Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 วันมาฆบูชาเป็นวันแห่งความรักที่สูงส่งบริสุทธิ์ในพระพุทธศาสนา อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
Iam
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 10 ก.พ.2006, 8:32 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

วันมาฆบูชา เป็นวันแห่งความรักที่สูงส่งบริสุทธิ์ในพระพุทธศาสนา

ได้กล่าวไว้นานปีมาแล้ว เมื่อคนไทยจำนวนไม่น้อยเริ่มสนใจวันวาเลนไทน์กันอย่างท่วมท้นเปิดเผย ว่าเป็นวันแห่งความรัก และคำวาเลนไทน์ก็เป็นชื่อนักบุญต่างศาสนา

ถ้าคนไทยผู้มีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ จะสนใจวันแห่งความรักมากมายเพียงใด ก็จะไม่กังวลห่วงใย ถ้าจะเป็นวันท่านผู้ปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนาที่ท่านบรรลุธรรมสำคัญทั้งหลายองค์ใดองค์หนึ่งก็ตาม

นานปีมาแล้วได้พยายามจะช่วยคนไทยจำนวนไม่น้อยนั้นพ้นจากความคิดผิด หันมาคิดให้เกิดสิริมงคลแก่ชีวิตจิตใจ จึงได้ยกวันมาฆบูชาขึ้นให้ปรากฏประจักษ์อย่างชัดเจน

ทั้งที่วันมาฆบูชามีมานานเป็นพันๆ ปี แล้ว เป็นวันแห่งความรักสูงส่งบริสุทธิ์ในพระพุทธศาสนา ที่ควรได้รับการเทิดทูนบูชาเหนือวันแห่งความรักอื่นใด แต่ก็หาได้รับความสนใจเท่าที่ควรไม่ น่าเสียใจเป็นที่สุด

น่าเสียใจเป็นที่สุด ที่พากันไม่แยแสที่จะอัญเชิญสิริมงคลยิ่งใหญ่เข้าสู่ชีวิต ให้เป็นเครื่องยังความร่มเย็นเป็นสุขสวัสดีเกิดมีแก่ชีวิต แก่ประเทศชาติบ้านเมืองที่รักของเรา โดยเฉพาะในยามนี้ที่โลกเดือดร้อนวุ่นวายนัก

ได้กล่าวตลอดมานับครั้งไม่ถ้วนว่า “วันมาฆบูชาเป็นวันแห่งความรักที่สูงส่งบริสุทธิ์ในพระพุทธศาสนา”

สมเด็จพระบรมศาสดาโปรดประทานความรักนั้นแก่สัตว์โลกทั้งปวงในวันมาฆบูชา จึงกล่าวว่าวันมาฆบูชาเป็นวันแห่งความรัก ที่ไม่ใช่ธรรมดา ไม่ใช่ความรักแบบของมารดาบิดาบุตรธิดาที่มีต่อกัน ไม่ใช่ความรักแบบของสามีภริยาที่มีต่อกัน ไม่ใช่ความรักของหญิงชายที่มีต่อกัน

ความรักของสมเด็จพระบรมศาสดาทรงมีท่วมท้นพระพุทธหฤทัยแตกต่างกับความรักที่นำมากล่าวแล้วทั้งหมด สูงเหนือความรักทั้งหลายทั้งปวงในโลก

พระพุทธหฤทัย หรือพระหฤทัยในสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น มีความบริสุทธิ์ครบถ้วนทุกประการ คือปราศจากกิเลสสิ้นเชิง ความโลภ ความโกรธ ความหลง ไม่แตะต้องพระพุทธหฤทัยได้เลยแม้แต่น้อย

ทรงเป็นเช่นที่กล่าวว่าทรงไกลกิเลสแล้ว สมเด็จพระบรมศาสดาทรงไกลกิเลสแล้วสิ้นเชิง ความรักในพระพุทธหฤทัยจึงเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งแตกต่างห่างไกลกันที่สุดกับความรักในใจเราทั้งหลายคน

สมเด็จพระบรมศาสดาทรงรักสัตว์โลกทั้งปวงเสมอกัน ความรักของพระองค์ท่านเป็นแบบที่ปุถุชนคนมีกิเลสทั้งหลายมีไม่เหมือนแน่นอน เพียงใกล้เคียงก็แสนห่าง ถ้าจะพูดให้ตรงอย่างไม่เกรงใจก็พูดได้ว่า ความรักของเราผู้เป็นปุถุชนนั้นสกปรกด้วยแรงของกิเลส ครบถ้วนทั้ง โลภะ โมหะ โทสะ

ความโลภ ความโกรธ ความหลง ยังมีอยู่ในเราผู้เป็นปุถุชนครบถ้วน จึงย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะให้ความรักของเราบริสุทธิ์สะอาดปราศจากความสกปรกของกิเลสเครื่องเศร้าหมอง ซึ่งแตกต่างห่างไกลนักกับที่เรียกว่าความรักของสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า

ที่จริงที่นำมาเรียกว่าความรักในสมเด็จพระบรมศาสดาก็ไม่ถูกต้องนัก เพราะย่อมจักนำให้ผู้รู้เท่าไม่ถึงความหมายของคำว่าความรักในที่นี้เข้าใจไปในทางไม่ดีไม่ถูกต้อง ว่าเป็นการแสดงความไม่รู้ของผู้ใช้คำความรักกับสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า

แต่ขอยืนยันความแน่ใจ ว่าใช้คำอื่นจะให้ความลึกซึ่งแก่จิตใจคนทั่วไปไม่เสมอคำว่ารัก คำว่าเมตตานั้นพูดจริงๆ อย่างจริงใจ ผู้ฟังไม่ค่อยรู้สึกลึกซึ่งในความหมายเท่าคำว่ารัก จึงเลือกใช้คำว่ารักแม้เมื่อใช้เกี่ยวกับพระผู้ทรงไกลพ้นแล้วจากความรักอย่างสิ้นเชิง

ขอให้ท่านผู้อ่านหรือผู้ได้ยินได้ฟังเกี่ยวกับที่กล่าวว่าสมเด็จพระบรมศาสดาทรงมีความรักสัตว์โลกทั้งปวง โปรดเข้าใจเครื่องหมายที่ลึกซึ่งบริสุทธิ์สูงส่งของคำว่ารักในที่นี้ โปรดอย่าคิดให้เป็นบาปเป็นกรรมหนักหนาแก่จิตใจเลย

กล่าวได้ว่าวันมาฆบูชาเป็นวันที่สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประกาศความรักอันบริสุทธิ์ต่อสัตว์โลกทั้งปวง ในโอวาทปาติโมกข์ที่ทรงแสดง ที่เป็นธรรมเครื่องนำชีวิตสัตว์โลกให้สวัสดีมีสุข ตั้งแต่สุขเล็กสุขน้อยจนถึงสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

คือสุขที่ปราศจากทุกข์สิ้นเชิงไม่พบความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตายอีกต่อไป ทรงแสดงไว้ในพระโอวาทปาติโมกข์ เมื่อวันมาฆะพระจันทร์เต็มดวงเสวยมาฆฤกษ์ ในท่ามกลางบริสุทธิ์สงฆ์ ผู้ล้วนเป็นพระอรหันตขีณาสพพุทธสาวกที่ยิ่งแล้วด้วยปัญญา สามารถน้อมรับพระธรรมที่ทรงแสดงไปประกาศได้อย่างถูกต้องแนนอน

ความรักที่บริสุทธิ์สูงส่งที่พระพุทธองค์โปรดประทานเพื่อประคับประคองรักษาชีวิตสัตว์โลกทั้งหลาย จึงมีพระอรหันตขีณาสพพุทธสาวกอัญเชิญไปประกาศอย่างถูกแท้ และความรักของพระพุทธองค์ ก็ได้มาประดิษฐานอยู่ในบ้านเมืองไทยของเราด้วยแล้วเป็นพันๆ ปี ควรจะภาคภูมิใจ ควรจะนอบน้อมรับสิริมงคลที่ยิ่งใหญ่ของชีวิต

ไม่ควรปล่อยปะละเลยถือเป็นเรื่องธรรมดา จนอัปมงคลต่างๆ นาๆ เข้าถึงได้ให้เกิดความทุกข์ความเดือดร้อนวุ่นวายได้อย่างไม่ควรเกิด และจะเกิดไม่ได้แม้อัญเชิญพระพุทธบารมีไว้เหนือเศียรเกล้าชีวิตจิตใจ ให้ทุกถ้วนหน้า นี้เป็นความจริง

วันเริ่มแรกมาฆบูชา วันแห่งความรักที่สูงส่งบริสุทธิ์ในพระพุทธศาสนานั้น ด้วยอำนาจพระพุทธจิตจึงมีจาตุรงคสันนิบาติเกิดขึ้นในวันนั้น ยังให้เกิดความยิ่งใหญ่พรั้งพร้อม คือ

๑. พระภิษุสงฆ์จำนวน ๑,๒๕๐ องค์ไปประชุมพร้อมกันในวันจันทร์เต็มดวงเสวยมาฆฤกษ์
๒. พระภิกษุทั้ง ๑,๒๕๐ องค์นั้นล้วนเป็นพระอรหันตขีณาสพ ไกลกิเลสแล้วสิ้นเชิง
๓. พระอรหันตขีณาสพทั้ง ๑,๒๕๐ องค์นั้นมิได้นัดหมายกัน
๔. พระอรหันตขีณาสพทั้ง ๑,๒๕๐ องค์นั้นล้วนพระพุทธองค์ท่านโปรดประทานการบวชให้ โดยเปล่งพระพุทธวาจาว่า เอหิ ภิกขุ จงเป็นภิษุมาเถิด

ความพร้อมทั้ง ๔ ประการนี้ที่เรียกว่า จาตุรงคสันนิบาต เกิดขึ้นเพื่อให้การทรงแสดงพระโอวาทปาติโมกข์ ทรงประกาศหัวใจพระพุทธศาสนาได้เป็นไปสมบูรณ์พร้อม ยิ่งใหญ่จริง อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน

หลักพระพุทธศาสนา หรือหัวใจพระพุทธศาสนา ๓ ประการ ที่เป็นเครื่องแสดงพระพุทธหฤทัยที่มีความรักสูงส่งบริสุทธิ์ต่อสัตว์โลกทั้งปวง ที่ทรงแสดงไว้ในวันพระจันทร์เต็มดวง เสวยมาฆฤกษ์ ณ พระวิหารเวฬุวัน และพระอรหันต์ขีณาสพพุทธสาวก ๑,๒๕๐ องค์ ที่ได้รับพุทธจิตสั่งให้ไปประชุมพร้อมกันในกาลครั้งนั้น

ได้อัญเชิญหัวใจพระพุทธศาสนาทั้ง ๓ ประการ เผยแผ่แก่โลก ให้เป็นเครื่องประคับประคอง ชีวิตจิตใจให้ร่มเย็นเป็นสุข

จนปัจจุบันสมเด็จพระบรมศาสดาเสด็จดับขันธ์ปรินิพานไป ๒๕๔๘ ปีแล้ว หัวใจพระพุทธศาสนายังดำรงอยู่อย่างมั่นคง แม้จะไม่ในทุกจิตใจผู้ได้รับรู้รับฟัง ที่ควรถือว่าบุญน้อย จึงไม่เห็นคุณค่าสูงส่งของสิริมงคล จากหัวใจพระพุทธศาสนา

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก รับสั่งว่า

ถ้าจะถือว่ามีวันแห่งความรัก ก็ต้องถือวันมาฆบูชา
วันที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศความรักอันบริสุทธิ์สูงส่ง


วันมาฆบูชา–วันแห่งความรัก
วันที่พระจันทร์เต็มดวง เสวยมาฆฤกษ์ ในเดือนสาม

ด้วยทรงมีความรักบริสุทธิ์สูงส่ง ไม่มีเสมอเหมือนพระพุทธองค์จึงทรงเผยแผ่พระมหากรุณาได้กว้างใหญ่ไพศาลไม่มีขอบเขต ทั้งแก่พรหมเทพ มนุษย์สัตว์ ปรากฏแจ้งชัดในพระโอวาทปาติโมกข์ ที่ทรงแสดงในวัน มาฆบูชา

พึงไม่ทำบาปทั้งปวง
พึงทำกุศลให้ถึงพร้อม
พึงรักษาจิตของตนให้ผ่องใส


บาปย่อมก่อให้เกิดโทษภัยแก่ผู้ทำและผู้อื่น
พระพุทธองค์จึงทรงเตือนไม่ให้ทำ

กุศลย่อมเป็นคุณแก่ผู้ทำและผู้อื่น
พระพุทธองค์จึงทรงเตือนให้ทำ

จิตผ่องใสคือจิตที่ไกลได้จากกิเลสโกรธหลง ที่มีอยู่เต็มโลก ย่อมให้ความสุขสงบอย่างยิ่งจนถึงเป็นบรมสุข
พระพุทธองค์จึงทรงเตือนให้รักษาจิตของตน

เป็นชาวพุทธพึงซาบซึ่งพึงมั่นใจ
ในพระคุณยิ่งใหญ่แห่งความรัก
ที่บริสุทธิ์ผ่องใสไพจิตรนัก
โลกประจักษ์วันรักนั้นวันมาฆะ

: มาฆบูชา ๒๕๔๗
: สมด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
 
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 10 ก.พ.2006, 9:42 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ...คุณ I am
...รัก ปรารถนาดี มีเมตตาต่อกัน ให้อภัยกัน ทุกๆท่านนะคะ...

ธรระสวัสดีค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
admin
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 15 ธ.ค. 2004
ตอบ: 1886

ตอบตอบเมื่อ: 10 ก.พ.2006, 10:16 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

วันมาฆบูชา-วันแห่งความรัก
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=4472
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง