Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
ชวนผู้เห็นคำถามช่วยกันพยากรณ์ทำนายว่า อนาคตของพระพุทธศาสนาจะ
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
เบ๊ท่านพุทธทาส
บัวพ้นดิน
เข้าร่วม: 02 ธ.ค. 2005
ตอบ: 65
ตอบเมื่อ: 30 ธ.ค.2005, 2:02 pm
อีก 100 ปีข้างหน้าที่สังคมรุ่งเรืองด้วยวิทยาศาสตร์นั้น พระจะเป็นอยู่เช่นไร
ช่วยกันออกความคิดเห็นเล่นๆสนุกสนานเท่านั้นครับ ไม่ได้มีเจตนาลบหลู่อันใด ทุกวันนี้วิทยาศาสตร์พัฒนารุดหน้าอย่างรวดเร็วมาก คนรุ่นเก่าล้มหายตายจากไปพร้อมกับความเชื่อที่ปู่ย่าตายายยึดถือ คนรุ่นใหม่เกิดขึ้นมาสัมผัสกับค่านิยมความเชื่อเทคโนโลยีสิ่งแปลกใหม่ สิ่งเก่าถูกแทนที่ด้วยสิ่งใหม่เรื่อยไป ความลี้ลับที่มีอยู่บนพื้นโลกและในอวกาศอันกว้างใหญ่ไพศาลนั้น ค่อยๆถูกคลี่คลายโดยนักวิทยาศาสตร์ผู้มีความสามารถทั้งหลาย
ศาสนาพุทธในอนาคตจะเป็นเช่นไร พระจะมีวิถีชีวิตความเป็นอยู่เปลี่ยนไปไหม คนชาวพุทธในอีก 100 ปีข้างหน้านั้นจะยกมือไหว้พระด้วยความรู้สึกอย่างไร ยกมือไหว้พระเพราะใจรักศรัทธาศาสนา ยกมือไหว้พระเพราะท่านผู้นั้นเป็นคนดีประพฤติดี หรือยกมือไหว้พระเพราะท่านผู้นั้นมีมนตร์ของขลังวิเศษ ในมุมมองของผมแล้วถ้าวิทยาศาสตร์ก้าวไกล วัดคงเป็นแต่เพียงสถานที่ไว้ใช้เผาศพ มีไว้ใช้เกี่ยวกับงานศพ พระที่บวชอยู่ก็คงสวดมนตร์สวดศพไปตามธรรมเนียมประเพณีที่เคยปฏิบัติมา แล้วธรรมล่ะ ธรรมของพระพุทธเจ้าจะเป็นเช่นไร ธรรมที่ค้นหามาด้วยความยากลำบาก ธรรมอันประเสริฐนี้ใครเขาอีก 100 ปีจะอยากรู้ เพราะมันล้วนแลดูเก่าคร่ำเคร่งน่าเบื่อโบราณเหมือนเวลาคนพร่ำบ่นหาวนอนเมื่อได้ทราบว่าพระจะขึ้นเทศนา คุณผู้อ่านมีความเห็นอย่างไรที่จะทำให้หนังสือธรรมยังให้เกิดความสนใจศึกษาแก่ผู้พบเห็น ทั้งในกาลปัจจุบันและอนาคต 100 ปี
ธรรมเป็นของฟรี ให้ได้ แนะชี้แจงให้รู้ได้ก็กระทำเถิด ก่อนที่ว่าแม้จะพิมพ์รวมเล่มแจกฟรีให้ เขาก็ไม่เอา หรือรับไปแล้วก็ไม่ได้นำไปศึกษาตามประสงค์ เพียงเอาไปทำเป็นหมอนหนุนนอนดูไร้ค่าของสูงไป
ใครมีหนังสือธรรมน่าสนใจศึกษาช่วยแนะนำบ้างนะครับ ขอบพระคุณ
ไวษรี
บัวผลิหน่อ
เข้าร่วม: 02 ม.ค. 2006
ตอบ: 8
ตอบเมื่อ: 02 ม.ค. 2006, 4:33 pm
ความคิดเห็นเหมือนกันเลยค่า น่าสงสารมนุษย์สมัยนั้นะคะ ต่อไปธรรมะ เรื่องของพระสงฆ์เเละ ศาสนาพุทธก็จะกลายเป็นตำนาน เป็นเพียงประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังเรียนกันว่าเดิมมีศาสนานี้นะ ไม่เเน่ สมัยนั้น ทุกคนบนโลกนี้อาจจะไม่มีศาสนาใดให้นับถือเลยก็ได้
แสดงความเห็น
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 02 ม.ค. 2006, 5:51 pm
จริงอยู่ว่า....พระศาสนาในอนาคต...คงไกลเอาจากวิถีชีวิตมากขึ้น แต่สำหรับบัณฑิตแล้ว...ท่านยังให้ความสำคัญอยู่เสมอ...ไม่เสื่อมคลาย แต่อาจมีจำนวนน้อยลง...ไช่เพราะศาสนาเสื่อมลงแต่อย่างใด....เราทั้งหลายต่างหากที่เสื่อมลงๆๆๆ
สงสาร...ทุกคน...รวมทั้งเราเองด้วย
Pat
บัวผลิหน่อ
เข้าร่วม: 29 ธ.ค. 2005
ตอบ: 9
ตอบเมื่อ: 02 ม.ค. 2006, 9:22 pm
โมทนาสาธุในความดีของท่านทั้งหลาย
ผมคิดว่าข้างหน้าจะเป้นอย่างไรนั้นไม่สำคัญมากนัก สำคัญที่ว่าวันนี้ ทุกวินาทีนี้ ทุกลมหายใจนี้
จิตใจของเราเป้นอย่างไร ถ้าสมมติว่าตายตอนนี้แล้วท่านจะไปไหน 31 ภพภูมิ หรือไม่ใช่ 31 ภพภูมิ
ยังมั่นคงในพระรัตนตรัยหรือไม่ ยังปฏิบัติธรรมในแนวของพระศาสดาหรือไม่ ยังอยู่ในทาน ศีล ภาวนาหรือเปล่า
โมทนาสาธุ
อจินไตย
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 02 ม.ค. 2006, 10:43 pm
เราอยู่ช่วงระหวางกึ่งพุทธกาล ยังไม่ใกล้5000ปี ท่านผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบพระอริยะเจ้ายังมีอยู่ ฉนั้นไม่ต้องห่วงว่าอีก100ปีข้างหน้า ผู้คนจะไม่สนใจพระพุทธศาสนา เพราะธรรมชาติฯลฯจะทำให้มนุยษ์เห็นทุกข์แล้วจึงหันเข้าหาธรรมมะ จากผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ศึกษาธรรมมะสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป ตราบใดที่ยังมีผู้ปฏิบัติธรรมโลกย่อมไม่ว่างเว้นจากพระอริยะเจ้า นี้คือความคิดของผมผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ
เกียรติ
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 04 ม.ค. 2006, 4:11 pm
ผมว่า คนจะยิ่งไหว้พระที่ดียิ่งกว่าเดิมครับ เพราะวิทยาศาสตร์นั้น ได้ค้นคว้าหาคำตอบเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ รอบตัวเรามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบนดิน ใต้ดิน ใต้น้ำ บนฟ้า วิทยาศาสตร์ค้นพบความลับต่างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ แม้ในอวกาศ วิทยาศาสตร์ก็เริ่มก้าวออกไปค้นพบความลับนั้น ดังที่เจ้าของกระทู้ Post มา
ในด้านร่างกายวิทยาศาสตร์ ก็ไม่น้อยหน้า ค้นพบกลไกการทำงานต่างๆ ของร่างกายอย่างมากมาย แต่มีสิ่งหนึ่งที่วิทยาศาสตร์มีความรู้น้อยมาก วิทยาศาสตร์แทบไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย นั่นคือ เรื่องของใจ
วิทยาศาสตร์ใช้เวลาเป็นพันปีศึกษาความลับต่างๆ ของใจ แต่ได้ผลออกมาน้อยมาก แค่เรื่องง่ายๆ ว่า ความสุขคือ อะไร วิทยาศาสตร์ยังใช้วิจัยอยู่ตั้งนาน สุดท้ายสรุปไม่ได้ว่า ความสุขคือ อะไร
แต่ตอนนี้วิทยาศาสตร์ กำลังเริ่มมาสนใจพุทธศาสตร์ (อเมริกันกว่า 10 ล้านคนสนใจฝึกสมาธิจริงจัง ข้อมูลจากนิตยสาร Time) ถึงขนาดมาค้นคว้าวิจัยกันอย่างจริงจัง ด้วยเครื่องมือสำคัญของพระพุทธศาสนา ที่จะช่วยทำให้ไปรู้ความลับของใจ เครื่องมือนั้นคือ สมาธิ
และเมื่อใดก็ตามที่วิทยาศาสตร์ได้รู้ความลับสำคัญนี้ด้วยสมาธิ เมื่อนั้น เขาจะหันกลับมาเคารพพระ(ที่มีจิตดี) อย่างจริงจังแน่นอน
สุรพงษ์
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 07 ม.ค. 2006, 11:30 am
ในสังคมที่รุ่งเรืองด้วยวิทยาศาสตร์ พุทธศาสนาจะยิ่งใหญ่ ธรรมแท้เป็นสิ่งที่ไม่ขึ้นอยู่กับกาล เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง ขอให้เป็นวิทยาศาสตร์จริง ๆ ศาสนาพุทธจะรุ่งเรืองแน่นอน แต่ถ้าเป็นสังคมที่ลุ่มหลงวิทยาศาสตร์ อันนี้ก็น่าห่วงครับ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างแม้แต่ศาสนาพุทธก็คงหลีกเลี่ยงกฎไตรลักษณ์ไม่ได้
การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป เป็นสิ่งที่แน่นอนเสมอ
เบ๊ท่าน ฯ
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 07 ม.ค. 2006, 1:34 pm
น่าเสียดายครับที่ฝรั่งแดนไกลเขาเอาสมาธิไปปฏิบัติกัน เรามีวัดอยู่ใกล้บ้านซะเปล่า พระเก่งๆก็มีเยอะถมไป น่าจะนำปัญญาทางพุทธมาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวัน เหมือนท่านวิมลเกียรติ
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
ไม่สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th