับคนอื่น ค่อนข้างกลัวว่าตัวเองจะเพี้ยน ๆ หรือแปลกจากชาวบ้านเขานะค่ะ รบกวนท่านผู้เจริญธรรมทุกท่านช่วยตอบให้หายข้องใจด้วยค่ะ
สวัสดีครับคุณแม่ ^^ ผมก็เพิ่งไปวัดปากน้ำ มา ไปได้รู้จักคุณ อาสันติ ดูแล้ว ฟังคุณอา พูดแสดง แล้วก็น่าจะไปลองปฎิบัติดู ธรรมกาย คิดว่า คุณแม่น้องพิม น่าจะลองปฎิบัติ
1. ดีใจ เสียใจ เป็นของโลกๆ ทำบุญ ก็ดี แต่จะเอาให้ดี จะเอาทั้งที ก็ควรมีความสงบ
2. อ้าว บริจาคแล้ว เฉยๆ ก็ดี แล้ว จิต เกิด จิต ก็ถูกทำลาย จิตไม่เกิด ดีแล้ว เหมือนที่ ควรให้ 5 อย่างนี้ สงบ คิด1 ปรุงแต่ง1 แสวงหา1 ปรารถนา1 กำหนัด1 สงบไปชาร์ทๆ ธรรมกาย
3. ตอนที่ ไม่มี วุ่นนอก วุ่นใน ก็เหมือน มีการชาร์ทไฟ ชาร์ทให้เต็มแล้ว จิตก็ออกมา รู้สึกตื้นตันไปกับเขาอย่างโอเวอร์ บางครั้งน้ำตาคลอ ก็ไม่เป็นไร จิต ส่งออกนอกก็ไม่เป็นไร ซ่าจนหมดแรง
4. กลัวเกิดมาจากความไม่พอใจ มาจากจิตที่ส่งออก ให้มี ธรรมกาย ให้มี หยุด ใน หยุด
อย่างทิ้งกาย ให้มีสติ อยู่ที่กายนะ ให้กาย สงบจากเวทนา
ปล. ขอให้เจริญใน ธรรมนะ ธรรมกาย 7 ฐาน สถิตอยู่ พระ ธรรมกาย สถิตอยู่กับคุณแม่ _/\_ |
|
|
|
|
 |
แม่น้อง ซอย
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
18 พ.ค.2006, 12:36 pm |
  |
หวาดดีคะแม่น้องพิม
ทำดี ต้องได้ดี อย่าไปคิดมากนะ
เราบริจาคเลือด ทุก 3 เดือน 30/4/49 เพิ่งบริจาคมา ครั้งที่ 7 ครบรอบ 36 ปี พอดี
เราดีใจมาก แม่น้องพิม ลองบริจาค ตรงกับวันคล้ายวันเกิด ซิ อาจชื่นใจนะ
บริจาค ดวงตาหรือยังคะ แม่น้องซอย บริจาคแล้ว ชื่นใจมาก
ตับ ไต ม้าม ปอด หัวใจ ก็บริจาคแล้ว ลองไหมคะ
เป็นผู้ให้ ดีกว่าไหมคะ ขอบุญนี้ ถึงเทวดา ของแม่น้องพิม และชาวเวป ทุกท่านนะคะ
ทิพ ( แม่น้องซอย ม. 2)
 |
|
|
|
|
 |
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
18 พ.ค.2006, 1:02 pm |
  |
ขอบคุณค่ะ คุณแม่น้องซอย ที่จริงแม่พิมก็บริจาคมาหลายครั้งค่ะ แต่จำไม่ได้ คิดว่าน่าจะเกินเจ็ดครั้งเพราะได้รับเข็มที่สองแล้ว พอดีครั้งหลังทำบัตรผู้บริจาคหล่นหายค่ะ ที่ตอบไม่ได้จะคุยหรอกค่ะ ดีใจที่มีเพื่อนใหม่เป็นคุณแม่เหมือนกัน แม่พิมยังไม่เคยบริจาคร่างกายเลยค่ะ ได้แต่คิด ยังไม่ได้เขียนใบสมัครซักกะที เอาเป็นว่าครั้งต่อไปเดือนมิถุนายนจะสมัคร และจะชวนสามีด้วยค่ะ ครั้งที่ผ่านมาดีใจที่สามารถเป็นตัวอย่างให้ลูกสาวดูได้ แล้วลูกสาวก็เลยชวนคุณพ่อเค้าให้บริจาคโลหิตกับคุณแม่ซิ (คือสามีกลัวเข็มค่ะ) ปรากฏว่าสำเร็จ ที่ดีใจจะดีใจตรงนี้มากกว่าค่ะ
ที่ชักชวนคนใกล้ตัวให้ทำกุศลได้ เพราะจะได้กับผู้ที่ทำนั้นเอง
ขอธรรมรักษานะคะ สวัสดีค่ะ
(หมายเหตุ แม่น้องพิมไม่ได้ฝึกธรรมกายหรอกค่ะ พอดีวัดปากน้ำอยู่ใกล้บ้านเลยไปบริจาคที่นั้น แม่น้องพิมฝึกแนวสติปัฎฐานสี่ค่ะ โดยเริ่มต้นฝึกที่วัดอัมพวัน) |
|
|
|
|
 |
แวะมาแจม
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
21 พ.ค.2006, 7:47 am |
  |
ในปี 2493 หลวงพ่อได้เข้ามาฝึก ธรรมกายที่วัดปากน้ำ และได้ธรรมกายที่ บนรถเมล์ ระหว่าง พระบรมรูป ร.1 ที่สะพานพุทธ และนำมาใช้ในการแผ่ เมตตา และชาร์ทแบตเตอรี่
หลังจากนั้น ก็ เข้ามาที่วัดบวรนิเวศ มาเคารพพระสังฆราช ประจำในวัดครบรอบ และแวะมาหาหลวงเตี่ยที่วัดโพธิ์ซึ่งหลัง จาก สิ้นหลวงเตี่ย ก็ไม่สู้แข็งแรง ก็ อยู่ที่สิงห์บุรี อยู่ที่วัด
ปล. หลวงพ่อ นอกจาก ศึกษา กับ หลวงพ่อเดิม ก็ มีเจ้าคุณโชดก (ที่ นำการปฏิบัติสายหนอ มาเผยแพร่ที่วัดมหาธาตุ) |
|
|
|
|
 |
|