Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 มาปฏิบัติกรรมฐานหาคู่ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
jojam
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 27 พ.ค. 2004
ตอบ: 62

ตอบตอบเมื่อ: 26 ธ.ค.2005, 12:17 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ทำกรรมฐาน เพื่อหาคู่ ถ้าฟังแล้วขำก็ไม่แปลก แต่เรื่องที่จะเล่าให้ฟัง กลับขำไม่ออก

ทำไม่หรือก็ถ้า พรหมลิขิตได้ให้คนๆหนึ่ง ไปที่ๆหนึ่ง โดย ต้องอยู่ที่นั้น 7 วัน 8 คืน

อยู่กับคนร่วมกว่า 300 คน กับคนอีกคนที่คุณรู้สึกลึกๆว่าคนนี้นะใช่ ในสถานที่ ที่เต็มไปด้วยอุปสรรค์ แค่อยากรู้ดูชื่อยังไม่สามารถรู้ได้ เพียงได้สอดส่องสายตาล่วงความเป็นส่วนตัวของคนนี้ที่ใช่ได้แค่นั้น โดยทุกๆวันก็ได้แต่เพียงรอให้ถึง ตี4 รอเวลาที่จะได้เจอ รอที่จะได้เห็น ภาพนั้นๆ ซื่งไม่สามารถบอกได้ว่ามาจากสวรรค์ชั้นใด รักษาศีลอย่างไร ทำบุญให้ทานฟังธรรมอย่างไรถึงได้ งดงามเพียงนั้น ทำได้เพียงมองดูอยู่ไกลๆ แต่ก็ด้วยการหลบสายตาที่ผิดปกติ ก็แอบซ่อนไว้เต็มลิ้นชัก เมื่อคนนั้นกลับมองมา ก็บอกว่า ไม่อยากกลับ ทั้งที่ไม่มีเหตุผลใด ที่ควรอยู่ให้ครบวัน แล้ววันๆหนึ่งก็ผ่านไป การที่ท่าทีกึ่งยิงกึ่งผ่าน ก็ทำให้เรา เก็บที่จะไม่พูด เพราะอาจไม่เคยถวายลำโพงให้เป็นสมบัติวัด จึงไม่มีแรงเสียงหลุดไปถึง มีเพียงน้ำที่ให้ชะโงกดูเงาว่า จะทำครั้งเดียวให้สามารถสร้างความประทับใจก็แทบสิ้นหวัง จะถามข้อมูลเบื้องหลังก็ไม่ควร ถ้าจะคุยก็คงถามถึงการปฏิบัติ แต่ก็ยังไม่จบวันที่ 7 ซึ่งพูดคุยได้เพราะจบการปฏิบัติ จะมีเรื่องราวถ้าจะพูด ในข้อเสียเปิดใจตัวเราก็พร้อม และเพียงหวังว่าภูมิพิจารณาใดบ้างจะทำให้ รู้ถึงความเป็นตัวเรา

แต่รายละเอียดปลีกย่อยทั้งหลาย จะไม่สำคัญเลย ไม่ว่า วุฒิความรู้ ฐานะ อายุ ถ้าเป็นคู่ของกันที่พร้อมจะร่วมกรรมของกัน ไม่ว่าเราจะใช้กรรม หรืออยู่เพื่อใช้กรรมเรา เราก็พร้อม เพราะ สิ่งที่อยากได้ และที่เคยอธิฐานจิตตั้งมั่นแต่เด็กความว่า ขอให้โลกนี้ มีแต่ความสุข (ซึ่งเรื่องนี้พระพุทธเจ้าก็มีตรัสบอกไว้) และขอให้เจอคู่ที่เคยอธิฐานไว้ร่วมกัน ซึ่งยังจำได้จนถึงวันนี้ เหมือนรู้อยู่ว่ารักมาก เกลียดมาก ก็จะตามกันไปทุกภพทุกชาติ เหมือนตั้งตาคอยว่าจะมาเมื่อไร คนๆนั้นตอนนี้อยู่ที่ไหน เมื่อไรจะจำกันได้ อยากทิ้งปีเก่าไว้ อยากเริ่มปีใหม่ กับใคร ก็ลองเข้าไปดูนะ กรรมฐานหาคู่ ^^



ปล. ผมไม่ต้องการอภิญญา หรือ อยู่กับเกิดดับกับ บริกรรม ขอเพียงรู้ว่าคนๆนั้นอยู่ไหน

อยากฟังอะไร และรู้ใจเธอคนนั้น ก็พอ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
กรรมฐานทิ้งคู่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 26 ธ.ค.2005, 6:35 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



มาร่วมรับฟังแบบงงๆ งั้นลองถวายเครื่องเล่นซีดีให้วัดสักเครื่องดีไหม

พระเณรจะได้ใช้ฟังธรรมะน่ะ มีอานิสงส์ 2 ต่อจ้ะ



ปอลอ " ท่าทีกึ่งยิงกึ่งผ่าน " ต้องทำอย่างงัย วานบอก อยากรู้จริงๆอะจ้ะ
 
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 26 ธ.ค.2005, 10:44 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กราบสวัสดีคุณjojam



พระพุทธศาสนาไม่ได้สอนเรื่องอะไรนอกจากทุกข์กับความดับทุกข์ ปฏิบัติให้รู้จักทุกข์ แล้วดับทุกข์ได้ก็พอแล้ว เป้าหมายหน้าที่ที่เราจะต้องทำในชีวิตที่เกิดมา ดับทุกข์ได้ตรงนี้ ดับทุกข์ด้วยการรู้จักตัวเอง รู้จักพิจารณาตัวเอง ไม่ใช่ดับทุกข์ด้วยการมีเงินมีทองมากมาย มีทรัพย์มียศมีบริวาร มีคนสรรเสริญ มีคนชอบอกชอบใจเรามาก ไม่ใช่ดับทุกข์ได้ตรงนั้น ดับทุกข์ได้จากการที่เรารู้แจ้งในตัวเอง ปล่อยวาง ความปล่อยวางก็มาจากการที่เราต้องรู้แจ้งแทงตลอดในตัวเอง



ขอให้จิตสะอาดจิตบริสุทธิ์ ขอให้ดับทุกข์ตัวเองได้ เพราะว่ามันไม่มีอะไรเหนือกว่าการดับทุกข์ ไม่มีปัญหาอันใดมันจะเทียบเท่ากับการทุกข์ ปัญหาทั้งหลายแหล่มันก็รวมอยู่ในเรื่องของความทุกข์ สิ่งที่ควรได้ควรถึงก็คือความดับทุกข์ มียศมีลาภมีสุขสรรเสริญก็แค่นั้นเอง ถ้าไม่ได้ดับทุกข์ให้ตัวเองก็ยังทุกข์ มียศก็ทุกข์กับยศ มีลาภก็ทุกข์กับลาภ มีสรรเสริญก็ทุกข์กับสรรเสริญ ถ้าหากว่าไม่มีธรรมะเสื่อมจากลาภก็เป็นทุกข์ เสื่อมจากยศเสื่อมจากสรรเสริญได้รับนินทาก็เป็นทุกข์ถ้าไม่มีธรรมะ ถ้าถึงธรรมะเสียแล้วสิ่งอื่นก็เลยไม่สำคัญ ฉะนั้นก็จะต้องเล็งเป้าไปให้ถูกต้อง



หน้าที่ชีวิตของเราที่แท้จริงก็อยู่ที่ว่าปฏิบัติให้เข้าถึงความดับทุกข์ เรามีหน้าที่อย่างอื่นก็ทำไปตามหน้าที่ แต่ว่าหน้าที่ของชีวิตจริง ๆ ต้องอยู่ที่การปฏิบัติเพื่อความดับทุกข์ เรามีหน้าที่เป็นสามีภรรยา เป็นพ่อเป็นแม่ เป็นครูเป็นอาจารย์ก็ทำหน้าที่ไปตามหน้าที่นั้น ๆ น่ะ แต่ต้องรู้ว่าหน้าที่สำคัญของชีวิตอีกอันหนึ่งก็คือการดับทุกข์ให้ตัวเอง แต่เราอยู่ในโลกอยู่ในสังคมก็ต้องทำหน้าที่ของโลกไปตามสมมุติ จะไปทิ้งหน้าที่อะไรทุกอย่างก็ไม่ได้ นั่นก็คือการปฏิบัติธรรมะแต่เป็นธรรมะที่จะอยู่กับโลก อยู่กับความถูกต้องของโลก ก็ต้องทำแต่ไม่ใช่ทำเอาจริงเอาจังกว่านั้นคือทำไปตามหน้าที่ของการมีหน้าที่นั้น ๆ แต่สิ่งที่เราจะต้องเอาจริงเอาจังสนใจเล็งเป้าหมายไปถึงก็คือการเรียนรู้สภาพธรรมในตัวเอง เจริญสติสมาธิให้รู้แจ้งในตนเอง





http://www.mahaeyong.org/
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
jojam
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 27 พ.ค. 2004
ตอบ: 62

ตอบตอบเมื่อ: 27 ธ.ค.2005, 2:56 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ท่ากึ่งยิงกึ่งผ่านหมายความว่า



ถ้าเพื่อนในกลุ่ม 4 คน ใครชอบก็ยกส่งให้ แต่ หากมองว่า กองหลัง หลวม น่าเสี่ยงก็ จะยิงเอง



ปล. บางสิ่งถูกกำหนดมา บางสิ่งสามารถเลือก โดยไม่มีเหตุผลที่บอกออกมาได้ เพราะไม่มีการคาดก่อน มันมาจากอะไรที่คุณรู้สึกได้ มาจากลึกๆ ในใจ โดยตัวคุณเอง
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
คนจร
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 27 ธ.ค.2005, 6:05 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เป็นแค่การคิดเรื่องกาม อันตรงกันข้ามกับกรรมฐาน
 
jojam
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 27 พ.ค. 2004
ตอบ: 62

ตอบตอบเมื่อ: 27 ธ.ค.2005, 11:23 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ถ้าคุณสามารถแผ่เมตตาได้ ให้เขาคนนั้นได้ ความเข้าใจเรื่องเมตตาจะลึก หากดูแคลน

ว่าเมตตาที่เต็มร้อยไม่มี ไม่สามารถเจริญได้ กายที่เป็นก้อนทุกข์ ไม่สามารถสงบจากเวทนาได้

ยกเว้นจะสงบเมื่อตาย ความคลั่นเนื้อคลั่นตัว ความเกร็ง ไม่สามารถระงับ ได้ เพียงตามรู้ และรับ ก็ไม่ผิด แต่อาจเป็นได้ว่ายังไม่ถึง ยังไม่ได้เริ่ม ถึงความเข้าใจ ถึงคำว่าอย่าประมาท



ปล. อย่ากล่าวอย่างนั้นเราเองก็เกิดมาจากกาม (พุทธพจน์)

(เป็นเพียงฆราวาส ศีล5 ถ้ายังไม่หxxxรรม กรรมฐานที่รู้จะบอกว่า จะให้แก้ หรือ ใช้กรรม)

ผลของแรงอธิฐาน มันแก้ได้เปลี่ยนได้ แต่ถ้าคุณมาจำได้ ระลึกได้เมื่อสายอาจมีแค่คำว่า

"เสียใจ"

สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
โจโฉ คับ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 27 ธ.ค.2005, 11:59 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

โอ้ แม่เจ้า.. ท่าจะเป็นเอาหนัก



เข้าวัด เขาให้สำรวมอะ เห็นอะไรก็ต้องพิจารณา

ถ้าไม่ผ่าน ก็คงต้องเวียนว่ายอีกเยอะ



จิตที่คิดแบบนั้นขณะไปปฎิบัติ ย่อมทำให้เหมือนเข้าวัดโดยเสียเวลาเปล่า

ถือศีลแปด แต่จิตคิดถึงแต่สาว มองดูจิตดีๆ นะครับ

ว่าต่างอะไร กับการดูหนัง ดูทีวี ดูละคร หรือเครื่องย้อมใจต่างๆ



แต่เข้าใจนะ ผมก็เป็นบ่อย ที่ไปวัด แล้วเจอคนน่ารัก แล้วอด คิดไม่ได้

แต่ก็หนี พยายามไม่สน หรือ ย้ายวัดไปเลย

เพราะผมไปวัดเพื่อจะไปเอาบุญอะ ไมได้ไปเพิ่มความอยาก

ต้องเลือกอะคับ แต่ถ้าพอใจจะอยู่กับกองทุกข์



ก็เป็นสิทธิ์ที่ถูกต้องที่ทำได้ ไม่ได้เสียหายอะไรอะคับ



แต่โฉนะ พอออกมานอกวัด แล้วค่อยหื่นอะ ปกติก็เป็นผี

แต่เข้าวัดแล้วแปลงร่างเป็นเทวดาในทันที



ผมไม่ได้ดีไปกว่า จขกท หรอก แต่โฉเลือกเวลา และสถานที่ ที่จะให้กิเลสทำงานในบางจังหวะ อิๆๆๆๆๆ



เอาใจช่วยน้า ขอให้สมหวัง แต่บางทีระวังจะร่วงจากที่สูงอะ



คนสวยมาก แล้วอยู่ในศีล เป็นนักปฎิบัติ

ถ้าเราไม่ดีพอ ไม่ได้ระดับเดียวกับเขา ก็ครองคู่กันยาก



แล้วเขาสนใจเราแล้วหรือยังอะคับ ถ้าเขาไม่มีทีท่าเลย

ไม่น่าเรียกว่าเจอคู่แท้ไรนั่นหรอก เป็นการเข้าข้างตัวเองมากกว่า



การอธิฐาน อาจไปประจวบเหมาะ บังเอิญให้ต้องไปเจอ คนที่เขามีบุญ

ซึ่งคนมีบุญก็เข้าวัดเป็นปกติ แล้ว ก็หน้าตางดงาม ก็เป็นเรื่องปกติ

ของคนมีบุญ อะ ..



จะเรียกว่าพรหมลิขิตเหรอ ที่ได้ไปเจอกันอะคับ ผมไม่เคยอธิฐานไรเลย

แต่เจอคนหน้าตาดีๆ เพียบๆๆ เวลาไปวัด หรือไปไหนก็ตาม

บางทียังเจอจีบในวัดซะด้วยซ้ำ .. แต่ผมเรียกว่า มารผจญอะ



ทุกอย่างพูดตามความคิดตัวเอง อย่าเชื่อผมนะ

บางทีผมอาจจะยังไม่รู้รายละเอียดดีพอก็ได้อะ



แต่ว่า ถือซะว่าแลกเปลี่ยนความคิดเห็น มาแจม เฉยๆ อะคับ





รักนะ.. เพื่อนมนุษย์
 
jojam
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 27 พ.ค. 2004
ตอบ: 62

ตอบตอบเมื่อ: 27 ธ.ค.2005, 7:38 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอบคุณครับที่ เมตตา



ปล. แต่ก่อนปู่เคยเล่าให้ฟังว่า ผู้หญิง จะมีโอกาส เลือกคู่ แค่ตอนไปวัด ^^

อิอิ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
กรรมฐาน นักบอล?
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 27 ธ.ค.2005, 9:37 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ไปห้องสมุดกะร้านหนังสือก็เวิรรร..ค อิอิ



เอาลิงค์มาฝากเจ้าของคำถามให้อ่านสนุกๆ อาจได้คติธรรมดีๆ



1. โสด นี่เป็นเพราะบุญ หรือบาปกรรมที่ทำไว้กันแน่
http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y3961067/Y3961067.html



2. ถามเรื่องเนื้อคู่ที่จะไปเกิดบนสวรรค์
http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y3962485/Y3962485.html
 
jojam
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 27 พ.ค. 2004
ตอบ: 62

ตอบตอบเมื่อ: 28 ธ.ค.2005, 12:10 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

- เรื่องที่ว่าถือศีล 8 ตอนปฏิบัติ ก็ถือ อาชีวกะศีล ที่ ถือเพียงกาเม กิน 3 มือ ไม่ได้เป็น ศีลอุโบสถ

(ปรับความเข้าใจ) * ศีลน้อยถึงใครรักษา ก็ควรอนุโมทนา



- เรื่องที่โสดนี่เป็นเพราะบุญ หรือบาปกรรมที่ทำไว้กันแน่

สำหรับผม ถ้าคุณอยู่ คนเดียวก็ทุกข์ ไปอยู่กับคนอื่นก็ทุกข์ จะโสดหรือ มีคู่ ก็เป็นทุกข์ เป็นคนละส่วน กัน



ปล. ขอบคุณที่ยก ลิงค์ มาให้อ่าน มาเตือนด้วยความหวังดี สาธุ

 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
ZERRO
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 30 ธ.ค.2005, 10:10 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พระท่านสอนให้ละ ไม่ได้สอนให้ถือ
 
jojam
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 27 พ.ค. 2004
ตอบ: 62

ตอบตอบเมื่อ: 30 ธ.ค.2005, 5:25 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ที่ท่านตักเตือนมา ขอขอบคุณในความเมตตา

พระท่านสอนให้ละกิเลส สอนให้ละความชั่ว สาธุ...



ถ้าบอกว่าการมีคู่นั้น เหตุมาจากกายที่มีความต้องการ จึงหาเข้ามา อาจด้วยผลประโยชน์

อาจต้องการอิสระ ก็ไม่ผิด



บางทีตอนผมอ่านพระสูตร ของพระอัครเบื้องซ้าย และเบื้องขวา ก็ทำให้เห็นอาไรบางอย่าง

พระสารีบุตร ครั้นเป็นปุถุชน เมื่อได้เจอ พระอัสชิ ได้ดวงตาเห็นธรรม แต่ก็ไม่ได้ ตามท่านอาจารย์ไป ไม่ตามไปหาพระศาสดา กลับย้อนไป กลับไปหาพระโมคลานะ(ฆราวาส)

เพื่อแสดงว่า ที่เคยสัญญาไว้ว่า หากใครเห็นธรรมวิเศษ ก็จะไปบอกอีกคนทันที แม้ว่าตอนหลังท่าน พระสารีบุตรเป็นพระอรหันต์ ก็ยังไต่ถาม ถึงพระอัสชิ เพื่อจะนอนหันหัวไปทางทิศของ ครูบาอาจารย์ พากัน ช่วยประกาศศาสนา (บางสิ่งอาจเป็นสิ่งที่ไม่มีเหตุผลไม่สามารถคาดการณ์ได้)



บางทีกฎของนิยาม 5 ไม่สามารถที่จะรู้ได้ เพราะมีปัจจัย มากมาย แต่การที่ยังตัดไม่ได้

อาจเป็นเพราะบุญกรรม ที่ยังไม่สามารถ ตัดพันธะได้ แต่ของ ยืนยันว่า การมีคู่

ไม่ได้เป็นความชั่ว



ปล. ผมเข้าใจถึงความมีเมตตา ของทุกท่าน แต่ถ้าคุณเห็นธรรม หมายถึง ถึงยอดเขา แต่คุณ ไม่ได้ช่วยใคร (แม้ปิดทางอบายให้ - ชีวิตนี้น้อยนัก) ถึงเวลานั้น คุณอาจว่าเวลา และเป้าหมาย

สำคัญแต่อาจมี บางอย่างที่ ความรู้สึกลึกๆคุณบอกได้ ก็สำคัญ



 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 30 ธ.ค.2005, 8:58 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

..........เคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า.....ไม่มีวิธีไหนที่จะเอาตัวเองออกจากบ่วงของความรัก นอกจากผจญกับมัน.....ในที่สุด ฉันก็เข้าใจและรับรู้ถึงความรู้สึกในความหมายของคำว่า " รัก "..... มณี ปัทมะ ตารา




http://www.dhammajak.net/webboard/show.php?Category=dhammajak&No=1262
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
jojam
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 27 พ.ค. 2004
ตอบ: 62

ตอบตอบเมื่อ: 01 ม.ค. 2006, 7:19 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ไปกรรมฐานปีใหม่ ไปที่เดิม ไปดูงานไปได้ดี ได้เริ่มต้นดีๆ

แต่ไม่เจอคนนั้น แต่ก็รู้สึกดีนะที่ได้ ไประลึก ยังรู้สึกดี



ปล. มะรู้ว่า เจอ บรรยากาศเดิมๆ เธอจะคิดเหมือนผมปล่าว
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
Pat
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 29 ธ.ค. 2005
ตอบ: 9

ตอบตอบเมื่อ: 01 ม.ค. 2006, 9:38 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

โมทนาสาธุในความดีของท่านทั้งหลาย



เท่าที่ผมได้อ่ากระทู้นี้มา สงสัยว่าจะหยุดไม่อยู่จริงๆ (และงงมากกับคำพูดหลายๆอย่างของผู้ที่เข้ามาเขียนกระทู้)

กรรมนั้นให้ผลอย่างยุติธรรม

พอไม่ได้เจอก็บ่นหาว่าเธออยู่ไหน อยากเจฮเธอเหลือเกิน

ฉันได้ให้คุณค่า กับเธอไว้เรียบร้อยแล้ว

ก็ไม่ว่ากัน ต้องเข้าใจว่าคนเรามีกรรมเป็นของตน



จะบ่นหา จะคิดถึง จะละเมอ จะทำอะไรก็แล้วแต่ ขออย่าผิดศีล 5 ก็แล้วกัน ยึดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งอันประเสริฐ



กำลังใจที่จะตัดกามนั้นยังไม่พอ ก็เอาแค่เบื้องต้นก่อน



ขอให้มีความสุข สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
jojam
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 27 พ.ค. 2004
ตอบ: 62

ตอบตอบเมื่อ: 03 ม.ค. 2006, 2:38 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อดได้ ทนได้ ทำใจได้

อด เป็นอาการที่ อยากจะได้ แต่ไม่ได้

ทน เป็นอาการที่ ไม่อยากได้ แต่ต้องได้



(วัดป่านานาชาติ)



ความกลัว ความไม่พอใจ และกาม

มาจากเหตุเดียวกัน



ขอให้มีขันติ เหมือน จันทกุมาร

ขอให้ใจ อย่าเร็ว เหมือน เตมีย์ใบ้



รู้เท่าไว้กัน รู้ทันไว้แก้ (วัดอัมพวัน)



ปล. ขอให้พากันเจริญเมตตานะ อดทนในสิ่งที่ควรอดทนด้วยความเต็มใจ และพอใจ

(ขออนุโมทนา เจ้าของเวปที่ไม่ แบน กระทู้นี้)

* จบและปิดกระทู้*
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง