Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
ที่มาของคนยุคปัจจุบันกับคนสมัยพุทธกาลต่างกันอย่างไร
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
tanawat30
บัวบาน
เข้าร่วม: 15 พ.ย. 2005
ตอบ: 256
ตอบเมื่อ: 09 ธ.ค.2005, 10:06 am
กห่อนที่ผมจะพูดถึงปัจุบัน ขอพูดถึงอดีตหรือไนสมัยพุทธกาลก่อน ในสมัยพุทธกาลนั้น พุทธศาสนามีรากฐานมาจากศาสนาฮินดู ซึ่งศาสนาฮินดูนับถือบูชาองค์เทพต่าง ๆ ตามหลักของการที่จะติดต่อพูดคุยกับเทพและสิ่งศักดิ์สิทืธิ์ได้นั้น ผู้นั้นต้องปฏิบัติสมาธิภาวนาให้ได้เสียก่อน เมื่อปฏิบัติสมาธิภาวนาได้แล้ว เทพแต่ละพระองค์ท่านจะสอนพวกเราผ่านทางสมาธิ ซึ่งลักษณะของเทพ คือท่านจะบอกให้เราไปทำบางอย่างที่เราต้องทำ โดยที่ท่านไม่บอกเหตุผล ถ้าไม่ทำตามนั้นเดือดร้อนอย่างไรท่านก็ไม่บอก หรือทำแล้วได้ผลดีอย่างไรท่านก็ไม่บอก แล้วปล่อยให้เวลาผ่านไปช่วงหนึ่ง ถ้าเราทำตามที่ท่านบอกสิ่งดีจะเกิดขึ้น ถ้าเราดื้อไม่ทำตามที่ท่านบอกเราจะได้รับความเดือดร้อน ทำให้คนที่นับถือศาสนาฮินดูปฏิบัติตามที่เทพแต่ละพระองค์ท่านบอก โดยที่ไม่คิดหาเหตุและผล ว่ารทำไมถึงทำแล้วดี หรือไม่ทำแล้วเดือดร้อน ซึ่งที่จริงแล้วเทพท่านคิดให้เราหมดแล้ว แต่เนื่องจากท่านกับเราอยู่กันคนละภพ การที่ท่านจะอธิบายเหตุผลยาว ๆ ไม่เป็นการสดวก เพราะเราจะรับอธิวจนจากท่านได้มากแค่ไหนและนานแค่ไหน ดังนั้นเราต้องคิดเอง ด้วยเหตุนี้เองทำให้คนไม่มีความคิด หาเหตุผลเองไม่ได้ หรือได้ก็ส่วนน้อย เพราะปฏิบัติตามแล้วดีก็จบกันไปแค่นั้น จึงเป็นที่มาของคำสอนของพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้าหรือ พระศรีศากยมุนีโคตามี โดยปรัชญาที่ว่า คนไม่มีปัญญา เพราะฉะนั้น คำสอนจึงต้องบอกให้ละเอียด บอกว่าปฏิบัติอะไรบ้าง เช่น มรรค 8 ได้แก่ ทำสมาธิให้ถูกวิธี พูดให้ถูกวิธี ใช้สติให้ถูกต้อง ฯลฯ หรือคำสอนอื่น ๆ ที่มีปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกก็เป็นลักษณะเดียวกัน ดังนั้นความทุกข์ของคนสมัยพุทธกาล คืออยากไปอยู่กับเทพที่ตนนับถือ แต่ไม่รู้วิธีว่าปฏิบัติอย่างไร จึงจะได้ไปอยู่กับเทพอย่างที่เราต้องการได้
ก็มาถึงมนุษย์ยุคปัจจุบัน มีปัญญามาก เป็นคนใฝ่รู้ แต่เป็นคนไม่ใฝ่ธรรม เอาแต่กิเลส โลภ โกรธ หลง อยู่เป็นนิจ เป็นคนที่อยากได้อะไรมาง่าย ๆ ความทุกข์ของคนยุคนี้คือการถือตัว ถือหลักปฏิบัติ แต่ไม่ปฏิบัติ ชิงดีชิงเด่นกันในเรื่องข้อธรรมคำสอน ของบพระพุทธองค์ หรือตำรา ซึ่งล้วนก่อให้เกิดทุกข์ต่อมนุษย์ยุคปัจจุบันทั้งสิ้น ดังนั้น แนวทางการสอนพุทธศาสนาสมัยใหม่ จึงต้องปรับให้เข้ากับคนยุคปัจจุบัน เช่นอริยสัจ 4 จึงเป็นเหตุให้พระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ ทั้งที่เคยมีมาในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตจึงต้องมาตรัสรู้อริยสัจ 4 เพื่อมาบอกคนในยุคสมัยของท่าน ให้สอดคล้องกับเหตุปัจจัยที่เกิดขึ้นจริงตามสภาพปัจจุบัน
วิธีการสอนในยุคสมัยนี้จึงต้องเปลี่ยนไป ธรรมมะที่มีให้ต้องให้มนุษย์ไปคิดหาเหตุผล หาคำตอบให้มากขึ้น จะบอกเฉพาะวิธีการปฏิบัติหลัก ๆ ที่สำคัญและจำเป็นต้องบอกเท่านั้น เพื่อทำให้มนุษย์ในยุคนี้เกิดปัญญาจากการปฏิบัติได้ด้วยตนเอง
_________________
ไม่มีเรื่องส่วนตัวนะครับ
ปุ๋ย
บัวเงิน
เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
ตอบเมื่อ: 11 ธ.ค.2005, 4:39 pm
ความหมายที่สื่อออกมาทางรูปลักษณ์ของเทพ มหาเทพ ในศาสนาฮินดู ไม่ว่าจะเป็นรูปเหมือน หรือรูปภาพ ล้วนแล้วแต่สื่อความหมายในเรื่องการปฏิบัติเดินปรานผ่านจักร ตันตระ การรวมเข้าสู่ความเป็นศูนย์ ชื่อเทพ มหาเทพแต่ละองค์ที่สื่อความหมายออกมานั้น ล้วนสื่อให้ทราบถึงการเป็นประธานจักรตามตำแหน่งต่างๆในร่างกายมนุษย์ ไม่ได้สื่อความหมายให้มนุษย์ทำ หรือไม่ทำอะไร ไม่มีตัวตนอย่างที่เข้าใจกัน
เจริญในธรรม
มหะศักติ กาลิ
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
ไม่สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th