Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ทำอย่างไรชีวิตจะห่างไกลความเครียด อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
พิชิต
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 22 ก.พ.2006, 10:13 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ปกติผมเป็นไม่เครียดแต่แล้วก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้เครียดจนได้ ทำอย่างไรก็ไม่หายตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว อยากถามเพื่อนในเวบบอร์ดว่ามีวิธีรับมือกับความเครียดอย่างไรบ้าง เอาแบบที่ท่านทำแล้วได้ผลชงัด เพื่อจจะได้เป็นประโยชน์ต่อคนที่ได้อ่านต่อไป ขอบคุณ
 
.
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 22 ก.พ.2006, 10:54 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

โบราณท่านว่าไว้ ปวดหัวกินยาทัมใจ ปวดใจศึกษาธรรมะ
พระธรรมจำเป็นต้องศึกษาและค่อย ๆ ทำความเข้าใจช่วยได้ครับ
 
เจ้ากรรม
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 22 ก.พ.2006, 11:43 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ความเครียดเกิดได้กับทุกคนค่ะ
วิธีคลายเครียดแล้วแต่ว่าใครจะใช้วิธีไหน
ประมาณว่าเลือกใช้เอาที่เหมาะกับเราดีสุดค่ะ
ไม่ว่าคุณพิชิตเครียดจากอะไร ลองเลือกนำไปใช้ดูนะคะ

1. ฝึกการหายใจแบบฉาย X-Ray คือพยายามจับลมหายใจ
กำหนดจิตใจรู้สึกถึงอากาศที่ผ่านเข้าสู่ร่างกาย
ด้วยการหายใจลึก กลั้นใจนิ่ง แล้วค่อยๆ ผ่อนคลาย หายใจ ออกช้าๆ
(ประมาณ 5 ครั้ง/นาที คือ 12 วินาที/ครั้ง - ทั้งหายใจเข้า-ออก)

2. ทำจิตจดจ่อกับสิ่ง /ของ/คนที่เรารักและหวง-ห่วง ที่สุด
จะกำหนดเป็นสมมุติฐานก็ได้-หรือจิตนาการก็ได้
จะย้อนอดีต-ที่เราพอใจ-สุขใจก้แล้วแต่

3. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องด้วยตนเอง กล้ามเนื้อที่กาย ก้อนไหนเครียด
คลายก้อนนั้น

4. ออกกำลัง เดิน ทำกายบริหาร หรือดูกีฬาที่ชอบ

5. การนวด นวดทั้งตัว(ยังไม่เคย) คงได้ผลถ้านวดถูกหลักวิชาที่ผมประสบเอง
คือการนวดฝ่าเท้า
กระตุ้นการไหลเวียน ของโลหิตในร่างกาย

6. ตั้งสติ คือ ความระลึกรู้
กำหนดจิต-ตั้งจิตใจกับสิ่งนั้น-เรียกว่ากำหนดความรู้สึก-อารมณ์
ให้จิตใจมุ่งอยู่กับสิ่งหนึ่งสิ่งใด ไม่ให้คลาดไม่ให้หลุด
ไม่ให้จิตฟุ้งซ่านล่องลอยไป เหมือนเอาเชือกผูกลิง
ไว้กับหลัก เชือก คือ สติ/ลิง คือ จิต /หลัก คือ สิ่งที่ต้องทำในขณะนั้น

7. ใช้ปัญญา ความรู้ ความฉลาด ความเข้าใจ และการพิจารณา วิเคราะห์ วิจัยวิจารณ์
แต่เรื่องดีๆ
และถูกต้องเพื่อประโยชน์ ส่วนรวม-อย่าเสียสละ เกื้อกูล-เป็นกุศล

8. สร้างอารมณ์ ความคิด จิตใจ วิญญาณ จิตให้เข้มเข็ง กล้าหาญ “ไม่กลัว” ไม่ท้อ
ไม่หนี ทำดี-ต่อไป

9. ตั้งจิตมั่น หรือ จิตตั้งมั่น ให้จิตใจแน่วแน่กับสิ่งนั้นตลอดเวลา
ต้องมีการกำกับ จับตรึงไว้ ทุกขณะจิต

10. ทำจิต อิ่มใจ ไม่วิกตกกังวล ต่อกับความเครียดทั้งปวง คือ
ถือว่าทุกอย่างนั้นเป็น Dynanic
(เปลี่ยนทุกขณะ) ไม่เที่ยง ไม่แท้ แม้แต่ก็ไม่มี และทำจิตให้นิ่ง
ไม่กระสับกระส่าย สงบเย็น ไม่เครียด
เย็นกาย-เย็นใจ ผ่อนคลายทั้งใจและกาย

11. ปล่อยว่าง วางเฉย แต่เฉยแบบรู้ คือรู้ทันจึงเฉย เฉยดูอย่างรู้ทัน
“พร้อมที่จะทำการเมื่อถึงจังหวะเวลา
หรือ โอกาสที่เปิดและอำนวย” ไม่ใช่เฉยเพราะไม่รู้ ไม่วุ่นวาย ไม่ก้าวก่าย
ไม่แทรกแซง

12. ยิ้มทุกขณะ - ยิ้ม - ทั้งที่ฝืน ฝึกให้เป็นธรรมชาติ

ขอบคุณข้อมูลจาก saranair.com ค่ะ
 
บางใบ
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 22 ก.พ. 2006
ตอบ: 1
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม

ตอบตอบเมื่อ: 22 ก.พ.2006, 12:26 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เราเครียดเพราะเรายังยึดมั่นถือมั่น ว่า ตัวเรา ของเรา ตัวเขา ของเขา ลองวาง สักนิดวาง ทั้งเรา และ เขา เมื่อเรา ไม่ "เขลา" เรา จะวาง ความเครียด ได้ เองคะ ยิ้มเห็นฟัน
 

_________________
ตนเตือนตนไม่ได้ ใครจะเตือน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
เขม
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 22 ก.พ.2006, 5:29 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

หาสาเหตุก่อนครับว่าเครียดเพราะอะไร
สาวไปหาลงไปลึกๆครับ
เจอแล้วดับที่เหตุนั้น
 
neoman
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 26 ก.พ. 2006
ตอบ: 64

ตอบตอบเมื่อ: 26 ก.พ.2006, 11:52 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมใช้วิธี ... ช่างหัวมัน น่ะครับ

ได้ผลดีจริงๆ ยิ้มเห็นฟัน
 

_________________
ความสุขหรือความทุกข์ อยู่ใจเราจะคิดเอา ถ้าคิดว่าสุขก็สุข ถ้าคิดว่าทุกข์ก็ทุกข์.
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
เจตสิก
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 30 มี.ค.2006, 6:04 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ปกติผมเป็นไม่เครียดแต่แล้วก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้เครียดจนได้ ทำอย่างไรก็ไม่หายตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว อยากถามเพื่อนในเวบบอร์ดว่ามีวิธีรับมือกับความเครียดอย่างไรบ้าง เอาแบบที่ท่านทำแล้วได้ผลชงัด เพื่อจจะได้เป็นประโยชน์ต่อคนที่ได้อ่านต่อไป



ความเครียดเกิดจากเราไปรับเอาอารมย์ภายนอกมาคิดและไหลไปกับอารมย์นั้นไม่จางหาย คือเราเองนั่นล่ะที่เข้าไปคลุกคลีกับอารมย์ที่เกิดไม่ยอมปล่อยมันลงได้ เราเข้าไปหลงอารมย์เหล่านั้น แล้วเราควรจะทำอย่างไรเมื่อพบเจอกับอารมย์ที่เราไม่พึงพอใจ พอพอใจใจก็ฟู ไม่พอใจ ใจก็แฟ้บและเครียดไปในที่สุด คนทั่วไปเป็นอย่างนี้ ชอบแต่อารมย์ที่ดี แต่ไม่เคยคิดกลับกันเลยว่า อารมย์ทั้ง 2 นั้น มันก็คือตัวเดียวกันคือ ผัสสะที่วิ่งเข้ามากระทบลงที่ใจ เมื่อเรารู้อย่างนี้แล้วเราก็ควรเข้ามาหาใจเราดูว่า เมื่อเรากระทบอารมย์แล้วเราพอใจหรือไม่พอใจ สิ่งเหล่านี้มันไม่ยั่งยืน มันมีเกิดขึ้นแล้วดับไป เดี๋ยว ชอบใจ เดี๋ยวไม่ชอบใจ ไม่มีอารมย์ไหนมันตั้งอยู่ได้นานเลยสักอย่าง ไห้เราคิดเสียว่า มันไม่แน่นอนหรอก เครียดไม่นาน เดี๋ยวมันก็ไม่เครียด มันสลับกันไปแบบนี้ตลอดเวลา ขอแค่ไห้เรารู้เท่าทันกับอารมย์ที่มันจะเกิดขึ้นที่ใจเรา สรุปแล้วคือ...........ไห้เราตามรู้ใจตัวเองก็พอครับ พอใจก็รู้มันเป็นเช่นนั้นเอง ไม่พอใจก็รู้ มันเป็นเช่นนั้นเอง มันไม่แน่นอนหรอก เกิดขึ้นแล้วดับไปๆๆๆๆๆหมุนเวียนสับเปลี่ยนไปอย่างนี้ มันก็แค่ผ่านมาแล้วผ่านไปครับ อย่าหลงอารมย์อีกนะครับ ฝึกเข้ามารู้ตัว รู้ความคิด และรู้อารมย์ได้บ่อยๆนั่นล่ะหนทางดับความเครียด
 
ภูเขาไฟ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 30 มี.ค.2006, 10:35 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เอาแบบที่ท่านทำแล้วได้ผลชงัด
เรายังทำไม่ได้ถึงขนาดนี้อ่านะ เราได้แต่ตามรู้ เฉยๆ มันเกิด กะ กำหนดแร้วก็ไม่ไปใส่ใจ แต่กะยัง ค่อยดูอยู่ห่างๆ แต่ไม่ไปบังคับให้มันหาย เพราะเรากำหนดให้หาย ไม่เคยหายสักที เลยปล่อยมันไปตามธรรมชาติ แล้วมันจะดับไปเอง ในปัจจุบัน กะ ดีขึ้นกว่าม่ะก่อนอ่านะ เพราะเวลา เครียดจะปวดหัวมาก แต่ปัจจุบัน ปวดน้อยลง บางที่กะไม่มีอาการปวดหัวเลย อายหน้าแดง

สาธุ เป้นวิธีที่เราใช้อ่านะ
 
อิคิว
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 30 มี.ค.2006, 4:18 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ทุกข์เกิดเพราะมีตัณหา
ตัณหาเกิดที่ใดก็ดับหรือละเสียที่นั่น
หนทางดับทุกข์ได้ก็คือมรรค8
มีความเห็นชอบว่าทุกข์นั้นเป็นเพียงสภาพธรรม เป็นสัมมาทิฏฐิ
มีความเพียร มีสติ ก็เห็นลักษณะของทุกข์ เห็นตัณหาที่เกิด
รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ตา หู จมูก ลิ้น กาย ธรรมารมณ์ ใจ เป็นที่เกิดตัณหา
เมื่อจะดับก็ดับเสียที่นั่น เป็นสัมมาสมาธิ
กาย วาจา ใจ อาชีพชอบ คือการทำตนให้ห่างไกลจากความทุกข์
 
จันทร์งาม
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 03 เม.ย.2006, 2:40 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

... วิธีที่แต่ละท่านเสนอมาข้างต้น เป็นวิธีที่ดีเยี่ยมค่ะ เมื่อไหร่ที่เครียดก็จะหาวิธีที่ทำให้หายเครียด เช่น หยิบหนังสือธรรมะขึ้นมาอ่าน หนังสือที่ให้คติ แนวคิด หลักปฏิบัติที่นำไปสู่การดำรงชีวิตที่สงบสุข ฟังเพลงที่ชอบบ้าง ทุกสิ่งเกิด แล้วก็ดับไป ปลอบใจตัวเองค่ะ เวลาผ่านไปความเครียดก็จะหายไป....
 
๛ Nirvana ๛
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2006
ตอบ: 403

ตอบตอบเมื่อ: 10 เม.ย.2006, 12:09 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

วิธีที่จะระงับความเครียดที่ ได้ ผลดี อีกวิธี คือการ เจริญพรหมวิหาร มีการแผ่เมตตาเป็นต้น
การ ระลึก ว่า มีคนที่มีความทุกข์กว่าเรา มีเยอะ ความทุกข์ ของเราเมื่อ เทียบกับความทุกข์ ของคนบางคนในโลกนี้นั้นน้อย ยิ่งนัก แล้ว แผ่ เมตตา ไปยัง คนที่ มีความ ทุกข์ ต่างๆ คิดว่า เรามีความทุกข์อยู่ สัตว์ อื่นอย่ามีความทุกข์เลย ขอให้สัตว์ ทั้งหลายมีสุข การแผ่เมตตา นั้น ทำให้ใจ เย็น ลดความ เครียดและทุกข์ ได้มากครับ
ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวตำแหน่ง AIMMSN Messenger
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง